Skip to main content

 

ตรุษจีนทำไมต้องเชิดมังกรหรือสิงโต

 

เล่าโดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน

 

ภาพจาก http://www.gagdaily.com

 

ประเทศไทยเป็นพหุสังคม คนไทยเป็นประชากรส่วนใหญ่โดยต้องไม่ลืมว่าเพื่อนร่วมชาติที่มีเชื้อสายจีน มลายู เขมร มอญ ลาว ญวน อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน ฯลฯ มีอยู่มากมาย ยิ่งรู้จักกันมาก การพัฒนาชาติและสังคมก็ยิ่งทำได้ง่าย ช่วงนี้คนไทยเชื้อสายจีนกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ลองไปดูกันว่าคนจีนเขาฉลองอะไร ทำไมต้องเชิดสิงโต ทำไมต้องจุดประทัด ทำไมต้องไหว้เจ้า ทำไมต้องขนมเหนียว ขนมหวาน

“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ที่มีเชื้อสายทางตอนใต้ของประเทศจีนนิยมใช้กันโดยแปลว่า ขอให้สุขสมหวัง ปีใหม่นี้ขอให้โชคดี หากมีเชื้อสายจีนทางเหนือก็ต้องใช้คำว่า “ซันเจงหยี่ยี ซันหนินฝัดฉ่อย” รู้ๆกันอยู่ว่าคนไทยจำนวนมาก อาจมากกว่าร้อยละ 20 เสียด้วยซ้ำที่มีเชื้อสายจีน ตัวผมเองจะว่าไปมีเชื้อจีนกับเขาด้วยเหมือนกัน มากถึงหนึ่งในสี่เสียด้วยซ้ำ

อยากรู้ว่าทำไมวันตรุษจีน คนจีนทางตอนเหนือจึงนิยมเชิดมังกร ส่วนทางตอนใต้เขาเชิดสิงโต แถมจุดประทัดกันสนุกสนาน เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปดูตำนาน คำว่าตำนานแม้ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องจริงแต่มีความสำคัญต่อความเชื่อศรัทธา มีส่วนทำให้ผู้คนเชื้อสายเดียวกันผูกพันกัน ดังนั้นหากรู้ตำนานของเพื่อนเราที่มีเชื้อสายจีน ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อความรักสามัคคีของคนในชาติ จึงจำเป็นต้องรู้จักเพื่อนเราให้มากขึ้นอีกสักหน่อย

ตำนานกล่าวว่าเมื่อย้อนหลังไปหลายพันปี คนจีนในเมืองจีนยังชีพอยู่ได้ด้วยอาชีพเกษตรกรรม เมื่อผู้คนหาสินทรัพย์และอาหารได้มากเกินตัวก็มักคิดถึงแต่ตนเองและครอบครัวลืมคิดถึงทวยเทพ ผลคือทวยเทพหรือแม้กระทั่งบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเกิดอาการอดอยากปากแห้งเพราะไม่มีใครนึกถึง

เจ้าแห่งทวยเทพ (บ้างก็ว่าเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้บ้างก็ว่าเป็นองค์อื่น) อดรนทนพฤติกรรมมนุษย์ไม่ไหวจึงสาปให้โลกเจอภัยพิบัติถึงห้าปีติดต่อกัน ปีแรกฝนไม่ตกจนทำการเกษตรไม่ได้ ปีที่สองต้นไม้ใหญ่ไม่ให้ผล ถึงปีที่ห้าน้ำในบ่อคูคลองแม่น้ำพากันเหือดแห้งไปหมด เด็กทารกไม่มีนมแม่ดื่มเพราะนมแม่ในหัวอกมารดาต่างก็เหือดแห้งตามแม่น้ำไปด้วย

นางพญามังกรหลิงแห่งมหาสมุทรทนฟังเสียงเด็กทารกร้องไห้เพราะหิวนมวันแล้ววันเล่าไม่ไหว วันหนึ่งเธอก็โผล่ขึ้นจากมหาสมุทรพาเอามวลไอน้ำจากมหาสมุทรเข้าฝั่งกลายเป็นฝนตกไปทั่วทั้งแผ่นดิน เจ้าแห่งเทพรู้เข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเห็นว่าเธอขัดราชโองการจึงสั่งลงโทษด้วยการสับร่างของเธอขาดเป็นหลายท่อนแล้วโปรยร่างของเธอลงมาบนโลก ให้มนุษย์ได้เห็นว่าใครกันแน่ที่ปกครองโลก

มนุษย์ซึ่งก็คือคนจีนบนแผ่นดินเมื่อได้เห็นต่างตกอกตกใจช่วยกันนำร่างของนางพญามังกรมาเย็บเข้าด้วยกันด้วยด้ายไหมเส้นยาว จากนั้นจึงนำเอาไม้มาต่อร่างของเธอแล้วพากันเชิดเพื่อให้นางพญามังกรได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง ทั้งยังพากันเผาไม้ไผ่ส่งเสียงดังอึกทึกเพื่อปลุกเธอให้ฟื้นคืนชีพ วันแล้ววันเล่าปีแล้วปีเล่าเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นคืนชีวิต แต่คนจีนยังไม่ยอมลดละ จัดการเชิดมังกรจุดประทัดจนกลายเป็นประเพณี

ทุกวันตรุษจีน คนจีนพากันรำลึกถึงนางพญามังกรหลิง คนจีนทางเหนือยังคงประเพณีเชิดมังกรไว้ ส่วนคนจีนทางใต้ปรับเปลี่ยนมังกรให้มีขนาดเล็กลงกลายเป็นสิงโตไปในที่สุด แต่หากลองสังเกตดูจะเห็นว่าสิงโตจีนมีเขามังกรซ่อนอยู่ที่หน้าผากด้วย ที่แท้ก็เป็นมังกรหลิงตามตำนานนั่นเอง

นอกจากเชิดมังกรหรือสิงโตแล้ว ยังมีเรื่องของการไหว้เจ้า การใช้ขนมสารพัดสี รวมทั้งการใช้ข้าวเหนียวในการไหว้ทำไมต้องทำอย่างนั้น ลองตามอ่านกันเองก็แล้วกัน