Skip to main content

พ่อคนร้ายที่เสียชีวิตระบุ ลูกชายเป็นคนดีอาจถูกบังคับร่วมขบวนการ

มารียัม อัฮหมัด
ปัตตานี
    TH-attack-father-1000
    นายมะรูดิง อาแว บิดาของนายนูร์อาซัน อาแว คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิต พูดคุยกับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560
     มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในวันศุกร์ (18 สิงหาคม 2560) นี้ บิดาของนายนูร์ฮาซัน อาแว หนึ่งในคนร้ายที่เสียชีวิตระหว่างก่อเหตุปล้นรถ ยิงตัวประกัน และวางคาร์บอมบ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กล่าว ตกใจมากเมื่อมีคนโทรมาบอกให้ไปรับศพลูกชาย พร้อมระบุลูกชายเป็นคนดี มั่นใจว่าลูกคงถูกบังคับให้ทำ ด้านเจ้าหน้าที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลาและปัตตานีแล้ว โดยเชื่อว่าคนร้ายมี 3 กลุ่ม เตรียมออกหมายจับ 15 ราย

    นายมะรูดิง อาแว บิดาของนายนูร์อาซัน อาแว คนร้ายที่เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่บริเวณเกาะหม้อแกง อ.เทพา จ.สงขลา ในเหตุปล้นรถ และยิงตัวประกันเมื่อวันพุธ กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า บุตรชายของตนเป็นคนดี ไม่เชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มขบวนการ

    “ตกใจมากตอนที่มีคนโทรมาบอกให้ไปรับศพลูกชายที่โรงพยาบาล ตอนแรกที่รู้เรื่องไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนอย่างที่ถูกกล่าวหา เพราะเขาเป็นเด็กดีอยู่ในกรอบตลอด ที่สำคัญเขามีงานทำที่มั่นคง มั่นใจว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกชายต้องตกมาอยู่ในสภาพนั้น เพราะมีคนบังคับเขาอีกที เขาไม่ได้ทำเพราะสมยอมแน่นอน” นายมะรูดิงกล่าว

    “ที่ผ่านมาทางบ้านไม่เคยเห็นพฤติกรรมว่า ลูกจะเป็นคนร่วมขบวนการ ไม่มีข้อมูลแบบนี้เลย เขาใช้ชีวิตปกติวันๆ อยู่ที่บ้าน แล้วไปทำงานฝ่ายบัญชีของโรงเรียนที่เขาเคยเรียน และสอนที่นั่นอีก” นายมะรูดิงกล่าวเพิ่มเติม

    นายมะรูดิงระบุว่า ครอบครัวได้ประกอบพิธีมีการอาบน้ำศพ และละหมาดตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ได้ทำพิธีตามหลักการตายในสาฮีด (ตายในสงคราม) เนื่องจากไม่เชื่อว่าบุตรชายจะร่วมขบวนการ และไม่ยอมรับกับข้อมูลนั้น

    พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานจำนวนมากจากวัตถุพยาน ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ และภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 15 คนในไม่ช้านี้

    “จากหลักฐานการให้ข่าวสารของประชาชน กล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถระบุกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นรถเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มนายซอบือรี เจ๊ะหะ ทำหน้าที่ปล้นรถ 1 คันจากพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กลุ่มนายมะนาเซ ไซดี ก่อเหตุปล้นรถ 6 คันที่ อ.นาทวี จ.สงขลา และกลุ่มนายบูคอลี หลำโสะ ชุดประกอบระเบิดแสวงเครื่องให้เป็นรถคาร์บอมบ์ ก่อนจะให้แนวร่วมขับออกไปเตรียมการก่อเหตุตามจุดที่มีการกำหนด” พล.ต.จตุพรกล่าว

    “เชื่อว่าตอนนี้ กลุ่มนายบูคอลี ยังคงหลบซ่อนตัว และเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กลุ่มนายมะนาเซ หลบซ่อนตัวอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.ยะรัง อ.มายอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และแหล่งประกอบระเบิด อาจอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ติดเขต อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา” พล.ต.จตุพร กล่าวเพิ่มเติม

    พล.ต.จตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ ต.บางเขา ต.ท่ากำชำ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก และ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี แต่ขบวนการปฎิบัติการนอกเขตพื้นที่ ซึ่งเหนือการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้เกิดเหตุขึ้น

    ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ประพัฒน์ ศรีอนันต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร อ.นาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า คาดว่าหมายจับจะสามารถออกได้ภายใน 2 วัน ที่จะถึงนี้ สำหรับผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่อำเภอนาทวี จังหวัดปัตตานีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ดังกล่าวจะเป็นผู้รับผิดชอบ

    “เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุประมาณ 4 ราย และเมื่อได้หลักฐานครบถ้วนแล้ว จะไปยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดนาทวี เพื่อขออนุมัติหมายจับใน 1-2 วันนี้ ในสองข้อหาสำคัญ คือ 1. ร่วมกันปล้นทรัพย์ 2. ทำร้ายและทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตามกฎหมายอาญามาตรา 340 ผู้ใดชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ และถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต” พ.ต.อ.ประพัฒน์กล่าว

    ในวันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มที่ก่อเหตุปล้นรถ และคาร์บอมบ์ครั้งนี้ อาจเป็นสมาชิกบีอาร์เอ็นที่ไม่ได้ร่วมเวทีพูดคุยสันติสุข อย่างไรก็ตามกระบวนการพูดคุยสันติสุขจะดำเนินต่อไป โดยขณะนี้กำลังเข้าสู่การพูดคุยเพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 5 จุด และเชื่อว่าสถานกาณ์ในภาคใต้จะดีขึ้นตามลำดับ

    ในวันพุธที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย 7 คน บุกปล้นรถยนต์ไป 6 คัน จากเต๊นท์ขายรถมือสองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา พร้อมจับตัวพนักงานไปเป็นตัวประกัน 4 คน ในขณะหลบหนีใช้อาวุธปืนยิงตัวประกัน 2 คน ทำให้นายสหรัฐ เเหละหนิ๊ หนึ่งในตัวประกันเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งราย และอีก 2 ราย สามารถหลบหนีได้

    ต่อมานายนูร์ฮาซัน อาแว อายุ 25 ปี หนึ่งในคนร้ายได้ขับรถแหกด่านตรวจนำเภอเทพา จึงเกิดการยิงต่อสู้และเสียชีวิตลง ส่วนคนร้ายที่เหลือสามารถหลบหนีไปได้ และใช้รถยนต์ที่ขโมยไปก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในเวลาต่อมา

    และในเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี คนร้ายได้นำรถยนต์ที่ปล้นมาจากอำเภอนาทวี มาวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้าบ้านพักข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธร อำเภอมายอ ปัตตานี ทำให้บ้านพักเสียหาย 10 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบรถที่คนร้ายปล้นและใช้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว

     

    เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-violence-family-08182017140811.html