Skip to main content

จดหมายเปิดผนึก

ถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และบุคลากรในองค์กรทุกท่าน

เรื่อง ขอให้รักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และอุดมการณ์ขององค์กรผู้คุ้มครองสิทธิอย่างแท้จริง

ในฐานะของประชาชนคนหนึ่งที่คลุกคลีอยู่กับผู้ถูกละเมิดสิทธิในรูปแบบต่างๆ และในฐานะของเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรนักพัฒนาเอกชนภาคใต้ หรือ กป.อพช.ใต้ และองค์กรภาคีเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานด้านการพิทักษ์สิทธิของชุมชน และสิทธิของประชาชนทั่วไป ซึ่งมีความห่วงใยในสถานะภาพและเกียรติยศศักดิ์ศรีของความเป็นองค์กรของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในขณะนี้ ในฐานะที่ท่านทั้งหลายอยู่ในองค์กรที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในด้านการคุ้มครองและรักษาไว้ซึ่งสิทธิของประชาชนตามกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงขอให้เปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากความรู้สึกด้วยใจจริง

ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี พ.ศ. 2540 ได้สร้างมาตรฐษนการรับรอง และคุ้มครองสิทธิประชาชน และสิทธิชุมชนไว้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งในมิติของการดำรงรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิต วัฒนธรรม สังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ที่ล้วนได้รับการคุ้มครองดูแลไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นอย่างเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้้ และถึงแม้จะมีการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไปแล้ว หากในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 ก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานในเรื่องดังกล่าวไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งตลอดห้วงเวลาดังกล่าวนั้นได้มีการใช้เครื่องมือ และกลไกของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง จนได้นำไปสู่การจัดการ แก้ไข และคลี่คลายปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิในรูปแบบต่างๆได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการถูกละเมิดสิทธิของชุมชนที่ถูกกระทำจากนโยบายของรัฐ หรือโดยเอกชนที่เข้าไปสร้างความเสียหายจนเป็นผลกระทบในรูปแบบต่างๆทั้งปริบทของปัจเจกบุคคล และชุมชนส่วนรวม

การดำเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดปัจจุบัน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ยังเป็นความคาดหวังของสังคม และประชาชนผู้ถูกละเมิดสิทธิทั้งหลาย ที่ต้องการเห็นการดำรงไว้ซึ่งมาตรฐานของการทำงานเพื่อให้มีการพิทักษ์สิทธิของประชาชน และชุมชนอย่างแข็งขันตามอุดมการณ์ของนักสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง ยิ่งเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติอย่างเช่นที่เป็นอยู่นี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องอาศัยการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ และบุคคลากรขององค์กรที่มีความกล้าหาญพอที่จะธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของความเป็นองค์กรอิสระที่จะต้องทำหน้าที่ในการติดตาม และตรวจสอบการละเมิดสิทธิในทุกรูปแบบที่กระทำโดยใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล ราชการ นักการเมือง หรือเอกชนอื่นใด ที่ไม่ยำเกรงต่อสิทธิอันพึงมีของประชาชนตามที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และในกฏหมายต่างๆ

จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันปฏิบัติงานโดยการเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะต้องเอื้ออำนวยให้มีการเข้าถึงกลไกของการพิทักษ์สิทธิในทุกรูปแบบ และจะต้องลดท่าที หรืออคติที่มีต่อกันจนอาจจะเป็นอุปสรรคให้การทำงานขององค์กรจนไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะเป็นการเสียโอกาสในการเข้าถึงสิทธิของประชาชนไปโดยใช่เหตุ และด้วยความเคารพในความเป็นองค์กรพิทักษ์สิทธิเพียงหนึ่งเดียวของประประเทศที่ยังเป็นความหวังในรัฐธรรมนูญ จึงขอให้กำลังใจกับบุคคลากรทุกคนทุกท่านในองค์กรนี้ ที่ยังคงมีความตั้งใจ มุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะทำหน้าที่นี้ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของตน เพื่อรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ขององค์กรอย่างถึงที่สุด เพราะด้วยความเชื่อที่ว่าการทำหน้าที่ของท่านด้วยความสุจริตใจคือคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แม้เพียงได้ช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิเพียงคน หรือชุมชนเดียวก็ตาม

ขณะเดียวกันนี้ หากมีผู้ใดที่หวังเพียงใช้อำนาจหน้าที่ตรงนี้เพียงเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ และจริตส่วนตน และยังยึดมั่นอยู่บนฐานอคติต่อบุคลากร และต่อเพื่อนร่วมงานอย่างไร้เหตุผล จนทำให้องค์กรไม่สามารถที่จะดำเนินงานได้ตามบทบาทหน้าที่อันพึงมีนั้นแล้ว ก็ขอให้บุคคลนั้นโปรดพิจารณาทบทวนตนเอง ตลอดถึงทบทวนแนวคิดอุดมการณ์สิทธิมนุษยชนของตนเสียใหม่ ว่าผิดเพี้ยนไปจากอุดมการณ์ขององค์กร และของเพื่อนร่วมงานอย่างไร หรือไม่ มิเช่นนั้นแล้วความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรนี้ ก็จะกลายเป็นความเสียหายของประชาชนไทย และของประเทศชาติไปด้วย

ด้วยความเคารพ และเชื่อมั่น

สมบูรณ์ คำแหง

เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ กป.อพช.ใต้

วันที่ 10 เมษายน 2560