Skip to main content

 

แม่ทัพภาคที่ 4 นำทีมจับกุม 10 นักขุดทองในเหมืองฝรั่งเศสเก่าในนราธิวาส

 

ระพี มามะ
นราธิวาส
 
170505-TH-gold-620.jpg
เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ทำเหมืองทองคำผิดกฎหมาย ที่อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส วันที่ 5 พฤษภาคม 2560
 เบนาร์นิวส์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในวันศุกร์ (5 พฤษภาคม 2560) นี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นำทีมเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกเข้าจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 10 ราย หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าลักลอบดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยไม่มีใบอนุญาต ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยอ้างว่าไม่ทราบว่าการทำเหมืองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

พล.ท.ปิยวัฒน์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบเหมืองผิดกฎหมายครั้งนี้ ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ร่วมขบวนการได้ 10 ราย และยึดของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์คัดแยกแร่อีกจำนวนหนึ่ง

“พบชาวบ้าน 10 คน กำลังแยกทราบกับควบคุมเครื่องแยกแร่ทองคำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและควบคุมชาวบ้านทั้ง 10 คน ทำการสอบสวนในเบื้องต้นจนทราบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของนายดุลรอมาน อัสนิ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.5 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ส่วนนายทุนคือ นายยามารูดิน การี อายุ 42 ปี และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการดูแร่ทองคำโดยผ่านงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือนายประสิทธิ์ อุณชาติ อายุ 49 ปี ส่วนอีก 7 คน เป็นชาวบ้านและเยาวชนในหมู่บ้านไอร์ดีแย” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ในการปฎิบัติการครั้งนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ ได้นำทีมที่ประกอบด้วย นายอำเภอสุคิริน  พ.ท.ชัยวิชิต กิจนำชัย รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 และนายประสิทธิ์ ศรีพรหม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 1 จังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นพื้นที่เหมืองเก่าแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบ้านไอร์ดีแย ม.3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนต่อสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 1 จังหวัดสงขลา และศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนราธิวาส ว่า มีผู้ลักลอบดำเนินกิจการเหมืองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสอบสวนเบื้องต้น สามผู้เกี่ยวข้องหลักได้ ให้การตรงกันว่าอุปกรณ์การคัดแยกแร่ประกอบสำเร็จในเดือนเมษายน และเริ่มดำเนินกิจการจริงเพียง 3 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสงสัยกับการให้การดังกล่าว เนื่องจากหลักฐานที่พบค่อนข้างขัดแย้งกับคำให้การดังกล่าว

“เนื่องจากดูและประเมินที่บริเวณหน้างานพบว่าพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นร่องน้ำเดิมของแม่น้ำสายบุรี มีลักษณะคล้ายกับมีการบุกเบิกเดินเครื่องคัดแยกแร่ทองคำมาเป็นเวลานานพอสมควรเป็นเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ และลึก 1.50 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กลุ่มบุคคลทั้งหมดทราบว่าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ไม่มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใดทำเหมืองแร่” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายดุลรอมาน อัสนิ เจ้าของที่ดิน และหนึ่งในผู้ต้องสงสัยร่วมขบวนการอ้างว่า ไม่ทราบว่าการทำเหมืองแร่โดยไม่ขออนุญาตมีความผิดตามกฎหมาย

“เพิ่งประกอบเครื่องเสร็จเดือนเมษายน และทำงานจริงๆ แค่ 3 วันไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นที่ดินของตนเอง ที่ทำลงไปโดยคิดว่าจะได้เงินในส่วนนี้นำมาเลี้ยงครอบครัว” นายดุลรอมาน กล่าว

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดและอายัดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวบุคคลทั้งสิบราย ไปสอบสวนปากคำที่ฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยทหารพรานที่ 1112 อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส โดยแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อุตสาหกรรม ด้วยการทำเหมืองและแต่งแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้เก็บตัวอย่างก้อนหินกรวดเม็ดทรายส่งต่อไปมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อให้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

สำหรับพื้นที่ในบริเวณนี้ เป็นเหมืองทองคำซึ่งสร้างก่อนปี พ.ศ. 2474 โดยมีชาวฝรั่งเศสได้รับสัมปทานที่ภูเขาโต๊ะโม๊ะ (เดิมเรียกว่า "ภูเขาลีซอ") ต่อมารัฐบาลไทยเข้าไปดำเนินการต่อหลังจากเกิดสงครามอินโดจีน และปัจจุบันได้เลิกกำเนินกิจการแล้ว แต่ยังคงเหลือสิ่งก่อสร้าง เช่น บ้านพัก ที่ทำการเดิม อุโมงค์ 4 อุโมงค์หลัก และอุโมงค์ย่อยอีกเป็นจำนวนมาก และมีชาวบ้านในอำเภอสุคิริน ร่อนทองเป็นอาชีพเสริมอยู่บ้าง

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/gold-mine-05052017122213.html