"คำตอบเรื่อง ต้นทุนชีวิตที่ต่างกันและการเดินทาง"
อาฎิล ศิริพัธนะ
ได้ทราบข่าวว่ามีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจจากงานสานเสวนากระเป๋าเป้และแว่นตา ว่าด้วยเรื่อง "ต้นทุนที่ต่างกัน"
ผมในฐานะนักเขียนคนหนึ่งในเอกสารที่ทางงานแจก ก็อยากตอบคำถามข้อนี้มาก
มันเป็นความจริงแน่นอนครับ ว่าคนที่เกิดมามีเงินทองเลย ย่อมมีโอกาสในการ "ท่องเที่ยว" มากกว่าคนที่เกิดมาไม่มีเงินทอง และในวัยหนึ่ง เราอาจจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจากการเปรียบเทียบได้เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเรามีความรู้สึกเช่นนั้น มันดีแล้วครับ เพราะมันหมายความว่า เราอยากจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของชีวิตเรา ไปสู่ความเป็นจริงที่ดีกว่า
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเรา stuck หรือที่แปลว่า เราติดกับความรู้สึกนั้น กลายเป็นคนประชดชีวิต และไม่อยากลงมือทำอะไรที่เราไม่เห็นผลทันที
วิธีแก้ปัญหาเพื่อให้หลุดจากความรู้สึกนี้ คือการมองชีวิตเราใหม่ครับ จริงอยู่ คนมีเงิน ได้ท่องเที่ยวก่อนเรา แต่ชีวิตไม่ใช่ "การท่องเที่ยว" ครับ
ชีวิตคือการเดินทาง ความแตกต่างระหว่างการท่องเที่ยวกับการเดินทางคือ เราซาบซึ้งกับการท่องเที่ยวที่ผลของมัน ในขณะที่การเดินทางนั้น เราซาบซึ้งในกระบวนการของมัน
การเดินทาง เป็นอะไรที่เจ็บปวดเสมอ ผมไม่อยากสาธยายถึงการเสียน้ำตาของผมในอดีตทุกครั้งที่ผมต้องพ่ายแพ้ให้กับคนที่พร้อมกว่า ฉลาดกว่า และที่สำคัญคือการพ่ายแพ้ต่อตัวเอง นั่นแหละคือการเดินทาง มันคือการดิ้นรนมากมาย เพื่อรับผลอันหอมหวาน สลับกันไปมา
บางครั้งชีวิตของเราอาจจะไม่ได้ท่องเที่ยว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้เดินทาง และไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราไม่สวยงาม
คนที่ไม่มีพันธะอะไรเลย เขาอาจจะได้เดินทางรอบโลก เจอคนมากมายมีชื่อเสียง แต่เขาก็ไม่มีวันได้รับความสดชื่นจากการกลับบ้านไปเจอลูกเยอะๆที่น่ารักเช่นกัน
การเข้าใจความหมายของการท่องเที่ยว และการเดินทาง จะทำให้เราไม่มัวเปรียบเทียบ แต่จะทำให้เราสามารถหาความสุขจาก journey ของเราได้เต็มที่
เพราะที่หมายของการ "ท่องเที่ยว" ของมนุษย์อาจจะเป็นที่เดียวกันได้
แต่ไม่มีการ "เดินทาง" ของมนุษย์คนไหนที่เหมือนกัน
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ประมวลภาพงานเสวนา "กระเป๋าเป้และแว่นตา : การเดินทางของสันติภาพที่หลากหลาย"
เก็บตกจากเสวนา "กระเป๋าเป้และแว่นตา : การเดินทางของสันติภาพที่หลากหลาย"
เสียงจากเยาวชนผู้จัดงานเสวนากระเป๋าเป้และแว่นตาฯ