Skip to main content

color:#333333">ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ

color:#333333">
หลังจากทราบข่าวการสูญหายของเพื่อนและคนรู้จักในสามจังหวัดในระยะหลังทำให้ผมนึกถึงเรื่องหลายๆ เรื่อง ผมทำอะไรไม่ค่อยได้เลยวันนี้ ขออนุญาตแสดงความเห็นแบบนี้

๑.ผมนึกถึงสภาวะการแตกกระจายของ"ผู้ก่อการ" ในสามจังหวัดที่ไม่อาจควบคุม ไม่มีทางรู้กันได้ว่าใครคือพวกเดียวกันอย่างง่ายๆ อีกต่อไป ผู้ก่อการที่แตกกระจายนี้ อันตราย พอๆ กับอำนาจรัฐสยาม หรือรัฐอาณานิคมแบบที่ชอบกล่าวถึงนั่นแหละ

๒. อันตรายจากการกล่าวอ้างประวัติศาสตร์อาณานิคมในโลกปัจจุบัน คือการซ้อนทับกันของโลกหลายใบ การเคลื่อนไหวแบบต่อต้านอาณานิคมของผู้ก่อการรังแต่จะทำให้เกิดความรุนแรงแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ขณะเดียวกันก็นับเป็นการต่อสู้ที่ล้าหลังในทางโครงสร้างสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ไม่สอดรับกับสภาวะปัญหาที่สามจังหวัดภาคใต้เคลื่อนตัวเองสู่โลกาภิวัตน์และเสรีนิยมใหม่ ผู้ที่ถูกกดขี่และเอารัดเอาเปรียบในสามจังหวัดไม่เกิดเกิดขึ้นจากปัญหาประวัติศาสตร์ หากแต่ดำรงอยู่ในโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม ทุกวันนี้ ทั้งทหารและผู้ก่อการมีลักษณะร่วมกันคือ ใช้พื้นที่สามจังหวัดเป็นพื้นที่แห่งการปะทะและช่วงชิงมวลชน แต่ไม่มีนโยบายทางการเมืองหรืองานการเมืองที่ชัดเจน สงครามที่ถูกบีบล้าหลังเช่นนี้ คือเจ้าอาณานิคมและนักต่อต้านอาณานิคม รังแต่จะนำความตายมาให้ผู้คน

๓. นัยของ "ดินแดน" ในสามจังหวัดหมายถึงอะไรกันแน่ในโลกสมัยใหม่ มันอาจไม่ใช่สัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่หากหมายถึงการช่วงชิงทรัพยากรและการประกาศอำนาจอธิปัตย์แล้วหล่ะก็ มันเป็นเพียงสงครามช่วงชิงดินแดนของบรรดาชนชั้นนำบางกลุ่มเท่านั้น โปรดมอบดินแดนในความหมายของสันติสุข ความเป็นธรรม และความเสมอภาคให้เป็นจริงด้วย โปรดมองไปที่ชีวิตของผู้คนในพื้นที่ เลือดเนื้อ ชีวิต และความตายของผู้คนที่นัั่น สำคัญกว่าปืนสัปปะรังเค ความเป็นชาติที่ถูกสมมติ และรัฐปาตานีในจินตนาการที่ไม่สอดรับกับความเป็นจริง ไม่ว่าจะรัฐไทยหรือปาตานีมันก็ล้วนเฮงซวยทั้งนั้น หากทำให้คนต้องตายเพื่อมัน

๔. กระบวนการสันติภาพในปัจจุบันสะดุดลงด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่เรื่องที่น่าขบคิดคือ การนิยามความหมายของคำว่าสันติภาพกับเมอเดกานั้นมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจากมุมมองของผู้ก่อการ เมอเดกาของพวกเขาคือการไม่ตกอยู่ภายใต้รัฐอาณานิคมสยาม ผมอยากถามเหลือเกินว่า เมอเดกามีความหมายอื่นไหม การสร้างสันติภาพจำเป็นต้องตกอยู่ภายใต้รัฐสยามจริงหรือไม่ เหตุใดจึงต้องแยกขั้วความหมาย สันติภาพอาจหมายถึงความเป็นธรรมและยุติธรรมในสังคมที่สามัญชนพึงได้รับและเรียกร้อง รัฐบาลจำต้องขอขมาและชำระข้อผิดพลาดทางประวัติศาสตร์จนเป็นที่น่าพอใจ นี่คืออีกหนึ่งความหมายของสันติภาพ ขณะที่การเรียกร้องเมอเดกานั้น เป็นที่น่าผิดหวังสำหรับผู้ก่อการมาก ในมิติประวัติศาสตร์ เมอเดกาหรือเอกราชนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยอาวุธควบคู่ไปกับแผนนโยบายทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่เมอเดกาของสามจังหวัดนั้นหลักลอย ผมมั่นใจว่า เมอเดกาที่ปราศจากพลังทางการเมืองและแผนทางสังคม เศรษฐกิจที่ชัดเจนนี้ไร้พลัง เป็นเมอเดกาที่อาจมีมวลชนที่ถูกปลุกเร้า แต่ก็เป็นเมอเดกาที่ไม่รู้จักประชาชนของตัวเอง เอกราช อิสระภาพ และเสรีภาพที่เกิดขึ้นอย่างลอยๆ โดยปราศจากความเข้าใจภาพเคลื่อนไหวของผู้คน ปัญหาที่พวกเขาเผชิญในปัจจุบัน มันคือวิถีทางอันตราย พอๆ กับอำนาจรัฐไทยในปัจจุบันที่พยายามเสกสรรปั้นแต่งให้คนในสามจังหวัดภาคใต้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้

๕.ผมเริ่มตระหนักในพลังแห่งความโศกเศร้ามากขึ้น ความสูญเสียของผู้คนระดับล่างในสามจังหวัดภาคใต้มีพลังอย่างมหาศาลที่จะไปหนุนการเมืองขั้วตรงข้ามระหว่างรัฐไทยกับปาตานี แต่พื้นที่ของความโศกเศร้ามีอยู่แค่นั้นหรือ เราสามารถแปรพลังของความโศกเศร้าไปยังพื้นที่อื่นได้ไหม การขจัดความโศกเศร้าให้จางหายไปไม่ควรกระทำการด้วยเติมเชื้อไฟแห่งความรุนแรง ไม่ควรขจัดความโศกเศร้าด้วยการลดทอนความเชื่อมั่นในตัวมนุษย์

๖. ผมขอคุยกับบรรดาผู้ก่อการอันแตกกระจายว่า การเคลื่อนไหวอันใดจะไร้ค่าหากมันต้องแลกด้วยชีวิตคน พวกคุณจะไม่ต่างจาก "ทหารอาณานิคมสยาม" เป็นเพียงร่างทรงของความรุนแรงและใช้เทคนิควิธีของอำนาจไม่ต่างกัน ภาพของนักเคลื่อนไหวหัวก้าวหน้าที่น่าชื่นชมของปาตานีที่มีมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์จะกลายร่างเป็นนักชาตินิยมปาตานีฝ่ายขวาที่นิยมความรุนแรงและไม่เท่าทันโลกที่กำลังหมุนไปข้างหน้า สุดท้ายก็จะมีแต่ความสูญเสีย ไม่มีชัยชนะบนซากศพ ไม่มีใครชนะ มีเพียงความตายของผู้บริสุทธิ์