ตูแวดานียา ตูแวแมแง
เมื่อเวลาประมาณ11.00น.ของวันที่21มกราคม2557 ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นคนหมู่บ้านตันหยงปาวห์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้โทรศัพท์มาหาผู้เขียนโดยที่เข้าใจว่าผู้เขียนนั้นเป็นนักข่าวและถามย้ำว่าสามารถมาทำข่าวที่หมู่บ้านเขาได้หรือไม่ พร้อมกับให้ข้อมูลกับผู้เขียนว่า “เมื่อเวลาประมาณ23.00น.ของวันที่20 มกราคม 2557 ได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน แต่เท่าที่เห็นรถกระบะที่เจ้าหน้าที่ใช้เป็นยานพาหนะนั้นประมาณ8-9คัน ได้ทำการกราดยิงใส่ชาวบ้านด้วยอาวุธสงครามโดยไม่ทราบสาเหตุและจับตัวชาวบ้านอายุประมาณ25ปีไป ซึ่งถูกซ้อมทรมานจนได้รับบาดเจ็บด้วย แล้วก็ได้ขอให้ผู้เขียนเดินทางมาทำข่าวให้ได้” ผู้เขียนไม่ทันที่จะบอกไปว่าผู้เขียนนั้นไม่ใช่นักข่าว ชาวบ้านคนนั้นก็วางสายไปแล้ว
แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นนักเคลื่อนไหวที่เคยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านอยู่ตลอดนั้น ผู้เขียนจึงไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ แม้นว่าข้อมูลที่ได้ฟังนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลของแหล่งข้อมูลอย่างชัดเจนก็ตาม ผู้เขียนจึงตัดสินใจประสานไปยังเครือข่ายองค์กรประชาสังคมที่ทำงานด้านสื่อทางเลือกที่ชื่อว่า wartani จากนั้นผู้เขียนและทีมงานของสำนักสื่อwartani ก็ทำการลงพื้นที่ถึงในหมู่บ้านในเวลาประมาณ12.30น.ทันละหมาดดุฮ์รีร่วมกันกับชาวบ้านพอดี หลังจากละหมาดเสร็จมีชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าคงจะเป็นคณะกรรมการมัสยิดของหมู่บ้าน เดินตรงไปที่เครื่องขยายเสียงแล้วก็ประกาศด้วยเสียงดังๆว่า “ให้ชาวบ้านทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชายและไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ให้ออกจากบ้านมารวมตัวกันที่เกิดเหตุเมื่อคืนทั้งหมด คือขณะนี้ได้มีนักข่าวเดินทางมาถึงหมู่บ้านของเราแล้ว ความจริงที่ขมขื่นเมื่อคืนจะได้ถูกเปิดเผยต่อสังคมสาธารณะแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงประกาศประชาสัมพันธ์ของชาวบ้านคนนั้น ความตื่นเต้นของผู้เขียนก็เริ่มกดดันผู้เขียนทันทีและคงไม่ต่างกับทีมงานของwartaniอีกสามคนที่น่าจะตื่นเต้นเหมือนผู้เขียนเหมือนกัน สิ่งที่รู้สึกกดดันมากคือไม่รู้จะสามารถทำให้ความหวังของชาวบ้านที่ต้องการให้ความจริงเปิดเผยสู่สังคมสาธารณะและนำมาซึ่งการได้รับความเป็นธรรมได้เร็วที่สุดนั้นจะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน
จากนั้นตัวแทนชาวบ้านก็ได้นำผู้เขียนและทีมงานwartaniไปเจอกับชาวบ้านที่รวมตัวรออยู่ ทุกคนมีท่าทีเหมือนจะให้ข้อมูลกันแทบทุกคนแต่ก็ต้องให้ตัวแทนเป็นคนบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความเป็นมาของเรื่องคือเริ่มตั้งแต่เวลาสี่โมงเย็นของวันเดียวกันคือวันที่20มกราคม2557 “ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าเริ่มเห็นสัญญาณแปลกๆจากการที่มีรถของช่างซ่อมไฟฟ้าเข้ามาในหมู่บ้านซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นรถของทางเจ้าหน้าที่ทีมเดียวกันที่เข้ามาดูลาดเลาก่อน จากนั้นเวลาประมาณ23.00น.ก็เกิดเหตุการณ์สลดใจดังกล่าว” ด้วยความที่สภาพหมู่บ้านของชาวบ้านที่ตันหยงปาวห์นั้นเป็นหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านที่เป็นบ้านซึ่งอยู่แบบติดๆกันเกือบทั้งหมู่บ้าน ทำให้เสียงปืนยามดึกคืนนั้นได้ยินอย่างเต็มหูกันเกือบทุกคน จึงไม่แปลกที่ปฏิกิริยาความไม่พอใจต่อรัฐไทยซึ่งมาจากความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่าคนร้ายที่กราดยิงนั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้เกิดขึ้นกับทุกคนทุกเพศทุกวัย
เหตุการณ์สลดใจที่สร้างความสูญเสียกับชาวบ้านตันหยงปาวห์ในครั้งนี้ ถ้าเป็นไปตามที่ชาวบ้านบอกเล่าจริง แน่นอนเป้าหมายของคนร้ายที่ชาวบ้านเรียกว่าเจ้าหน้าที่รัฐนั้น คงหวังผลให้เกิดการลดระดับลงของกิจกรรมการปกป้องอัตลักษณ์ความเป็นคนมลายูปาตานีของชาวบ้านตันหยงปาวห์ผ่านโรงเรียนตาดีกาและมัสยิดประจำหมู่บ้าน เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับกิจกรรมการกลืนกลายให้เป็นคนไทยมุสลิมเพื่อตอบโจทย์การอธิบายของรัฐไทยต่อสังคมสาธารณะว่า ไม่มีใครในดินแดนปาตานีที่ต้องการอยากจะได้มาซึ่งสิทธิความเป็นเจ้าของของชาวปาตานีอีกต่อไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นกลุ่มคนที่ยังฝืนสู้อยู่อ้างว่าทำเพื่อสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนคนปาตานีต่อความเป็นเจ้าของดินแดนนั้น ก็จะกลายเป็นองค์กรติดอาวุธที่ตัดขาดออกจากเจตจำนงร่วมของประชาชน สุดท้ายสถานะของนักต่อสู้เพื่อเอกราชก็จะกลายเป็นผู้ก่อการร้าย คำว่าเอกราชปาตานีก็จะเป็นจริงได้แต่บนท้องถนนเท่านั้น จะเป็นมากกว่านั้นได้ก็เฉพาะในโลกแห่งความฝันอย่างเดียว เพราะชาวบ้านมั่นใจว่าไม่เคยมีเรื่องที่ผิดใจและกระทบกระทั่งเป็นการส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐเลย