Skip to main content

ช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่หลายเหตุการณ์  โดยเฉพาะเหตุอุกอาจที่คนร้ายก่อเหตุกับข้าราชการในพื้นที่หลายต่อหลายครั้ง

เริ่มเหตุการณ์แรกในช่วงบ่ายของวันที่20ก.ค.ที่ผ่านมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมสถานียุทธศาสตร์ตำบลเตราะบอน  ซึ่งอยู่ริมถนนสาย 42   ปัตตานี – นราธิวาส หมู่ที่ 1 บ้านกะลาพอ ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จำนวน 5 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในสถานียุทธศาสตร์ ได้มีคนร้ายประมาณ 12 – 15 ราย ใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ ขับมาจอดบริเวณข้างป้อมสถานียุทธศาสตร์ โดยคนร้ายทั้งหมดแต่งกลายคล้ายกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร

คนร้ายจำนวนหนึ่งได้ลงมาจากรถยนต์  และเข้ามาทำที่จะสอบถามและทักทายก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยุทธศาสตร์เสียชีวิตทันที 3 นาย คือ ด.ต.ดนัย  หะยียูโซ๊ะ  ส.ต.อ.ดิง  ยูโซ๊ะ และ ส.ต.ต.สมใจ  โชติช่วง  ต่อจากนั้นคนร้ายได้นำอาวุธปืนเอชเคของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมไปด้วยจำนวน 4  กระบอก

ในขณะที่คนร้ายกำลังบุกเข้าโจมตีป้อม เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 43 ตั้งฐานอยู่บริเวณห่างจากป้อมยุทธศาสตร์ประมาณ 500 เมตร ได้นำกำลังออกมา ยิงตอบโต้กับคนร้าย  และไล่ติดตามคนร้ายไป จนสามารถยิงคนร้ายที่ก่อเหตุเสียชีวิตจำนวน 2 ราย ก่อนที่คนร้ายทั้งหมดจะหลบหนีไป

ส่วน อีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบครึ่งเดือนหลังที่สร้างความสะเทือนใจและสร้าง ความเสียขวัญเป็นอย่างมากกับข้าราชการครูในพื้นที่3จังหวัด โดยเมื่อช่วงสาย ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนบ้านบือแรง ตำบลลาโล๊ะ  อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส  โดยคนร้ายทั้งหมดมีจำนวน 4 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับเข้ามาในโรงเรียนทำที่จะขอฝึกงานภายในโรงเรียน โดยที่ 1 ใน 4 ได้เดินมุ่งตรงไปยังบริเวณห้องเรียน ที่กำลังมีการเรียนการสอนกันอยู่ มาหยุดตรงที่หน้าห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเข้าไปข้างในห้องดังกล่าว

เป็นเวลาเดียวกันกับที่ นายประสาน  มากชู  ข้าราชการครูประจำโรงเรียนบ้านบือแรง กำลังสอนวิชาภาษาไทย ให้กับนักเรียน 30 กว่าคน อยู่ภายในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  คนร้าย จึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่นายประสานจำนวน 2 นัดจนล้มลง ก่อนที่จะเข้าไปใช้อาวุธปืนกระบอกเดิม จ่อยิงเข้าที่ศรีษะของนายประสานอีก 1 นัด ก่อนที่จะวิ่งออกมายังกลุ่มเพื่อนที่รออยู่ที่รถจักรยานยนต์และขับรถหลบหนีไป  ส่วนนายประสาน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

จากทั้งสองเหตุการณนี้แสดงให้เห็นถึงการก่อเหตุอย่างอุกอาจของกลุ่ม ผู้ก่อความไม่สงบที่อยู่ในพื้นที่ที่เริ่มแสดงการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ โดย ไม่สนใจว่าจุดที่ก่อเหตุจะเป็นสถานที่สาธารณะและตั้งอยู่ภานในชุมชนก็ตาม อย่างกรณียิงป้อมยุทธศาสตร์เตราะบอน ที่สำคัญเหตุยิงครูโรงเรียนบ้านบือแรง ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า กลุ่มคนร้ายเริ่มหันมาก่อเหตุกับครู หลังจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เริ่มเปิดเกมรุกตรวจค้นและจับกุมผู้ ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ

สำหรับภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง16-31ก.ค.มีทั้งหมด  41  ครั้ง เกิดเหตุการณ์มากที่สุดที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 17 ครั้ง   รองลงมาเป็นจังหวัดนราธิวาส  จำนวน  12 ครั้ง จังหวัดยะลาจำนวน  11 ครั้ง  และจังหวัดสงขลาบางส่วนใน 4 อำเภอ จำนวน 1 ครั้ง  โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 23 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  4 ราย ประชาชน 17 ราย ผู้ก่อความไม่สงบ 2 ราย  ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งหมด 22 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ราย ประชาชน  15 ราย ผู้ก่อความไม่สงบ 3 ราย

ด้านผลการปฎิบัติงานในการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้มีการเข้าตรวจค้นทั้งหมด   4  ครั้ง  ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส  3 ครั้งได้ผู้ต้องหา 2 คน ได้ของกลางเป็นอาวุธปืน 11 มม. จำนวน 2 กระบอก และอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก ในพื้นที่ จังหวัดยะลา 1 ครั้ง ได้ของกลางเป็นอาวุธปืน อาก้าจำนวน 3 กระบอก  ทั้งยังควบคุมตัวผู้ต้องหาจากคดีในพื้นที่จังหวัดปัตตานีได้จำนวน 7 คน

ตารางที่ 1 สรุปเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อ.ของจังหวัดสงขลา

ประเภทของเหตุ/พื้นที่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาบางส่วน
ลอบวางระเบิด 11 10 7 1
ซุ่มยิง 1 1 1 -
วางเพลิง 4 1 3 -
ขโมยอาวุธปืน 1 - 1 -
ตรวจค้น - 1 3 -
ผู้ต้องสงสัย/ผู้ต้องหา 7 - 2 -
วัตถุผิด กม./อาวุธปืน - อาวุธปืน AK47 3 กระบอก อาวุธปืน 11 มม. 2 กระบอก / .38 1 กระบอก -
โปรยตะปูเรือใบ - - - -
ทำลายทรัพย์สิน - - - -
โปรยใบปลิว - - - -

 

ตารางที่ 2 เหยื่อความรุนแรง แยกตามกลุ่มและอาการ

 

เหยื่อความรุนแรง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาบางส่วน
เจ้าหน้าที่รัฐ        
เสียชีวิต 1 - 3 -
บาดเจ็บ 3 - 1 -
ประชาชน        
เสียชีวิต 6 4 4 1
บาดเจ็บ 7 5 5 -
คนร้าย        
เสียชีวิต 3 - - -
บาดเจ็บ 2 - - -

 

ที่มา : รวบรวมโดยศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย