Skip to main content

 

"...ในเมื่อท่านรอซูลแจ้งว่า อุมมะฮฺนี้ต้องแตก เราเป็นอุมมะฮฺจำเป็นต้องปล่อยให้มันแตกไร้ความสามัคคีอย่างนั้นหรือ?

 

 

"...ในเมื่อท่านรอซูลแจ้งว่า อุมมะฮฺนี้ต้องแตก เราเป็นอุมมะฮฺจำเป็นต้องปล่อยให้มันแตกไร้ความสามัคคีอย่างนั้นหรือ?

...ถ้อยคำทำนายเมื่อมันออกมาจากคนทั่วไปมันก็คือคำพูดที่ไร้สาระ แต่ในเมื่อออกมาจากท่านรอซูลมันจึงกลายเป็นสัจจะ สิ่งนี้มันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน...

...ในขณะเดียวกันคำสอนที่ให้สามัคคียึดสายเชือกอัลลอฮฺ ท่านเองก็เป็นคนฝากฝัง สองคำสอนนี้มันช่างขัดแย้งกันเสียนี้กระไร?

...สองอย่างนี้ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด ความแตกแยกนั้นมันคือธรรมชาติของอุมมะฮฺ มันคือสิ่งที่อัลลอฮฺเผยให้ท่านรอซูลเห็น แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าความแตกแยกจะเกิดขึ้นเวลาใด นี้แหละคือฮิกมะฮฺของมัน

... ฉะนั้นเราในฐานะอุมมะฮฺต้องพยายามประสานใจกันไว้เป็นหนึ่งบนสายเชือกของอัลลอฮฺ (อันเป็นแนวทางของรอซูลและบรรดาคอลีฟะฮฺผู้ทรงธรรม) สิ่งนี้ถือเป็นอามัลศอเลี้ยะฮฺที่ใหญ่ยิ่ง..

ใช่...อุมมะฮฺของเราต้องแตกแยก แต่หน้าที่ของเราคือ พยายามผสานผู้ศรัทธาเข้าด้วยกัน มันคล้ายกับกรณีของความตายนั้นแหละ ในเมื่อเราต่างรู้กันโดยทั่วว่า ทุกชีวิตต้องประสบกับความตาย ทำไมเราจึงต้องรักษาโรคด้วย ทำไมเราไม่ปล่อยให้สิ้นลมไปเอง ?

...คำตอบคือ ก็เพราะว่าการรักษาโรคมันเป็นอามัลศอเลียะฮฺ มีความดีมากมายที่เราพยายามจะทำให้สุขภาพของเรานั้นดีขึ้นจากเดิม..... (เรื่องจะตายหรือไม่ตายนั้นหน้าที่อัลลอฮฺ ส่วนการพยายามหาทางรักษานั้นคือหน้าที่เรา โรคของเราจะหายหรือไม่หาย ผู้ที่พยายามรักษาโรคก็ได้รับผลบุญอันมากมายในเรื่องความพยายามของเขาแล้ว....)

 

-วัลลอฮฺอฺลัม-

โดย : บาบออิสมาแอล สปันญัง อัลฟาฏอนี 

ถอดความ : แอดมินเพจ ต่วนกูรู บาบอ อิสมาแอล สปันญัง