Skip to main content

‘อสนียาพร นนทิพากร’

            ก่อนหน้านี้ประเด็นการหายตัวไปของนายฟาเดล เสาะหมาน ได้กลายเป็นข่าวเด่นประเด็นร้อนให้องค์กรภาคประชาสังคม และสื่อทางเลือกได้เสนอข่าวโหมโรงปลุกกระแสเขย่าหน่วยงานความมั่นคง มีการยกคดีอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร ขึ้นมาชี้นำและเปรียบเทียบ

            องค์กรภาคประชาสังคมได้มีการสื่อสารแถลงการณ์เรียกร้องยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อประเด็นการหายตัว และชี้ให้เห็นถึงความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนในพื้นที่ในเรื่องของความปลอดภัย

            เหตุการณ์หายตัวไปของ นายฟาเดล เสาะหมาน เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะนี้เวลาได้ผ่านไปเกือบ 4 เดือนยังไม่ทราบชะตากรรมพร้อมๆ กับความเงียบขององค์กรภาคประชาสังคมและเครือญาติไม่เหมือนตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่ต่างดาหน้าออกมาเคลื่อนไหว

            การหายตัวของ นายฟาเดล เสาะหมาน จะเป็นการจัดฉากของกลุ่มใด หากวิเคราะห์เจาะลึกถึงสาเหตุการหายตัวไป ลองไล่เรียงข้อมูลเชื่อมโยงว่าเป็นฝีมือของใคร? เจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มขบวนการที่ได้กระทำต่อกรณีดังกล่าว หรืออาจเป็นการสร้างเรื่องของตัวนายฟาเดลเองเพื่อต้องการหนีปัญหาป่านนี้ครอบครัวและเครือญาติน่าจะรู้ดีว่าเจ้าตัวไปอยู่ที่ไหน

            ลำดับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 นายฟาเดล ได้ออกจากบ้านพักพร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ทะเบียน ก 670 ปัตตานี โดยขณะที่เข้าไปทำภารกิจในโรงเรียนมูฮำมาดียะห์ หมู่ที่ 8  ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ได้มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋งสีดำเข้าในโรงเรียน แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปในสนามฟุตบอลไปจอดข้างประตูฟุตบอล ทันใดนั้น ได้มีชายฉกรรจ์ 3 คน ลงจากรถและวิ่งไปทางอาคารห้องพักครูซึ่งห่างจากรถที่จอดอยู่ประมาณไม่เกิน 5 เมตร จากนั้นชายฉกรรจ์ 2 คน ได้เข้าล็อกแขนนายฟาเดลคนละข้าง ลากตัวมาที่รถยนต์ซึ่งกำลังจอดอยู่ ขณะที่ชายอีกคนวิ่งมาเปิดประตูรอไว้ก่อนแล้ว โดยมีบุคคลที่อยู่ในโรงเรียนเห็นเหตุการณ์ และเห็นนายฟาเดล ขณะที่ถูกลากตัวได้ขัดขืนโดยการเอามือดันไว้ที่ขอบประตูบนของรถ แต่ได้มีชายอีกคนฝั่งขวามือพยายามยกขาของนายฟาเดล และยัดขาเข้าไปในรถจนรองเท้าตกลงพื้น คนขับรถจึงได้รีบขับรถออกไปจากบริเวณโรงเรียน

            นั่นคือเรื่องเล่าจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์จะจริงเท็จประการใดก็แล้วแต่ ในเวลาต่อมามีความเคลื่อนไหวของ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมสำนักงานประจำจังหวัดปัตตานีได้ออกใบแจ้งข่าว กรณีการถูกอุ้มตัวและบังคับให้สูญหายของนายฟาเดล เสาะหมาน เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559

            มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ได้กล่าวอ้างครอบครัวและญาตินายฟาเดล ได้เข้าร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และญาตินายฟาเดล เดินทางมาร้องเรียนต่อมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมเพื่อให้ช่วยติดตามตัว และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

            มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ออกแถลงการณ์ในสื่อ Wartani 12 ปี ทนายสมชาย ประเทศไทยยังมีคนถูกบังคับให้สูญหายโดยไร้การสืบสวนสอบสวนอย่างเร่งด่วน การบังคับให้บุคคลสูญหายยังคงเกิดขึ้นในประเทศไทย รวมทั้งการควบคุมตัวลับอย่างต่อเนื่อง โดยได้กล่าวถึงกรณีชายฉกรรจ์ 3 คนจับตัวนายฟาเดล เสาะหมาน ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม หากแต่สถานการณ์การบุกอุ้มตัวนายฟาเดลที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจในเวลากลางวันในโรงเรียนที่เป็นพื้นที่สาธารณะ ก่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนในพื้นที่ในเรื่องความปลอดภัย

นายฟาเดล เสาะหมาน คือใคร?

            นายฟาเดล เสาะหมาน คือใคร? ทำไม? จึงถูกอุ้มหายตัวไป และองค์กรภาคประชาสังคมจึงได้ให้ความสำคัญในการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อภาครัฐให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ

            ข้อมูลเชิงลึกครอบครัวของ นายฟาเดล เสาะหมาน ซึ่งได้รับคำยืนยันมาจากคนในพื้นที่ได้กล่าวว่าครอบครัวนี้มีความเกี่ยวพันกับกลุ่มขบวนการและเป็นครอบครัว ผกร.โดยกำเนิด บิดาซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเป็นสมาชิกกลุ่ม ผกร. ทำหน้าที่เคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ อีกทั้งพี่น้องท้องเดียวกันในครอบครัวได้สืบทอดอุดมการณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มขบวนการตามบิดา

            นายฟาเดล เสาะหมาน ชื่อเล่น หรือชื่อจัดตั้ง “ฟาดี” ซึ่งในปีนี้อายุครบ 28 ปี เป็นสมาชิก ผกร.เคยถูกฟ้องดำเนินคดีมาก่อนเมื่อปี 2553 ที่ศาลจังหวัดปัตตานี คดีดำที่ 1580/2553 ฐานความผิด ร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลคดีศาลพิพากษายกฟ้องในปี 2556 ผลคดีถึงที่สุด

            นายฟาเดล เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็น ผกร.ที่ทำการก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมและสอดส่องเนื่องจากในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง คาดว่านายฟาเดล คือผู้หนึ่งที่ได้ทำการก่อเหตุ

ปูมหลัง นายฟาเดล เสาะหมาน เข้าร่วม“โครงการพาคนกลับบ้าน”

            จุดเปลี่ยนชีวิตของนายฟาเดล เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 พี่สาวและบิดาบุญธรรมได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 เพื่อนำ นายฟาเดล เข้ามารายงานตัวแสดงความบริสุทธิ์ เพื่อเข้าร่วม“โครงการพาคนกลับบ้าน”

            เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัว นายฟาเดล ตามกฎอัยการศึกฯ และส่งตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม ยังหน่วย ขกท.สน.จชต. ในระหว่างควบคุมตัวอยู่นั้น นายฟาเดล ได้ยอมรับว่าเป็นสมาชิก ผกร. โดยได้ทำการฝึก RKK เมื่อปี 48 ตำแหน่งในกลุ่ม ผกร. ตั้งแต่ปี 48-53 เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการ ปี 54-ปัจจุบัน เป็นมือประกอบระเบิดที่มีความชำนาญโดยมีการสาธิตการประกอบระเบิดให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยความสมัครใจ

            ในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว นายฟาเดลฯ กลับไปใช้ชีวิตยังภูมิลำเนา จนกระทั่งวันที่ 25 มกราคม 2559 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ได้รับแจ้งจากทางครอบครัว นายฟาเดล เสาะหมาน ว่ามีกลุ่มบุคคลได้เข้ามาจับตัว นายฟาเดลฯ และมีกลุ่มองค์กร ภาคประชาสังคมบางกลุ่มได้นำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

นายฟาเดล ถูกอุ้มหายตัวจริงหรือ?

            มาถึงวันนี้ข่าวสารการเรียกร้องเร่งให้มีการตรวจสอบในการหายตัวไปของ นายฟาเดล เสาะหมาน ไม่ได้ปรากฏบนสื่อ กลุ่มเครือญาติกลับเงียบอย่างมีเลศนัย หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กร ที่มีความพยายามสื่อชี้นำสังคมว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐได้หยุดไปเฉยๆ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของกลุ่มองค์กรเหล่านี้ หากเจ้าหน้าที่หรือรัฐเพลี่ยงพล้ำมีหรือจะหยุดไม่มีการสานต่อให้ถึงที่สุด

            แต่ในทางกลับกันการกล่าวข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายต่อรัฐไม่เคยมีสักครั้งที่ออกมารับผิดชอบต่อการกระทำ กรณี นายฟาเดล หายตัวไปไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐอย่างแน่นอน เนื่องจาก นายฟาเดล มีความสมัครใจเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอดและเป็นอย่างดี ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลความจำเป็นในการตัวอุ้มตัวนายฟาเดล

            การอุ้มหายตัวไปของ นายฟาเดล อาจจะมาจากความเคียดแค้นของกลุ่ม ผกร.ในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ เนื่องจาก นายฟาเดล ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ กลัวเกรงจะมีการแฉข้อมูลสำคัญของสมาชิก ผกร.รายอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ นายฟาเดล มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มขบวนการอยู่ กลุ่ม ผกร.อาจจะบังคับนำตัวไปให้เข้าสู่ฝ่ายขบวนการอีกครั้ง เนื่องจาก นายฟาเดลมีความชำนาญในการประกอบระเบิด

            และประการสุดท้ายเป็นการจัดฉากของ นายฟาเดล ที่ต้องการหนีปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนเองเป็นสมาชิก ผกร.รายสำคัญมีความชำนาญในการประกอบระเบิดทำการก่อเหตุในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี แต่กลับใจเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพื่อความปลอดภัยของตนเองจึงจัดฉากหายตัวไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในขณะนี้

            ข้อมูลจากการวิเคราะห์ทั้ง 3 ข้ออาจจะไม่ถูกต้อง อาจจะไม่ตรงใจกับใครหลายคน แต่ในทัศนะผู้เขียนเห็นว่ามีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกัน ก่อให้เกิดประเด็นให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่คำตอบ นายฟาเดล เสาะหมาน เสียชีวิตแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ ละตอนนี้อยู่ที่ไหน? ครอบครัวและเครือญาติรวมทั้งองค์กรภาคประชาสังคมย่อมรู้ดี แต่ไม่มีการชี้แจงต่อสังคมปล่อยให้มีความคลุมเครือหรือเกิดความเข้าใจผิดอยู่ต่อไป.

-------------------