Skip to main content

 

ความสุรุ่ยสุร่ายและอาหารเหลือทิ้งในเดือนรอมฎอน

 

ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ.สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง

จากหนังสือ Halal Haram : An Important book for muslim consumers โดย Consumers Association of Penang

 

 

......................

ในเดือนรอมฎอน มุสลิมได้รับการส่งเสริมให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการในระหว่างการละศีลอดและรับประทานอาหารสะหูรฺ ขณะเดียวกันให้ละเว้นจากการกระทำบาปด้วยการรับประทานอาหารอย่างทิ้งๆขว้างๆ

 

แม้ว่ารอมฎอนเป็นเดือนแห่งการถือศีลอด แต่ครัวเรือนส่วนใหญ่กลับเตรียมอาหารเป็นจำนวนมาก โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าโภชนาการของอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น อาหารจำนวนมากถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ซึ่งไม่เป็นที่อนุญาตในศาสนาอิสลาม อาหารที่ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์นั้นเป็นบาปในศาสนาอิสลามและยังเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของเดือนรอมฎอนอย่างยิ่ง

 

ในเดือนรอมฎอน เราจะเห็นภัตตาคาร และโรงแรมหลายแห่งเตรียมอาหารบุฟเฟ่ต์เพื่อให้มุสลิมได้ทำการละศีลอด ซึ่งอาหารบุฟเฟ่ต์โดยทั่วไปนำเสนออาหารที่น่ารับประทานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาหารเรียกน้ำย่อยและ "ขนมหวานล่อใจ" ซึ่งแต่ละคนสามารถรับประทานได้มากเท่าที่ปรารถนา

 

บรรดาอาหารบุฟเฟ่ต์ที่เตรียมไว้เหล่านี้ จะล่อใจด้วยอาหารที่มีกลิ่นและลักษณะที่ดูดี การล่อใจด้วยประสาทสัมผัสทางกลิ่นและภาพของอาหาร บ่อยครั้งทำให้มีการตักอาหารเกินความจำเป็น แม้ว่าการกินและดื่มมากเกินไปไม่เป็นที่อนุญาตในศาสนาอิสลาม แต่ลูกค้าบุฟเฟ่ย์จำนวนมากยอมให้ความอยากของเขาครอบงำในเวลาละศีลอด ผู้คนส่วนใหญ่ยังมีความรู้สึกว่า ควรตักอาหารให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้บนจานอาหารของพวกเขาเพื่อความคุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่ายไป

 

มีการจัดอาหารให้มีอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อสนองความหิวกระหาย ซึ่งเป็นแบบฉบับของอาหารบุฟเฟ่ย์ นำไปสู่การเหลือทิ้งบนจานอาหารเป็นจำนวนมากที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในที่สุดก็ไม่สามารถบริโภคได้จนหมด ที่เหลือก็จะถูกโยนทิ้งไป

 

เพราะเหตุใดมุสลิมจึงทิ้งอาหารไปอย่างปล่าวประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนรอมฎอน? หรือว่านี่เป็นการตอบสนองทางจิตใจที่รู้สึกว่า “ฉันไม่ใช่คนจนเนื่องจากฉันสามารถจ่ายอาหารอย่างทิ้งขว้างได้? หรือบางทีอาหารที่ทิ้งไป (หรือน้ำ) เป็นเพียงความเลินเล่อจนเคยชิน? มุสลิมไม่ตระหนักหรือว่าอาหารเป็นปัจจัยยังชีพที่ทรงประทานมาจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) และสักวันหนึ่ง เราจะถูกสอบสวนเกี่ยวกับสิ่งที่เราทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

 

อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงตรัสความว่า

 

“พวกเจ้าจงกินจากสิ่งที่ดีทั้งหลาย ที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และพวกเจ้าอย่าได้ฝ่าฝืน มิฉะนั้น ความกริ้วของข้าจะเกิดขึ้นแก่พวกเจ้า และผู้ใดที่ความกริ้วของข้าเกิดขึ้นแก่เขาแน่นอนเขาจะประสบความพินาศ” (ฎอฮา : 81)

 

“...และจงกินและจงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริงพระองค์ไม่ชอบบรรดาผู้ที่ฟุ่มเฟือย”

(อัลอะอฺรอฟ : 31)

 

“… แท้จริง บรรดาผู้สุรุ่ยสุร่ายนั้นเป็นพวกพ้องของเหล่าชัยฏอน และชัยฏอนนั้นเนรคุณต่อพระเจ้าของมัน” (อัลอิสรออฺ : 26-27)

 

.............................................