Skip to main content

ณ เรือนจำปัตตานี มีผู้คนไปใช้บริการเยอะมาก ทุกคนล้วนเป็นห่วงญาติพี่น้องบุคคลซึ่งเป็นที่รักของตัวเอง หลังจากวันหยุดยาวสุดแสนจะทรมาน นับวันเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 15-20 กรกฎาคม 2016 ใครจะเป็นตายร้ายดีบาดเจ็บยังไงไม่อาจล่วงรู้ข้อเท็จจริงได้ ญาติพี่น้องปลอดภัยหรือถูกย้ายไปหรือไม่ บางคนรู้บางคนไม่รู้ และเป็นวันที่ทุกคนรอคอยรับรู้ด้วยตัวเอง เรื่องนี้คนในเรือนจำย่อมเล่าเรื่องได้ดีกว่าคนนอกเรือนจำแน่นอน ..

7 วัน หลังเกิดเหตุจลาจลปัตตานี ตรงกับวันพฤหัส ที่ 21 กรกฎาคม ถือเป็นวันแรกที่เรือนจำได้เปิดทำการเยี่ยมเยียน ในขณะที่ฉันและครอบครัวอันวาร์ ตั้งหน้าตั้งตารอเจออันวาร์เพื่อนที่น่ารักของทุกคน พี่ชายอันวาร์ได้แว๊นล่วงหน้าไปก่อนเอาคิวและนำบัตรประชาชนไปแจ้งเยี่ยมก่อน ฉันกับแม่อันวาร์นั่งรถเมล์ตามหลังกันไป พี่ชายโทรมาบอกได้คิว 140 กว่าๆ เท่ากับได้เยี่ยมในรอบที่ 8 แต่ละรอบเยี่ยมได้ 15-19 คน เรายังพอมีเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก ระหว่างรอเจออันวาร์เรามีเวลาทักทายญาติมิตรสหายร่วมชะตากรรม บางคนรอขึ้นรถที่เรือนจำบริการไปเยี่ยมญาติที่ถูกย้ายไปอยู่เรือนจำ 6 แห่ง ทราบข้อมูลเบื้องต้นมีเรือนจำนาทวี 63 คน เรือนจำจังหวัดสงขลา 45 คน เรือนจำกลางสงขลา 158 คน เรือนจำทัณฑสถานบำบัดสงขลา 100 คน เรือนจำตรัง 45 คน และเรือนจำนครศรีธรรมราช 36 คน ญาติมาเช็ครายชื่อที่เรือนจำปัตตานีได้ เจ้าหน้าที่ผู้คุมเรือนจำได้อำนวยความสะดวกส่งคนขึ้นรถ และแนะนำความสะดวกต่างๆ ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. รถบริการได้เคลื่อนที่เดินทางเพราะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับ มีบริการเพียงเที่ยวนี้เที่ยวเดียวเท่านั้น ใครไม่ทันไม่รู้อาจจะต้องติดตามกันไปเอง ..

ระหว่างที่ฉันรอๆ มีญาติที่เข้าไปเยี่ยมก่อนได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างใน บางคนร้องไห้ออกมา บางคนยิ้มดีใจ จนกระทั่งมีญาติพี่น้องคนหนึ่งเดินมาหาฉันและทักทายอย่างคุ้นเคย แต่หน้าตาไม่สู้ดีนัก แกจับมือและเล่าเรื่อง “ญาติก๊ะปลอดภัยดี แต่ 1 ใน 3 คนที่ตายนั่น มีโดนยิงคนหนึ่งน่ะ ไม่ได้ถูกแทงตายอย่างที่เป็นข่าว ญาติเล่าให้ฟังคนที่ตายอยู่ใกล้กับญาติมาก เห็นเหตุการณ์ ช่วงปราบจลาจลปิดไฟทั้งเรือนจำ มีประกาศให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเรือนนอน หมอบลง คนที่อยู่เรือนนอนอยู่แล้วจะไม่ถูกจับกุม แต่มีหลายคนวิ่งเข้ามัสยิดเพราะคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว ระหว่างประกาศพลางปราบพลางใครจะวิ่งขึ้นเรือนนอนทัน ญาติบอก ประกาศมาพร้อมสาดกระสุนใครจะกล้าไปไหนไกลล่ะ แต่ที่ไม่เข้าใจทำไมหน่วยปราบจลาจลต้องเล็งยิงมาทางเรือนนอน 4 ซึ่งเป็นที่พักของคดีความมั่นคงทั้งหมดอยู่รวมกันที่นั่น กระสุนจริงน่ะ ไม่ใช่กระสุนยางอย่างที่เป็นข่าว แล้วสาดรัวมานับร้อย คืออะไร ??? แล้วคนที่ตายนั่นอยู่กับพวกเรา ชื่อนายสุอนันท์ ป้องเศร้า หรือชื่อมุสลิมว่า อาดือนัน บินซูรียา เขาถูกยิงขณะที่ทุกคนหมอบลงแต่สุอนันท์ยังอยู่ในท่านั่งไม่ทันหมอบ เสี้ยวนาทีกระสุนเจาะร่างตรงกลางหัวใจทันที ” ..

“สุอนันท์วิ่งมาหลบใต้อาคารเรือนนอน 4 เพราะไม่อยากมีส่วนเอี่ยวกับการก่อจลาจล” .. มาทราบภายหลังสุอนันท์ ป้องเศร้า โดนคดียาเสพติดติด อยู่เรือนนอนคดียาเสพติดที่อยู่ตรงข้ามเรือนนอน 4 แต่วันเกิดเหตุสุอนันท์ไปอยู่กับกลุ่มคดีความมั่นคงเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า แต่วันที่ถูกยิงเสียชีวิต ได้ล้มลงบนตักญาติตัวเอง ..

ฉันนิ่งอึ้งตกใจทันที จากคลายกังวลดีใจที่อันวาร์สามีที่รักปลอดภัย แต่กลับรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก นี่มันเกิดอะไรขึ้น เกี่ยวอะไรกับคดีความมั่นคง ช่วงปราบปรามเกี่ยวกับอะไรกับข่าวโคมลอยเรื่องอันวาร์หรือไม่ มันคืออะไร ???!!!??? “เด๊ะ!! สุอนันท์เป็นญาติก๊ะ ก๊ะรู้จักพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาเอะใจตั้งแต่ไปรับศพที่โรงพยาบาลแล้ว รอยแผลไม่ได้ถูกแทงอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นรอยช้ำเหมือนถูกยิง พ่อเขาเป็นนายทหาร น้องชายเขาเป็นตำรวจ เขาดูเป็นน่ะ” ...

ฉันอยู่ไม่สุข แต่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดี ได้แต่รอเวลาเจออันวาร์ “เกือบ 10 โมงครึ่ง ที่ฉันได้เจออันวาร์ .. อันวาร์ยังสบายดีอยู่ ปลอดภัยดีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตามประสา แม่พูดยาวไม่ได้ รู้สึกสะอึกตื้นตันดีใจปนเศร้า แม่เลยได้แค่ทักทายถามไถ่ทุกข์สุขและอวยพรให้อัลลอฮ์คุ้มครองลูกชายคนดี พี่ชายอันวาร์ก็เช่นกัน พูดได้ไม่มากเล่าเรื่องกระแสข่าวอันวาร์จากข้างนอกให้ฟัง และแซวตัวเองไปว่า พี่ชายผู้ก่อการร้ายมาเยี่ยมน้องครับ ตลกร้ายที่ดูขำแต่เจ็บลึก ยังคงถูกหยอกระหว่างเราเสมอ จากนั้นก็เป็นเวลาของภรรยาที่ได้คุยกันตามลำพัง .. เรื่องราวพร่ำพรูเล่ากันไปมาปะติปะต่อเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ หลายสิ่งก็เป็นเหมือนที่เป็นข่าว แต่มีสิ่งที่หลายคนอยากรู้ จะลองเรียบเรียงคำถามที่สงสัยดูน่ะ

จลาจลเกิดได้อย่างไรทั้งรอบแรกและรอบที่สอง ? คำตอบเหมือนที่เป็นข่าวคือจากการก่อเหตุเริ่มจาก 2 คนนั่นจริง และอื่นๆ ไม่แน่ใจ

รอบที่สองทำไมถึงลุกลามหนักยิ่งขึ้น ?? ครั้งแรกเจ้าหน้าที่ฟังข้อเรียกร้องผู้ต้องขังไม่หมด มีคำสั่งไม่ให้พูดต่อ บอกจะเอาแค่ 3 ข้อ ไม่ต้องพูดแล้ว อันวาร์ก็เลยเดินกลับเข้าไปละหมาดอีซาอ์(20.00 น.) กับอิหม่าม 2 คน คนอื่นละหมาดแล้ว ผู้ก่อจลาจลไม่พอใจ เผาสถานศึกษาทันที (ถ้าจำความไม่ผิด)

ทำไมอันวาร์ถึงเป็นตัวแทนเจรจา ? ผู้คุมขอช่วยเพราะถูกอ้างว่าพูดคุยรู้เรื่องที่สุดแล้ว กระดาษข้อเรียกร้องมาได้อย่างไร ? มีคนส่งต่อๆ มาให้ อันวาร์เป็นเพียงตัวแทนอ่าน ไม่รู้ใครเป็นคนเขียน (แต่ข้างนอกมีเจ้าหน้าที่ต่างหากที่ช่วยจดประเด็น และถามว่าใครเป็นตัวแทนอ่านสารนั่น ผู้คุมช่วยตอบ อันวาร์ หะยีเต๊ะ น่าจะเป็นที่มาที่ทำให้โลกออนไลน์และสังคมอคติทำงานกันว่อนเน็ต) ..

ช่วงเจ้าหน้าที่เข้าปราบจลาจลรอบที่ 2 มีการปิดไฟ ระหว่างที่เข้าปราบมีชุดปราบฯ ถามหาคนชื่ออันวาร์ แต่อันวาร์เลือกที่จะไม่แสดงตัวเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย สิ่งที่เป็นข้อกังขา ทำไมต้องเรียกหาชื่ออันวาร์ จะช่วยปกป้องให้ปลอดภัยหรือมีคำสั่งให้ปราบปรามเพราะชุดปราบฯ เชื่อข่าวโคมลอยนั่น(คิดต่างๆ นานาตามประสา) ..

??? ..!!??!!.. ???

ระหว่างที่กำลังเยี่ยมพูดคุยกับอันวาร์อยู่ ฉันเห็นผู้ต้องขังที่ชื่อนายอุสมาน สาและ ที่ถูกแต่งตั้งเป็นตัวแทนผู้นำศาสนาในเรือนจำปัตตานีหรือเรียกว่าอิหม่าม ได้เดินผ่านม่านกระจกห้องขัง เดินตัวโก่ง อันวาร์หันมาบอกว่า อิหม่ามอุสมาน ปวดท้อง อ้วก ตาเหลือง ไม่สบายตั้งแต่หลังเกิดเหตุจลาจลและหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทางเรือนจำนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ทราบมาว่า ก่อนหน้านี้นายอุสมานก็มีอาการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ..

.. ..

ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมขัง ที่ติดอยู่ในเรือนจำ 5 คนสุดท้าย เขายืนยันฟันธงชัดเจนว่า คดีความมั่นคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับก่อเหตุจลาจล แถมเป็นผู้ช่วยให้เจ้าหน้าที่ฯ รอดพ้นจากเงื้อมมือก่อจลาจลนั่น ช่วยพูดคุยต่อรองคุ้มกันให้เจ้าหน้าออกจากเรือนจำอย่างปลอดภัย แต่ไม่เข้าใจข่าวที่แพร่สะพัดออกไปทำไมไปลงเรื่องความมั่นคงไปได้ ..

ข้อสงสัย :-

มีผู้ไม่หวังดีหรือเชื่อข่าวโคมลอยนั่น จะเล่นงานคดีความมั่นคงใช่มั้ย ??

ทำไมต้องสาดกระสุนจริงมาที่เรือนนอน 4 ซึ่งเป็นที่พักคดีความมั่นคง ??

ทำไมต้องมีสไนเปอร์ถึง 2 คน อยู่บนที่สูงนั่น จะรอเก็บใคร (นักข่าวให้ข้อมูลช่วงเกาะติดข่าววันเกิดเหตุ) ??

ทำไมข่าวโคมลอยพยายามยัดเยียดให้เป็นคดีความมั่นคง ??

หรือหากการก่อจลาจลเป็นเรื่องคดีความมั่นคง จะทำให้คนปฏิบัติหน้าที่มีความชอบธรรมในการปราบปรามหรือเปล่า ??

คนที่ถูกสั่งย้ายไปที่เรือนจำต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง ถูกทำร้ายหรือไม่ ถูกเล่นงานหนักรึเปล่า ??

เพราะโดยปกติจะทำการย้ายแต่ละคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นี่ถูกย้ายด้วยเหตุจลาจลอย่างเร่งด่วน ตามรายชื่อที่ติดไว้ที่บอร์ดเรือนจำปัตตานีมีจำนวนถึง 447 คน มากกว่าที่มีในข่าว ชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ระหว่างถูกขนย้ายจนถึงปลายทางจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะถูกซ้อมต้อนเหมือนเหตุการณ์ตากใบหรือเปล่า จะมีใครบาดเจ็บสาหัส หรือเป็นอะไรมากมั้ย ??? ไม่มีใครตอบได้ คงต้องรอติดตามจากญาติ ผู้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเจอและฟังเรื่องราวด้วยตัวเองในโอกาสต่อไป ..

.. .. ?? !! ?? .. คำถามพร่ำพรูกลับมาอีกครั้ง ?? !! ?? ..

เป็นห่วงสหายคดีความมั่นคง เป็นห่วงอันวาร์ที่สุดฮีโร่ของฉัน ขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์อย่าได้เปิดโอกาสให้ผู้อธรรมเล่นงานคนดี ขอให้พลังศรัทธาดุอาอ์เป็นแรงต้านภัยร้ายทั้งปวง ขออัลลอฮ์คุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัย .. ..

สารจากอันวาร์ ..

อัซซาลามูอากุมฯ อันวาร์ฝากสลามถึงเพื่อนพี่น้องทุกคน วันนี้วันศุกร์ครบ 1 สัปดาห์เกิดเหตุจลาจลเรือนจำปัตตานี ฝากเพื่อนๆ พี่น้องทุกมัสยิดร่วมกันละหมาดฮาญัติและทำอัรวะฮ์ให้กับนายสุอนันท์ ป้องเศร้า หรือชื่อมุสลิมนายอาดือนัน บินซูรียา 1 ใน 3 มุสลิมคนเดียวที่ตายในเรือนจำปัตตานี และช่วยกันขอดุอาอ์พรให้พี่น้องในเรือนจำปัตตานีและพี่น้องที่ถูกย้ายไปให้ปลอดภัยด้วย ขอบคุณทุกคนที่มีเราในดุอาอ์เสมอ

รอมือละห์ แซเยะ

ภรรยาอันวาร์ผู้บันทึกเรื่องราวหลังเหตุจลาจลเรือนจำปัตตานี

22 กรกฎาคม 2016

Anwar Ismail MA IS