Skip to main content

 

 

"...มดมันชอบน้ำตาลมากเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายเเบบสดๆ หรือน้ำตาลที่ถูกแปรรูปเป็นอย่างอื่น อย่างขนม เบเกอรี่ น้ำเชื่อม พวกนี้มันไวอย่าบอกใครเชียว เปื้อนพื้นนิด เปื้อนพื้นหน่อย ไม่นานก็มาเป็นขบวน อยู่ในซอกในหลืบขนาดไหนมันก็หาเจอ

เเล้วยิ่งวันหนึ่งน่ะ เราปิดฝากระปุกน้ำตาลทรายไม่สนิทเเล้วละก็ เปิดดูอีกทีนึงเป็นว่าไม่ต้องเอาใช้ประโยชน์อะไรเเล้ว น้ำตาลกระปุกนั้น เพราะมันเต็มไปด้วยฝูงมดเป็นกระจุกเมื่อเราเปิดฝามันก็กระจายไม่เป็นทิศเป็นทาง อย่างนั้นเเหละที่อัลลอฮฺให้เราดูตัวอย่างว่าในวันกียามัตมนุษย์จะตื่นกระเจิงในรูปแบบนั้นเอง เเต่นั่นเป็นเเค่ส่วนหนึ่งของมดที่เราสามารถสังเกตเห็น

เมื่อเราเปิดฝากระปุกใบนั้น รอดูให้มดมันกระเจิงให้หมดก่อนเถิด เราก็จะมองเห็นน้ำตาลขาวผ่องส่องประกายอยู่ในนั้น บางคนเอาไปตากเเดดก็มี เเต่หารู้ไม่หรอกว่า ไอกระปุกน้ำตาลที่มดกระเจิงไปหมดสิ้นเเล้วเมื่อสักครู่นี้ ลองเอาช้อนไปเขี่ยสิ ท่านจะรู้ว่า มดมันยังมีอีกเป็นพะเนินหยบอยู่ระหว่างซอกน้ำตาล บางตัวอ่อนโรย บางตัวกลายเป็นซากนอนเเอ้งเเม้งไม่ไหวจะคัดออก ไอตัวที่ยังมีชีวิตก็พอจะหอบตัวเองคลานออกมาได้ เเต่ตัวที่เป็นซากนั้นเองที่ก่อปัญหา เพราะมันหนีไม่ได้ ต้องเขี่ยออกเอง

อย่างนี้เองเราจึงเห็นว่า มดมันตายเพราะน้ำตาลได้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่น้ำตาลนั้นเองคือสิ่งที่มันชอบเเละโปรดปรานที่สุด

ข้าพเจ้าเปรียบเรื่องมดให้เห็น เพราะว่าในอัลกุรอ่านกล่าวถึงผู้ศรัทธากลุ่มหนึ่งที่เผลอคิดว่า ทำไมหนอผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ถึงมีความเป็นอยู่สะดวกสบายเหลือเกิน อยากไปไหนก็ได้ไป อยากกินอะไรก็ได้กิน ละหมาดไม่ต้อง ปอซอไม่มี อีบาดะฮฺไม่ต้องพูดถึง

เเต่พวกเรานี่ เป็นผู้ศรัทธาเเท้ๆ ศรัทธาต่อผู้สร้างโลก สร้างทุกอย่าง ละหมาดไม่ขาด ปอซอไม่ขาด อีบาดะฮฺไม่ละเลย ไฉนเล่า ชีวิตเเร้นเเค้นเหลือเกิน อดมื้อกินมื้อ ชีวิตลำบาก มีเเต่บททดสอบอันลำบากทั้งสิ้น

ดูมดในกระปุกนั้นเถิดพี่น้องที่รัก มันมิได้กลายเป็นซากคากระปุก เพราะความสะดวกสบายของมันดอกหรือ มันเห็นว่ามีโอกาสที่จะสวาปามความหวานให้เต็มที่ อิ่มไปหลายมื้อ เเต่หารู้ไม่ว่ากำลังถลำตัวเองไปสู่จดจบของชีวิต ความหวานของน้ำตาลได้เย้ายวลเจ้ามดโง่ๆ ให้มุดเข้าไป มุดเข้าไปในกองน้ำตาล เเละเมื่อถึงระยะหนึ่งมันก็หลงทางหาทางออกไม่เจอ สำลักตายคาน้ำตาลในที่สุด อย่างนี้มันไม่ได้เรียกว่า ตายเพราะสบายดอกหรือ?

บางครั้งความสบายก็เป็นบททดสอบ เเละน่าเย้ายวลสู่ความหลงลืม เเต่อัลลอฮฺสอนว่า อย่าให้ความสบายในโลกนี้มันหลอกเอานะ สบายหน่อยเดียวเท่านั้นเอง ตายไปก็เท่ากัน เอาไม่ได้สักอย่าง บางทีอัลลอฮฺเลือกความลำบากให้เราเพราะพระองค์ทราบดีว่าถ้าหากให้ความสบาย เราอาจจะเสียคนก็ได้ การมีทุกอย่างที่อยากได้มันไม่ได้รับมือง่ายอย่างที่คิดดอก ไหนจะต้องหักห้ามความโอ้อวด หักห้ามการดูถูกดูหมิ่นคนอื่น หักห้ามการฟุ่มเฟื่อจิปาถะ อย่างนั้นอัลลอฮฺก็ให้เราลำบากย่อมดีกว่า เพื่อว่า ความลำบากจะทำให้เรานึกถึงพระองค์ได้มากกว่า เเต่พระองค์จะให้ลำบากตลอดไปเสียเมื่อไร

โน้น! โลกอาคีรัตยังมีให้เราเกินกว่าที่จะคิดคำนึงได้ คนที่เราเห็นว่าเขาสบายในโลกนี้ โดยไม่ต้องละหมาดไม่ต้องอีบาดะฮฺอะไรสักอย่างนั้น ทราบไหมว่าอัลลอฮฺเตรียมอะไรไว้

"มันเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้น แล้วที่อยู่ของพวกเขานั้น คือ ญะฮันนัม และช่างเป็นที่พักนอนที่เลวร้ายจริง ๆ"

(อาลีอิมรอน :197)

อันที่จริงที่พักนอนในคำนี้อัลลอฮฺใช้คำว่า "มีฮาด(الْمِهَادُ)" มันเเปลว่า เปลนอนที่ไกวไปมา ถ้าเราพินิจดูเเล้ว เปลนอนนี้มันสบายนะ เเต่อัลลอฮฺใช้สำนวนนี้ในนรก เเสดงว่า มันสบายไม่จริง

เพราะฉะนั้นเราอย่าคิดอะไรมากเลยพี่น้องที่รัก มีกำลังในการพยายามก็พยายามทำมาหากิน จะสำเร็จหรือว่าล้มเหลว ทุกอย่างย่อมมีฮิกมะฮฺของมัน หากเรารู้จักฮิกมะฮฺที่ซ่อนอยู่เราจะรู้สึกพอใจในสิ่งที่เราประสบ คือให้นึกเสมอว่า ที่อัลลอฮฺประทานมาให้ ณ ปัจจุบัน คือดีที่สุดเเล้ว อย่าคิดร้ายต่อพระองค์เป็นอันขาดพี่น้องที่รัก

วันนี้เราคิดว่ามันไม่ดี เเต่อีกยี่สิบปีข้างหน้า ถ้าเรามีโอกาสคิดย้อนกลับ เราอาจจะพบว่า อ๋อ ใช่จริงๆ ถ้าวันนั้นอัลลอฮฺประทานในสิ่งที่เราต้องการเเล้วละก็ ชีวิตเราอาจจะเเย่กว่าเดิมก็ได้ ชีวิตซึ่งห่างอัลลอฮฺถือว่าน่ากลัวที่สุด..."

 

- จากการสอนตัฟซีรนูรุ้ลเอียะฮฺซาน ซูเราะฮฺ อาลี อิมรอน สอนโดยบาบอ อิสมาแอล สปันญัง อัลฟาฏอนีย์ ถอดความโดย ฟากีร -