Skip to main content

ซัยยิด กุฏุบ (Syed Qutb 1906-1966)

http://www.sampsoniaway.org/wp-content/uploads/2013/09/Sayyid_Qutb-Milestones.jpg

ซัยยิด กุฏุบ เกิดปี 1906 ในประเทศอียิปต์ แม่ชื่อฟาติมะฮฺ  ผู้ศึกษาอัลกุรอ่านอย่าลึกซึ้งจนทำให้ กุฏุบกลายเป็นผู้ท่องจำอัลกุรอ่านตั้งแต่เยาว์วัย ครอบครัวกุฏุบย้ายเข้าไปอยู่ในกรุงไคโรและกุฏุบก็ได้เรียนจบจาก ทัจฮิจยะดารุลอูลูม ซึ่งเขาได้กลายเป็นผู้ได้รับการถูกเลือกให้บรรยายในสถาบันดารุลอุลูมแห่งนี้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจโรงเรียนต่าง ๆ โดยสังกัดในนามกระทรวงศึกษาธิการ จนไม่นานหลังจากนั้น

กุฏุบได้รับการคัดเลือกไปศึกษาต่อ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ณ วิท ยาลัยครูวิลสัน ในกรุงวอชิงตันและวิทยาลัยกรีลีย์ ในโคโรลาโด และแสตนฟอร์ด ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

นับจากวันที่ซัยยิด กุฏุบถูกส่งไปเพื่อล้างสมองและเข้ายัดวินโดใหม่ ๆ  เพื่อให้สังคมตะวันตกชะล้างศรัทธาที่เขาเคยมีมาแต่เดิม แต่ในทางกลับกัน หนทางสายนี้ยิ่งทำให้ความเน่าเฟะที่รุมเร้าและกัดกินหัวใจ เร่งเร้าและปลุกแรงกล้าในการ “ปฏิวัติเพื่ออิสลาม” ของเขาอย่างรวดเร็วและกะทันหันขึ้นในไม่ช้า

การเติบโตของอิสลามหยั่งรากที่ละนิด  โคนต้นแผ่กิ่งใบอย่างช้า  รากแก้วเส้นเล็ก ๆ เริ่มทิ่มแทงลงสู่พื้นดิน  วันเวลาผ่านไป รากแก้วยิ่งลึก  ต้นไม้ยิ่งทานแรงลมได้อย่างมีพลัง กุฏุบจึงได้บทเรียนอย่างลุ่มลึกเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสังคมอิสลามของเขาในประเทศอียิปต์ กระทั่งเขาได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (อิควาน อัล-มุสลิมูน)

กุฏุบได้กลายเป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการและนักเขียน  กระทั่งปี 1954 การเคลื่อนไหวของพวกเขาเริ่มออกสู่สาธารณะเพื่อเปลี่ยนทัศนะคติของผู้คน นั่นก็คือ หนังสือพิมพ์ที่ชื่อว่า “อิควาน อัล-มุสลิมูน”  การเคลื่อนไหวครั้งดังกล่าวได้รับการปราบปรามอย่างหนักจากรัฐบาล จนกุฏุบต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำและถูกยึดทรัพย์  กุฏุบป่วยหนักและถูกทรมานอย่างทารุณในคุก กระทั่งศาลประชาชนตัดสินให้เขาไปเป็นกรรมกรใช้แรงงาน 15 ปี 

เวลาผ่านไปเพียง 1 ปี กุฏุบได้รับการปล่อยตัวในฐานะบุคคลพิเศษของทางรัฐบาลและได้รับการเรียนเชิญเพื่อเป็นผู้มีตำแหน่งสูงงในกระทรวงศึกษาธิการของประเทศอียิปต์ กระนั้นเขาก็ปฏิเสธในตำแหน่งดังกล่าว กุฏุบ และน้องของเขาอีกสามคน คือ มูฮัมหมัด อามีนะหฺและฮามีดะหฺ ก็ได้ถูกคุมขังข้อหาล้มล้างการปกครองของรัฐบาล

การคุมขังกุฏุบไว้ในคุกนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เขาได้บอกเรา เพราะเขาบอกว่า มันเป็นของกำนัลจากอัลลอฮฺ กุฏุบจึงใช้เวลาแห่งการคุมขังเขียนอรรถาธิบายอัลกุรอ่านเล่มโด่งดังที่สุดของเขา นั่นก็คือ ใต้ร่มเงาของอัลกุรอ่าน (Fi silalil Quran) นับเป็นหนังสือตัฟซีรที่ทรงอิทธิพลเล่มสำคัญในโลกร่วมสมัย

http://holybooks.lichtenbergpress.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/in-the-shade-of-the-qur-an.jpg?a20918

รัฐบาลอียิปต์ได้ตัดสินประหารชีวิต ซัยยิด กุฏุบในจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 1966  ท่ามกลางการคัดค้านของประชาคมมุสลิมทั่วโลก  กุฏุบได้กลายเป็นนักคิดคนสำคัญของโลกมุสลิม ซึ่งได้ทิ้งงานเขียนไว้เป็นมรดกให้กับโลกมุสลิมกว่า 20 เล่ม กุฏุบใช้เวลาวันละ 8-10 ชั่วโมงในการศึกษาอิสลาม หนังสือเล่มที่โด่งดังและทรงอิทธิพลที่สุดของเขาในโลกร่วมสมัยนั่นก็คือ หลักชัยอิสลาม (Milestones) 

หลักชัยอิสลาม (Milestones)

            หนังสือเล่มนี้นับเป็นผลงานชิ้นที่ทรงอิทธิพลให้กับสังคมโลกร่วมสมัยของนักเขียนผู้โด่งดัง ซัยยิด กุฏุบ เรารู้จักหนังสือเล่มนี้ในนาม หลักชัยอิสลาม ซึ่งกลายเป็นข้อเขียนที่ยืนยันถึงการทำงานเพื่อสังคมอิสลามไว้อย่างชัดเจน

กุฏุบ ได้บอกให้เรารู้ถึงความจำเป็นของภาระหน้าที่ของคนหนุ่มสาวที่ต้องออกมาขับเคลื่อนสังคมมุสลิม เพราะในสังคมมุสลิมจำเป็นต้องมี “กองหน้า” ที่ออกมาทำงานเพื่อรับใช้สังคมเพื่อเผยแพร่หลักคำสอนของอิสลามที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทรญาฮิลิยะหฺ ซึ่งกองหน้าจำเป็นต้องทำความเข้าใจเครื่องหมายและหลักไมล์ของถนนอย่างจริงจังเพื่อมุ่งสู่หลักชัย

ที่สำคัญกว่านั้นการรู้จักที่จะต้องเผชิญหน้ากับญาฮิลียะหฺซึ่งปักหลักอยู่ทั่วไปบนโลกใบนี้ พวกกองหน้าต้องรับรู้ว่าเมื่อใดพวกเขาต้องร่วมมือกับผู้อื่นและเมื่อใดที่พวกเขานั้นต้องเรียนรู้การแยกตัวออกจากจากบุคคลเหล่านั้น พวกเขาต้องรู้จักการติดอาวุธแห่งอิสลามเพื่อต่อสู้กับการแปลกปลอมของญาฮิลิยะหฺ และที่สำคัญพวกเขาต้องรู้ว่า งานหลักของกองหน้าในการต้องนำอิสลามมาปรับใช้กับสังคมที่โดนครอบโดยแนวคิดญาฮิลิยะหฺแบบใดและอย่างไร ?

หลักไมล์ที่ถูกกำหนดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ หลักการศรัทธาแห่งอิสลามจากคำสอนของอัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ ซึ่งบุคคลกลุ่มแรกที่เคยเป็นกองหน้าอย่างท่านศาสดาและบรรดาศอฮาบะหฺได้ใช้เป็นเครื่องมือในการเผชิญหน้ากับญาฮิลิยะหฺจนได้รับความสำเร็จมาแล้ว ทั้งหมดคือพินัยกรรมที่ยังคงอยู่ในมือของกองหน้ารุ่นปัจจุบัน ไม่ว่าหลักการของอัลกุรอ่านและการปฏิบัติของท่านศาสดา ซึ่งไม่ต่างกับกองหน้าในยุดแรก และมันคือเครื่องมือและหลักไมล์ที่ทำให้กองหน้ารุ่นปัจจุบันเดินลุล่วงเข้าสู่หลักไมล์ในแบบที่ไม่ต่างกัน

หลักไมล์เดียวกันได้ใช้เวลา 23 ปี และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันคือเรื่องที่เป็นไปได้ซึ่งโลกก็ได้จารึกไว้แล้วถึงความสำเร็จดังกล่าว มันคือ “หยดน้ำพุ” ที่ทำให้กองหน้ารุ่นแรกดับกระหายของพวกเขาด้วยการใช้อัลกุรอ่านเป็นไม้บรรทัดในการปรับวิถีชีวิต ความคิดของพวกเขาจึงสะอาดบริสุทธิ์ไร้การปะปน กองหน้ากลุ่มแรกใช้น้ำพุบ่อนี้เท่านั้น พวกเขาจึงได้รับการบันทึกเป็นแบบฉบับของโลกในเวลาต่อมา  

กองหน้ารุ่นปัจจุบันไม่ได้ใช้นำพุแหล่งนี้เพื่อดับกระหายพวกเขา  พวกเขาไม่ได้ศึกษาอัลกุรอ่านเพื่อเพิ่มความศรัทธา แต่พวกเขาศึกษาอิสลามเพื่อความอยากรู้และอยากได้ศาสตร์ต่าง ๆ ที่อัลกุรอ่านเขียนบันทึกเอาไว้เท่านั้นเองเพียงเพื่อการพูดคุยและโอ้อวดความรู้ต่อกัน ที่ดหดร้ายกว่านั้นน้ำพุแห่งอิสลามได้รับการปะปนจากน้ำพุสายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ตรรกศาสตร์ วัฒนธรรมและธรรมเนียต่าง ๆ ของกรีกและเปอร์เซีย กระทั่งผลผลิตของกองหน้ารุ่นนี้ต่างจากแบบแท่นพิมพ์กองหน้ารุ่นแรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

เพราะกองหน้ารุ่นแรกใช้เวลาทั้งหมดเพื่อศึกษาอัลกุรอ่านครั้งละเพียง 10 อายะหฺเพื่อเพิ่มความศรัทธาและนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง พวกเขาไม่ได้ศึกษาอัลกุรอ่านเพื่อหาข่าวคราว หนังสือวรรณกรรม บันทึกทางประวัติศาสตร์ ข้อมูลทางวิชาการและแหล่งอ้างอิงทางอารยะธรรม แต่พวกเขาใช้มันเป็นแหล่งกล่อมเกลาจิตสำนึกของพวกเขาในการรับรู้ “คำประกาศประจำวัน” ว่าพวกเขาต้องทำอะไรบ้างเพื่อไปสู่หลักชัยแห่งอิสลาม 

 “หลักชัยอิสลาม” จึงจำเป็นสำหรับพวกเราทุกคนที่ต้องอ่านและทำความเข้าใจอย่างจริงจังเสียที

http://mappingsharia.com/wp-content/uploads/2011/06/Qutb-Milestones-cover-Arabic.jpg

อ่านเพิ่มเติม 

ซัยยิด กุฏุบ , หลักชัยอิสลาม