Skip to main content
แซมซู แยะแยง โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้(DSW)

 

 

 

ชะตากรรมครอบครัวสือแมชาวบ้าน อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทุกข์หนักหลังถูกคนร้ายไม่ทราบฝ่ายบุกจ่อยิงยกครัวถึงในบ้าน ซ้ำร้ายหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิตหลังรักษาตัวกว่า 2 สัปดาห์ ทิ้งภรรยารับภาระเลี้ยงดูลูกน้อยอีกสองคน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วนเพราะยังไม่สามารถทำมาหากินได้

 

 

แม้เดือนปีหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่ความตายในชายแดนใต้ก็ยังมีทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง ความเดือนร้อนลำบากก็มีตามมาให้เห็น อย่างเช่น ครอบครัวของ “นูรีฮัน กาเจ” แห่งนราธิวาส ที่ต้องสูญเสียสามีจากเหตุการณ์ไม่สงบ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อคนร้ายกลุ่มหนึ่ง บุกยิงครอบครัวสือแม ขณะสมาชิกครอบครัวทั้ง 4 คน ร่วมกันรับประทานอาหารเย็น เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 28 ธันวาคม 2553 ที่บ้านเลขที่10/3 หมู่ที่ 6 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
เหตุการณ์ผ่านไป 2 สัปดาห์ นายเปาซี สือแม หัวหน้าครอบครัวก็เสียชีวิตลง ทิ้งภรรยาและลูกน้อยอีกสองคนใช้ชีวิตอย่างลำบากยากไร้ เพราะนายเปาซีเป็นเสาหลักของครอบครัวซึ่งมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง เหตุการณ์ผ่านมากว่า 3 สัปดาห์ยังไม่มีหน่วยงานไดเข้ามาให้การช่วยเหลือเยียวยา
นางนูรีฮัน กาเจ วัย 28 ปี ภรรยานายเปาซี เล่าถึงนาทีระทึกว่า ขณะที่ตนพร้อมสามีและลูกๆ ร่วมกันรับประทานอาหารเย็นที่ห้องครัวหลังบ้านอย่างเอร็ดอร่อยและหยอกล้อกันสนุกสนานตามปกติ จู่ๆ มีคนร้ายไม่ต่ำกว่าสามคน สวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า ถีบประตูห้องครัวอย่างแรงจนทำให้กลอนประตูหลุดและประตูถูกเปิดออก
“สามีได้สั่งให้ดิฉันและลูกๆ หลบที่เคาน์เตอร์ห้องครัว จากนั้นคนร้ายที่ยืนอยู่หน้าประตูห่างจากสามีไม่ถึง 4 เมตร คนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามจ่อยิงเข้าใส่สามีจนล้มทั้งยืน กระสุนปืนยังถูกลูกสาวคนโตที่หลบอยู่หลังสามีด้วย ส่วนดิฉันกระสุนถูกเข้าที่เข่าซ้าย ส่วนลูกชายเคราะห์ดีรอดจากคมกระสุนได้ คนร้ายใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 5 นาที จกนั้นได้หลบหนีไปทางหลังบ้านอย่างรวดเร็ว”นูรีฮัน กล่าว
สิ้นเสียงปืนมีญาติๆและเพื่อนบ้านร่วมกันนำตนพร้อมสามีและลูกๆไปยังโรงพยาบาลระแงะ ก่อนจะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
สามีของเธอ ชื่อ นายเปาซี สือแม อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้างกรีดยาง ถูกยิงที่คาง หน้าอก หน้าท้องและน่องทั้ง 2 ข้าง กระสุนฝังในสิบกว่านัด นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 2 สัปดาห์ และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 ส่วนเธอก็มีอาชีพรับจ้างกรีดยางเช่นกัน
ส่วนลูก 2 คนชื่อเด็กหญิงบิสมี สือแม อายุ 5 ขบวน กำลังศึกษาชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านบาโงกูโบ กระสุนฝังในที่ใต้รักแร้ขวา และเอวขวา รวม2นัด และเด็กชายอับดุลฟาตะห์ สือแม อายุ 2 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ
สามีของฉันเป็นคนดีขยันทำงาน รักครอบครัวมาก ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร มีบทบาทด้านศาสนาคือเป็นอิหม่ามนำละหมาดที่มัสยิด อ่านคุตบะห์(บรรยายธรรม)ก่อนละหมาดวันศุกร์ อดีตเคยเป็นครูสอนโรงเรียนตีกา เพราะสามีเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านศาสนา สามีฉันจึงเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน” นูรีฮัน กล่าว
เธอเ เล่าต่อไปว่า เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว สามีเคยถูกทหารคุมตัวไปสอบถามว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบหรือไม่ แต่สามีปฏิเสธ หลังจากถูกคุมตัวกว่า 2 ชั่วโมงทหารก็ปล่อยตัว เมื่อกลับมาสามีก็ได้ใช้ชีวิตตามปกติและไม่เคยคิดหนี เพราะตนเองบริสุทธิ์
“หลังจากนั้น เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดในละแวกหมู่บ้าน ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจค้นที่บ้านบ่อยขึ้น นูรีฮัน กล่าว
วันนี้ฉันไม่มีสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัวแล้ว ทำให้ภาระการเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 2 คนตกอยู่กับฉันคนเดียว ตั้งแต่เกิดเหตุมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีหน่วยงานใดมาช่วยเหลือฉันเลย มีเพียงสิ่งของและเงินเล็กน้อยที่ได้จากญาติและเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมเท่านั้น”
“การใช้ชีวิตวันนี้ลำบากมาก เพราะฉันยังไม่สามารถทำงานได้ อาการเจ็บหัวเข่าก็ยังไม่หายดี และยังต้องคอยดูแลลูกสาวที่บาดเจ็บอย่างใกล้ชิดด้วย”นูรีฮัน กล่าว พร้อมกับคำขอที่ว่า
“ฉันขออยากวอนผ่านสื่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยา ให้เข้ามาช่วยเหลือฉันบ้าง เพราะฉันไม่มีความรู้เรื่องการขอรับการช่วยเหลือเยียวยาเลย