ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)
นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิชุมชนเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตนถูกบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสงขลาพร้อมกับชาวบ้านรวม 9 คน เรียกค่าเสียหาย 64,740,485 บาท ฐานละเมิดและทำให้เสียทรัพย์ จากการคัดค้านการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองหินเขาคูหา ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จนไม่สามารถประกอบกิจการได้
นายเอกชัย เปิดเผยต่อไปว่า คดีนี้ศาลจังหวัดสงขลานัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 9 สิงหาคม 2554 และพร้อมต่อสู้คดี โดยในเบื้องต้นจะแต่งตั้งทนายความและเขียนคำร้องให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันได้รับหมายเรียกเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2554
นายเอกชัย เปิดเผยอีกว่า สำหรับชาวบ้านที่ถูกฟ้องประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรีหญิงนฤมล จันทสุวรรณ นายครื้น บุญรัตน์ นายสุทธิวงศ์ รักเงิน นายบรรจง ทองเอื่อย นายประเวศ จันทะสระ นายสุวรรณ อ่อนรักษ์ นายนิพนธ์ ปราบฤทธิ์ และนางสาวอรปรียา บุญรัตน์
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ที่ห้องพิจารณาคดี 5 ศาลแขวงสงขลา นายนวพล บุญสิทธิ์ ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ พ.588/2553 ระหว่างนางเรณู แสงสุวรรณ กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด ความผิดฐานละเมิดและทำให้เสียทรัพย์ จากการประกอบกิจการเหมืองหินเขาคูหา ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา มีชาวบ้านในเครือข่ายสิทธิชุมชนเขาคูหา 15 คน ร่วมรับฟัง
โดยเป็นการสืบพยานจำเลยปากสุดท้าย คือนายธม เหมพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด
นายธม เบิกความสรุปว่า ตั้งแต่ตนดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ของบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด มีชาวบ้านบางส่วนได้รับมีผลกระทบจากการทำเหมืองหินเขาคูหาจริง เช่น บ้านแตกร้าว และมีการเรียกร้องค่าชดเชย ทางบริษัทฯจึงได้จ่ายค่าชดเชยให้ อีกทั้งได้มอบเงินให้แก่ชุมชนในพื้นที่ผ่านผู้นำชุมชน
นายธม เบิกความต่อไปว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านเครือข่ายสิทธิชุมชนเขาคูหา ได้ทำหนังสือร้องเรียนและคัดค้านการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองหินเขาคูหาของบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัดไปยังหน่วยงานต่างๆของรัฐ ทำให้ไม่สามารถต่ออายุประทานบัตรได้ ทั้งที่รายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ประกอบการต่ออายุสัมปทานดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบจากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม (สผ.) แล้ว
นายธม เบิกความต่ออีกว่า ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายเอกชัย และพวกรวม 9 คน ในฐานความผิดละเมิดและทำให้เสียทรัพย์ จากการคัดค้านการต่ออายุประทานบัตร จนไม่สามารถประกอบกิจการได้ โดยเรียกค่าเสียหาย 64,740,485 บาท
จากนั้นผู้พิพากษาได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2554