Skip to main content
ทวีศักดิ์ ปิ, ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)
มูฮำหมัด ดือราแม สำนักข่าวประชาไท
 
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา “กลุ่มวาดะห์” เป็นกลุ่มการเมืองที่ทรงอิทธิพลยิ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
อันเป็นความยิ่งใหญ่ภายใต้การนำของ “นายเด่น โต๊ะมีนา” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา แห่งจังหวัดปัตตานีในระยะแรก ก่อนจะมอบภาระผู้นำกลุ่มให้กับ “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลาในกาลต่อมา
 
ทว่า ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ดูเหมือนจะเป็นการลงมติตอกฝาโลงกลบฝัง “กลุ่มวาดะห์” ด้วยน้ำมือของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผู้โอบอุ้มนักการเมืองกลุ่มนี้มาเนิ่นนานโดยแท้   
 
เนื่องเพราะ “อดีตสมาชิกกลุ่มวะห์ดะห์” ไม่ได้รับเลือกตั้งแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ลงสมัครในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และลงสมัครในสังกัดพรรคมาตุภูมิ

 

 

อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์

 

นิพนธ์ บุญญามณี

 
จะมีก็แต่ “นายซูการ์โน มะทา” ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 2 ที่ลงสมัครในสังกัดพรรคเพื่อไทย ผู้เป็นน้องชายของ “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” อดีตแกนนำกลุ่มวะห์ดะห์ ที่ขับเคี่ยวกันมาอย่างสูสีกับ “นายอับดุลการิม เด็งระกีนา” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ไปเพียง 48 คะแนน
 
จึงไม่แปลกที่ช่วงเช้าของวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 “นายซูการ์โน มะทา” จะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา ที่ศาลากลางจังหวัดยะลา ยื่นหนังสือคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อ “นายบรรเทิง วัชรเสรีกุล” ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา พร้อมกับร้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งนับคะแนนใหม่
 
ถึงกระนั้น “นายซูการ์โน มะทา” ก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ถึงการพ่ายแพ้ชนิดหมดรูปของพลพรรคนักการเมือง “อดีตกลุ่มวาดะห์” ในคราวนี้
 
แตกต่างไปจาก “นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ อดีตแกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่ออกมาบอกว่า กลุ่มวาดะห์แตกสลายไป ตั้งแต่เมื่อปี 2548 ดังนั้นจะเรียกนักการเมืองที่เคยอยู่ในกลุ่มนี้ว่า กลุ่มวะห์ดะห์ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะต่างคนต่างก็ไปสังกัดพรรคต่างๆ กัน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคมาตุภูมิ และพรรคประชาธรรม ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มยุววาดะห์ในอดีต
 
เป็นกลุ่มยุววาดะห์ ที่ “นายอารีเพ็ญ อตุรสินธุ์” บอกว่า เป็นกลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่บรรดาแกนนำกลุ่มวาดะห์หวังจะปั้นขึ้นมามาแทนกลุ่มวาดะห์รุ่นอาวุโสในกาลอนาคต
 
ทว่า กลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อกลุ่มวาดะห์ถึงกาลแยกทางกันเดินเสียก่อน อันนำมาสู่การแยกวงออกมาตั้ง “พรรคประชาธรรม” ขั้นมารองรับงานการเมืองของบรรดายุววาดะห์ทั้งหลาย
 
ถึงแม้ “กลุ่มวาดะห์” จะสลายตัวมานานหลายปี แต่ “นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ยังยืนยันด้วยความมั่นใจยิ่งว่า กลุ่มวาดะห์สร้างผลงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากว่า 25 ปี สาเหตุที่นักการเมืองกลุ่มนี้ ต้องมาพ่ายแพ้ชนิดหมดรูปคราวนี้ เป็นเพราะมีเวลาหาเสียงน้อย
 
นั่นหมายความว่า พวกเขาไม่สามารถออกพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อบอกเล่าผลงานให้ประชาชนรับทราบได้อย่างทั่วถึง เมื่อบวกรวมกับงบประมาณที่ใช้ในการหาเสียงมีน้อย ยิ่งทำให้การหาเสียงทำได้ไม่เต็มที่ ประชาชนจึงไม่ทราบว่า นักการเมืองที่เคยอยู่ในกลุ่มวาดะห์สร้างผลงานอะไรมาบ้าง แม้ว่านักการเมืองที่อยู่ในกลุ่มวาดะห์ ที่แยกย้ายไปสังกัดพรรคต่างๆ จะพยายามนำผลงานที่เคยทำมาใช้หาเสียงก็ตาม
 
“เมื่อประกอบกับการเตรียมตัวที่ดีของพรรคคู่แข่ง ที่มีงบประมาณมากพอ และมีอิทธิพลเหนือข้าราชการในพื้นที่ จึงมีส่วนช่วยให้ประชาชนเข้าถึงนโยบายของพรรคคู่แข่งได้มากกว่า ทำให้พรรคคู่แข่งชนะเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบทุกเขตเลือกตั้ง”
 
เป็นทัศนะที่หล่นออกมจากเรียวปากของอดีตแกนนำกลุ่มวาดะห์นาม “อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์”
 
เมื่อพูดถึงอนาคตทางการเมืองของอดีตกลุ่มวาดะห์ “นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ยังไม่มีคำตอบว่า พวกเขาจะกลับมารวมตัวกันใหม่อีกหรือไม่
 
ขณะที่ “นายนัจมุดดิน อูมา” ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 3 รองเลขาธิการพรรคมาตุภูมิ หนึ่งในอดีตสมาชิกกลุ่มวาดะฮ์ พูดถึงสาเหตุที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยอยู่ในกลุ่มวาดะห์ไม่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดจากการแย่งชิงฐานเสียงคนมุสลิมกันเอง ระหว่างผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมุสลิม ที่แยกย้ายกันไปสังกัดพรรคต่างๆ ในแต่ละเขตเลือกตั้ง
 
“การที่อดีตสมาชิกกลุ่มวาดะห์ไม่ได้รับเลือกตั้ง น่าจะมาจากต่างคนต่างแยกย้ายกันสังกัดพรรคต่างๆ ทำให้บทบาทของแต่ละคนไม่โดดเด่น ขณะที่แต่ละคนก็ไม่มีบทบาทร่วมกับพรรคต้นสังกัดมากนัก ทำให้ชาวบ้านมองไม่เห็นผลงาน” เป็นข้อสังเกตที่แหลมคมจาก “นายนัจมุดดีน อูมา”
 
ขณะเดียวกัน “นายนัจมุดดีน อูมา” ก็มองว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์กวาดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกือบหมด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นฐานเสียงหลัก เป็นฐานเสียงที่มั่นคง เสียงไม่แตก แถมยังสามารถแย่งฐานเสียงคนมุสลิมไปได้บางส่วนอีกต่างหาก
 
ไม่ว่านักการเมืองที่เคยสังกัดกลุ่มวาดะห์จะตกอยู่ในสภาพพ่ายแพ้ชนิดหมดรูป “นายนิพนธ์ บุญญามณี” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ขุนพลพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่องยาวนานผู้นี้ ยังคงมองว่า เป็นการด่วนสรุปเกินไป ที่จะบอกว่านักการเมืองอดีตกลุ่มวาดะห์สูญพันธุ์ไปแล้วจากชายแดนภาคใต้
 
“นายนิพนธ์ บุญญามณี” ระบุว่า คงต้องดูใน 2 ระดับ นั่นคือ ในฐานะตัวบุคคล นักการเมืองกลุ่มนี้ จะปรับตัวอย่างไร ขณะเดียวกันในระดับกลุ่ม “นายเด่น โต๊ะมีนา” กับ “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” จะกลับมาร่วมมือทางการเมืองกันได้อีกหรือไม่
 
“ผมคิดว่าสาเหตุสำคัญที่อดีตกลุ่มวาดะห์พ่ายหมดรูปคราวนี้ มาจากปัจจัยความแตกแยกภายในกลุ่มอย่างเป็นด้านหลัก ปัจจัยต่อมาที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ การชูธงกระจายอำนาจเป็นมหานครปัตตานีของพรรคเพื่อไทย และชูธงตั้งทบวงบริหารราชการชายแดนภาคใต้ของพรรคมาตุภูมิ ของบรรดาอดีตกลุ่มวาดะห์ ล้วนหลุดลอยจากความเป็นจริงในพื้นที่”
 
เป็นข้อสังเกตจากนักการเมืองเก๋าเกมนาม “นายนิพนธ์ บุญญามณี”
 
ด้วยว่า เท่าที่ “นายนิพนธ์ บุญญามณี” ลงไปสัมผัสผู้นำท้องถิ่นพบว่า นักการเมืองท้องถิ่นต่างกังวลกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีความชัดเจนว่า ถ้ากระจายอำนาจเป็นมหานครปัตตานี หรือมีทบวงบริหารราชการชายแดนภาคใต้ขึ้นมาแล้ว องค์กรปกครองท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล จะมีที่อยู่ที่ยืนตรงไหนในท้องถิ่น
 
ในสายตาของ “นายนิพนธ์ บุญญามณี” ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา ขณะที่จังหวัดปัตตานีอยู่ในความดูแลของ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” กับคณะ มองว่า สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึง 9 เขต จาก 11 เขตเลือกตั้ง ก็เพราะในรอบ 2 ปี รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้แก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายหลายประการ โดยเฉพาะการรื้อฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
 
รวมทั้งการขับเคลื่อนนโยบายที่ไม่ก่อให้เกิดความไม่ธรรมในพื้นที่ เช่น การให้อำนาจเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่งย้ายเจ้าหน้าที่รัฐที่รังแกประชาชนในพื้นที่ได้ทันที ส่งผลให้ที่ผ่านมาเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจออกนอกพื้นที่แล้ว 9 นาย
 
นอกจากนี้ “นายนิพนธ์ บุญญามณี” ยังมองว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สามารถแก้ปัญหาปากท้องของคนในพื้นที่ได้หลายอย่าง เช่น การยกระดับราคาผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน การวางปะการังเทียมในพื้นที่ชายฝั่ง ช่วยให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น ทางด้านการศึกษา รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ยกระดับอิสลามศึกษาในพื้นที่ เช่น ตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันการศึกษาปอเนาะ และเยาวชนในพื้นที่ ได้รับประโยชน์โดยตรง
 
ที่สำคัญคือประชาชนเชื่อว่า ขณะนี้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีมากขึ้น เห็นได้จาก 3 เมืองใหญ่ๆ คือ อำเภอสุไหงโก–ลก จังหวัดนราธิวาส เมืองเบตง จังหวัดยะลา และเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
 
“ในรอบหลายปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงจนถึงกลางคืน แต่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่อำเภอสุไหงโก–ลก อำเภอสุคีรินริน จังหวัดนราธิวาสเลิกเกือบเที่ยงคืน แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” เป็นถ้อยคำยืนยันจากปาก “นายนิพนธ์ บุญญามณี”
 
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งคือ “นายชวน หลีกภัย” อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในพื้นที่ ลงมาช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มที่ เป็นอีกมุมความเชื่อของ “นายนิพนธ์ บุญญามณี”
 
ในท่ามกลางความถดถอยของนักการเมืองอดีตกลุ่มวาดะห์ “นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ยังฝันที่จะสร้างวาดะห์พันธุ์ใหม่ เป็นนักการเมืองมุสลิมรุ่นใหม่ ไม่ใช่เฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เหมือนในอดีต ด้วยการทำพรรคมาตุภูมิให้เป็นภาพจำลองของ “กลุ่มวาดะห์” ในระดับประเทศ
 
“ผมจะสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อแทนที่กลุ่มพวกผม โดยมีจุดเริ่มต้นจากคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วขยายไปทั่วประเทศ เหมือนพรรคพลังชลที่ยึดมั่นพื้นที่ภาคตะวันออกได้อย่างเหนียวแน่น แล้วค่อยขยายออกไป”
 
เป็นคำกล่าวจากปากของ “นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ในยามอ่อนล้า

 

อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง

 
 
 
 
 

และ รวมข่าว - เจาะเลือกตั้งชายแดนใต้ 54 โดย โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้