mso-fareast-theme-font:minor-latin;mso-ansi-language:EN-US;mso-fareast-language:
EN-US;mso-bidi-language:TH">แซมซู แยะแยง, นูรยาเก็บ บุญเกิด, ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ, ลุกมาน มะ, ฮัสซัน โตะดง, ทวีศักดิ์ ปิ, ยารีนา กาสอ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ( mso-fareast-font-family:Calibri;mso-fareast-theme-font:minor-latin;mso-ansi-language:
EN-US;mso-fareast-language:EN-US;mso-bidi-language:TH">DSJ)
นายนัจมุดดิน อูมา
นายนัจมุดดิน อูมา ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)นราธิวาส เขต 3 พรรคมาตุภูมิ อดีตนักการเมืองกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า เหตุที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ มาจากการแย่งชิงฐานเสียงคนมุสลิมของผู้สมัครจากพรรคต่างๆ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถกวาดที่นั่งไปเกือบหมดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นฐานเสียงหลักและเสียงไม่แตก
นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ อดีตนักการเมืองกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า เหตุที่พรรคมาตุภูมิได้รับเลือกตั้งจากเขต 3 ปัตตานีเพียงคนเดียว และจากระบบบัญชีรายชื่ออีกหนึ่งที่นั่ง เชื่อว่า เพราะประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคมาตุภูมิ เนื่องจากเป็นพรรคใหม่
นายอารีเพ็ญ เปิดเผยว่า การเตรียมตัวที่ดีของพรรคคู่แข่ง มีงบประมาณมากพอและมีอิทธิพลเหนือข้าราชการในพื้นที่ จึงทำให้พรรคคู่แข่งชนะเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบทุกเขต
นายนิมุคตาร์ วาบา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดปัตตานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เหตุที่ตนแพ้เลือกตั้งเพราะเกิดความแปรปรวนขึ้นก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคการเมืองพรรคใหญ่ ยุติการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน ทำให้เกิดการไหลของคะแนนไปยังพรรคการเมืองอื่น ซึ่งเขตนี้พรรคมาตุภูมิชนะเลือกตั้ง
นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึง 9 เขต จาก 11 เขตเลือกตั้ง เนื่องจากในรอบ 2 ปี รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้แก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายหลายประการ โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยออกพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 โดยมีผลบังคับใช้ เมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมา
นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปว่า รวมทั้งการขับเคลื่อนนโยบายที่ไม่ก่อให้เกิดความไม่ธรรมในพื้นที่ เช่น การให้อำนาจเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่งย้ายเจ้าหน้าที่รัฐที่รังแกประชาชนในพื้นที่ได้ทันที ส่งผลให้ที่ผ่านมาเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจออกนอกพื้นที่แล้ว 9 นาย
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยังได้แก้ปัญหาปากท้องของคนในพื้นที่ได้หลายอย่าง เช่น การยกระดับราคาผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน การวางปะการังเทียมในพื้นที่ชายฝั่ง ช่วยให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น ทางด้านการศึกษา รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ยกระดับอิสลามศึกษาในพื้นที่ เช่น ตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันการศึกษาปอเนาะ และเยาวชนในพื้นที่ ได้รับประโยชน์โดยตรง
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ที่สำคัญคือประชาชนเชื่อว่าขณะนี้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น เห็นได้จาก 3 เมืองใหญ่ๆ คือ อำเภอสุไหงโก–ลก จังหวัดนราธิวาส เมืองเบตง จังหวัดยะลา และเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
“ในรอบหลายปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงจนถึงกลางคืน แต่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่อำเภอสุไหงโก–ลก อำเภอสุคีรินริน จังหวัดนราธิวาสเลิกเกือบเที่ยงคืน แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง คือนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในพื้นที่ ลงมาช่วยลูกพรรคหาเสียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มที่
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ตนเป็นผู้แลผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและยะลา ส่วนพื้นที่จังหวัดปัตตานี ช่วยกันดูแลหลายคน โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ส่วนในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนเห็นว่า โครงสร้างการเมืองการปกครองเดิมดีอยู่แล้ว คือ มีศอ.บต.เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหาและพัฒนาพื้นที่ หวังว่ารัฐบาลใหม่คงจะไม่รื้อโครงสร้างนี้ออกไป
“ที่สำคัญฝากรัฐบาลใหม่ให้ศึกษาบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีต มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาด้วย และแม้ว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอยู่ รัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญและดูแลการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว
นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.ประชาธิปัตย์ สมัยที่ 5 เปิดเผยว่า สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งถึง 9 ที่นั่ง จาก 11 ที่นั่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะชาวบ้านถูกใจนโยบายการแก้ปัญหาความไม่สงบของพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถแก้ปัญหาความไม่สงบได้ดีที่สุด ประชาชนจึงอยากให้ได้ ส.ส.ที่เป็นฝ่ายรัฐบาล
“สาเหตุที่คน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เทคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะอยากให้คนในพื้นที่ได้เป็นรัฐมนตรีมาดูแลการแก้ปัญหาชายแดนใต้” นายเจะอามิง กล่าว
นายเจะอามิง กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านพร้อมจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ในการแก้ปัญหาความไม่สงบอย่างเต็มที่ ฝากรัฐบาลใหม่ว่า อย่ากลัวเสียหน้าที่จะขอความร่วมมือจาก ส.ส.ฝ่ายค้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาส่วนรวมของชาติ
นายอันวาร์ สาและ ส.ส.เขต 1 จังหวัดปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านเท่คะแนนให้ตนมาจากสร้างผลงานของพรรคในฐานะรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดปราศรัยช่วยตนหาเสียง โดยนำเสนอผลงานของพรรคที่ประชาชนชอบใจ เช่น เงินช่วยเหลือคนชรา 500 บาท เรียนฟรี 15 ปี สินเชื่อไมโครไฟแนนช์
นายอันวาร์ กล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะทำหน้าฝ่ายค้านที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและคอยผลักดันการทำงานของรัฐบาลที่ได้สัญญาไว้การประชาชน
บัตรเสียในชายแดนใต้
นายอนิรุทธ ขะหมิมะ หัวหน้างานจัดการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาสมีบัตรเสียโดยแบ่งตามบัญชีรายชื่อจำนวน 22,587 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6 ของบัตรเลือกตั้งบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด และบัตรเสียแบบแบ่งเขต 31,271 ใบ คิดเป็นร้อยละ 8 ของบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตทั้งหมด
นายอนิรุทธ เปิดเผยอีกว่า เขตที่มีบัตรเสียมากที่สุดคือเขต 1 มีบัตรเสียแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 5,067 ใบคิดเป็นร้อยละ 5 บัตรเสียแบบแบ่งเขตจำนวน 8,525 ใบคิดเป็นร้อยละ 9
นายอนิรุทธ เปิดเผยต่อไปว่า ลักษณะของบัตรเสียส่วนใหญ่ คือ กากบาทในช่องที่ไม่มีผู้สมัคร นอกจานั้นผู้ใช้สิทธิไม่ได้ทำเครื่องหมายใดๆไว้ในบัตร ทำเครื่องหมายมากกว่าหนึ่งเครื่องหมาย และกากบาททับหมายเลข
นายธีรวัฒน์ ละเอียด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า จากการสำรวจของอาสาพลเมืองประชาธิปไตยถึงจำนวนบัตรเสียในวันเลือกตั้งพบว่า เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อน เมื่อปี 2550
นายธีรวัฒน์ เปิดเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้บัตรเสีย น่าจะมาจากความสับสนเกี่ยวกับการกาบัตรทั้งสองใบ คือ บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยเฉพาะบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตที่มีช่องและแถวเยอะ ทำให้เข้าใจยากและเกิดความสับสน จนอาจทำให้ลงคะแนนผิดช่องได้
“บัตรเสียในกรณีนี้ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากผู้สูงอายุ ผู้ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือผู้ที่ไม่ได้สังเกตหมายเลขอย่างตั้งใจ บางกรณีอาสาสมัครพบด้วยตนเอง เมื่อเข้าไปสอนวิธีการกากบาทให้ผู้สูงอายุรายหนึ่ง ยิ่งสอนมาก ก็ยิ่งเพิ่มความสับสนให้แก่ผู้สูงอายุ” นายธีรวัฒน์ กล่าว