ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)
เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2554 ที่วนอุทยานเขาพาง (วัดภูพางพัฒนาราม) ตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เครือข่ายประชาชนจาก 14 จังหวัดภาคใต้ จาก 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรีประมาณ 1 พันคน ที่เข้าร่วมแผนปฏิบัติการเพชรเกษม 41 คนใต้กำหนดอนาคตตัวเองมาตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2554 ได้รวมตัวกันสวมหน้ากากปูสีเขียว
จากนั้น เคลื่อนขบวนถือธงสีเขียว ป้ายผ้าคัดค้านเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ในภาคใต้ นำหน้าด้วยมาสคอตปูทหารยักษ์ปากบารา เคลื่อนขบวนออกปิดถนนเพชรเกษม 4 ทั้ง 2 ช่องทางจราจรประมาณ 15 นาที เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมแพลงกิ้ง และโปรยป้ายผ้าที่มีข้อความว่า เพชรเกษม 41 คนท้องถิ่นกำหนดอนาคตตนเอง ไม่เอานโยบายทำลายชีวิต และธรรมชาติภาคใต้
เวลา 09.27 น. ขยับขบวนออกจากถนน เหลือปิดถนนแค่ 1 ช่องทางจราจร มีนายทรงวุฒิ พัฒน์แก้ว คณะทำงานเครือข่ายท่าศาลารักษ์บ้านเกิด จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี ขึ้นเวทีประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีประชาชนภาคใต้ และแถลงนโยบายต่อสภาเพชรเกษม 41 ท่ามกลางตำรวจนับร้อยนาย ที่ถูกระดมมารักษาความสงบเรียบร้อย
นายสุพนัด ดวงกมล คณะทำงานเครือข่ายรักษ์ปะทิว จังหวัดชุมพร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเงา แถลงว่า ภาคใต้ต้องการนโยบายด้านพลังงานที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรม ประเพณีของคนใต้ ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม น้ำ ก๊าซชีวภาพ พลังงานชีวมวล เป็นต้น ไม่เอานโยบายแลนด์บริดจ์ ถ่านหิน นิวเคลียร์ ฯลฯ
นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคใต้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเงา แถลงว่า คนใต้ต้องการการกระจายอำนาจจากส่วนกลาง เพราะต้องการจัดการตัวเอง พร้อมกับเสนอให้ยกเลิกการปกครองส่วนภูมิภาค ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีจากประชาชนโดยตรง
นายบุญ แซ่จุ่ง ผู้ประสานงานเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงว่า ต้องการให้มีการกระจายการถือครองที่ดิน ออกกฎหมายจำกัดการถือครองที่ดิน จัดตั้งธนาคารที่ดิน เน้นสิทธิชุมชนด้วยการจัดทำโฉนดที่ดินให้กับชุมชนที่ถูกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรืออุทยานประกาศทับซ้อน อีกทั้งจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า
ระหว่างนั้นนายกำพล จิตตะนัง ผู้ประสานงานเครือข่ายท่าศาลารักษ์บ้านเกิด จังหวัดนครศรีธรรมราช ถามผู้ร่วมชุมนุมว่า หากรัฐบาลผลักดันโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา คนใต้จะร่วมปกป้องและต่อสู้กับพี่น้องจังหวัดสตูลหรือไม่ คนใต้จะร่วมต่อสู้ปกป้องกับคนใต้ทุกจังหวัดที่ประสบชะตากรรมจากแผนพัฒนาภาคใต้หรือไม่ ซึ่งได้รับการขานรับจากผู้ชุมนุมว่า จะร่วมต่อสู้ด้วยกัน
เวลา 10.10 น. นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี คณะทำงานประชาชนติดตามแผนพัฒนาภาคใต้ ประกาศปฏิญญาเพชรเกษม 41 ในนามเครือข่ายประชาชนภาคใต้ ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องภาคใต้ร่วมกัน และจะเข้าร่วมปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ในโอกาสต่อไป
เวลา 10.30–12.00 น. มีการบันทึกรายการเวทีสาธารณะ “คนภาคใต้กำหนดอนาคตตนเอง” ของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ โดยมีนายกาจ ดิษฐาอภิชัย คณะกรรมการส่งเสริมการเมืองภาคพลเมืองประจำภาคใต้ สภาพัฒนาการเมือง จากจังหวัดพัทลุง นายสุนทร รักรงค์ นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายสมบูรณ์ คำแหง นายบุญ แซ่จุ่ง นายกิตติภพ สุทธิสว่าง ฯลฯ โดยมีนางสาวนาตยา แวววีรคุปต์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายกาจ กล่าวในการบันทึกเทปรายการว่า ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของเครือข่ายประชาชนภาคใต้ เพื่อให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทบทวนนโยบายเมกะโปรเจ็กต์ในภาคใต้ ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ที่พรรคเพื่อไทยประกาศป็นนโยบายระหว่างการหาเสียง และการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ซึ่งปรากฏอยู่ในร่างคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2554
“การเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง ร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่การเข้าร่วมปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เพื่อคัดค้านแผนพัฒนาภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาของคนใต้โดยตรง เป็นการต่อสู้ที่ข้ามพ้นความเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง ข้ามพ้นความเป็นพรรคการเมือง” นายกาจ กล่าว
นายสุนทร กล่าวว่า ปัญหาของภาคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ดินทำกิน ผลกระทบที่จะเกิดจากแผนพัฒนาภาคใต้ เป็นปัญหาก้าวข้ามสีเสื้อ ประชาชนทุกฝ่าย ต้องช่วยกันปลดแอกให้ชาวบ้านพ้นจากความทุกข์เข็ญ เพื่อออกจากภาวะวิกฤติให้ได้
นายกิตติภพ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย–มาเลเซีย ตนและชาวจะนะ จังหวัดสงขลา ผ่านมาหมดแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายชวน หลีกภัย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ต่างก็ผลักดันโครงการนี้ทุกรัฐบาล
“ชาวบ้านไม่ได้มองถึงเรื่องการเมืองภายใต้การนำของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องของทุนข้ามชาติ แต่เมื่อมีการผลักดันโครงการโดยรัฐบาลไหนๆ ก็ตาม ชาวบ้านย่อมต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องต่อสู้ ซึ่งเป็นความเจ็บปวดของชาวบ้าน” นายกิตติภพ กล่าว
ต่อมาเวลา 12.30 น.ชาวบ้านจากจังหวัดต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน เหลือเพียงตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคใต้บางส่วน เนื่องจากวันที่ 23 สิงหาคม 2554 จะมีการจัดเวทีแถลงนโยบายเครือข่ายประชาชนภาคใต้ คู่ขนานกับการแถลงนโยบายนางสาวยิ่งลักษณ์ ต่อรัฐสภา ออกอากาศสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สลับกับบรรยากาศการแถลงนโยบายที่รัฐสภา และรายงานสดจากพื้นที่ และความเห็นของเครือข่ายประชาชนภาคใต้ต่อนโยบายของรัฐบาล
ต่อมา เวลา 13.30–14.30 น. มีการบันทึกเทปรายการเปลี่ยนประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และเวลา 14.00 – 15.00 น. มีการประชุมคณะทำงานเครือข่ายประชาชนภาคใต้ ประเมินสถานการณ์ และกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวในระยะต่อไป
.....................................................................................
ปฏิญญาเพชรเกษม 41
“คนภาคใต้กำหนดอนาคตตนเอง ไม่ยอมรับแผนพัฒนาที่ทำลายชุมชนท้องถิ่น”
ความทุกข์ของคนไทยในท้องถิ่น เกิดจากการพัฒนาที่ละเมิดสิทธิ ประชาชนถูกข่มเหงรังแก จากการจัดสรรทรัพยากรอย่างไม่เป็นธรรม โดยการใช้อำนาจรัฐ อำนาจทุน กลุ่มอิทธิพลผลประโยชน์ ฉกฉวยทรัพยากรจากประชาชน เป็นปรากฏการณ์รุนแรงที่เกิดจากน้ำมือของรัฐและทุนในแทบทุกพื้นที่
มีการปกปิดให้คนในสังคมไม่ได้รับข้อมูลความจริงที่ครบด้าน ปล่อยให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ถูกเข่นฆ่า คุกคาม ให้ร้าย ป้ายสี ครั้งแล้วครั้งเล่า จนสังคมชาชิน เพิกเฉย ละเลยต่อความเป็นธรรมในการอยู่ร่วมกัน เหล่านี้เป็นความจริงที่เราเห็นเป็นประจักษ์ร่วมกันตลอดมา
เราทราบดีว่าประเทศนี้ มีระเบียบกฎหมายต่างๆที่ให้การยอมรับหลักการมีส่วนร่วม หลักการกระจายอำนาจ หลักความเป็นธรรม หลักการเคารพสิทธิชุมชน สิทธิพลเมือง และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กล่าวอ้างอย่างชัดเจนว่าประเทศเรามีกลไกที่สามารถให้อำนาจ ให้ความช่วยเหลือ คุ้มครอง เยียวยาได้อย่างเด็ดขาด แต่ในความเป็นจริงได้ปรากฏแล้วว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่อย่างใด
ความจริงที่ชาวบ้านจะนะ ถูกทุบตีอย่างโหดร้ายทารุณ เพื่อคัดค้านการสร้างโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซียที่สงขลา, การสังหารผู้นำต่อต้านโรงงานเหล็กต้นน้ำที่ประจวบคีรีขันธ์, การฉวยโอกาสไล่รื้อแย่งชิงที่ดินของชาวบ้านหลังเหตุสึนามิ, การล้อมปราบชาวบ้านที่ต้องการทวงคืนที่ดินสวนปาล์มจากนายทุนต่างชาติที่กระบี่, เหตุการณ์สารพิษรั่วจากอุตสาหกรรมที่สุราษฎร์, การล่อลวงและไม่ยอมรับชาวไทยพลัดถิ่นและชนกลุ่มน้อยที่ระนองและในหลายจังหวัด , มีการปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าบุกทำลายต้นยาง ต้นปาล์ม ต้นผลไม้ อันเป็นอาสินของเกษตรกรโดยอ้างเป็นพื้นที่อนุรักษ์ในแทบทุกจังหวัดของภาคใต้
ตัวอย่างเหล่านี้ คือเหตุการณ์ที่ประชาชนคนเล็กคนน้อยผู้มีจำนวนมากถูกบังคับให้เสียสละเพื่อการพัฒนาที่มอบความร่ำรวยแก่นายทุนจำนวนน้อย ประชาชนผู้เสียสละต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากสารพิษ โรคร้ายอันเกิดจากอุตสาหกรรม หลายชีวิตต้องดับชีพลงอย่างอเนจอนาถเพราะเพ้อฝันคาดหวังความช่วยเหลือจากสิ่งที่คร่าชีวิตของเขาเอง,
วันนี้เราได้ประจักษ์แจ้วแล้วว่า หากเรายังพึ่งพากลไกทางสังคมในระบบการรวมศูนย์อำนาจของรัฐ หากเรายังรอพึ่งพาผู้อื่น และ หากเราทั้งหลายต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างสู้ ลูกหลานของเราจะต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านั้นอีกไม่รู้จักจบสิ้น
ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ของเครือข่ายประชาชนภาคใต้ เกิดจากมติเอกฉันท์ของคนภาคใต้ที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง เราจักร่วมกันดำเนินแผนปฏิบัติการเพชรเกษม 41 อย่างต่อเนื่อง อันเป็นปฏิบัติการที่มีความหมายว่า “นับแต่นี้ไป เส้นทางการพัฒนาในภาคใต้ ประชาชนคนท้องถิ่นต้องร่วมกำหนดขึ้นเอง”
เรียนพี่น้องประชาชนไทย และทั่วโลก ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งในและต่างประเทศ
ก่อนหน้า...การจัดตั้งรัฐบาลปัจจุบัน เครือข่ายชุมชนคนภาคใต้หลายจังหวัด ได้ลุกขึ้นปกป้องท้องถิ่นตนเองจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักในอนาคต การถมทะเล การตัดเส้นทางคมนาคม การสร้างท่าเรือ การก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรม การสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ภายใต้การวางแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, บริษัทของนักลงทุนข้ามชาติ และพรรคการเมืองต่างๆ ทำให้แทบทุกจังหวัดในภาคใต้ประเทศไทย จะถูกเปลี่ยนโฉมหน้าเพื่อรองรับ “อุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ” หรือที่เราเรียกว่า “อุตสาหกรรมเลื่อนลอย” ที่คนกลุ่มน้อยที่ร่ำรวยอยู่แล้วเท่านั้นเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ทั้งยังเปลี่ยนพื้นที่เลื่อนลอยไปเรื่อยๆ อย่างไร้ความรับผิดชอบ ดังเช่นกรณีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต ในภาคตะวันออก ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต่างละเลยข้อเสนอของเรา ผู้มีอำนาจไม่แยแสต่อเสียงทักท้วง พยายามถ่วงเวลา ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
บัดนี้ รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่าจะเดินหน้าแผนพัฒนาภาคใต้ ผ่านนโยบายของพรรค, การปราศรัย, การให้สัมภาษณ์ในโอกาสต่างๆ ทั้งโดยตัวนายกรัฐมนตรีเองและรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล
ในฐานะพลเมืองดีเราขอบอกกล่าวด้วยความเป็นมิตรว่า ขอให้รัฐบาลทบทวนก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ เราจึงกำหนด “ปฏิบัติการเพชรเกษม41” ขึ้น เพื่อทักท้วงรัฐบาลใหม่ว่า “ไม่ควรดำเนินนโยบายแลนบริดจ์พลังงาน ไม่ควรพัฒนาอุตสาหกรรมหนักและพลังงาน หรือดำเนินการใดใดที่เป็นภัยต่อความผาสุขของประชาชนในภาคใต้” และเราจะเปิดโปงข้อมูลแผนพัฒนาทำลายภาคใต้ทั้งหมด เพื่อตอกย้ำว่า เราไม่นิยมยินดีและไม่ต้องการอุตสาหกรรมเลื่อนลอยเหล่านี้ ให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน
เราขอให้การพัฒนาใดใดตั้งอยู่บนพื้นฐานความต้องการตามศักยภาพของประชาชนในท้องถิ่นภาคใต้ การรักษาอาชีพประมงชายฝั่ง การสร้างพลังงานทดแทนจากวัสดุในท้องถิ่น การเกษตรที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ การท่องเที่ยวที่เคารพชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบเศรษฐกิจที่ไม่เอาเปรียบคนในชุมชน และการศึกษาที่ทำให้คนท้องถิ่นมีความภาคภูมิใจตนเอง
พี่น้องที่เคารพ เราจะทำเท่าที่สิทธิของประชาชนควรกระทำ เราไม่ต้องการก่อปัญหา ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เราต้องการเพียงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มีนโยบายสีเขียวที่ภาคใต้เท่านั้น
ด้วยความสมานฉันท์
เครือข่ายประชาชนภาคใต้ ปฏิบัติการเพชรเกษม 41
22 สิงหาคม 2554