ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ (DSJ)
“ปลัดวัฒนธรรม” ชงนายกฯ นั่งประธานแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวเลเสนออบจ. 5 จังหวัดอันดามันร่วมวงช่วย “NGOs มาเลย์” ลั่นหากรัฐไทยแก้ไม่ได้ ดันให้อาเซียนยื่นมือเข้าดูแล
ชาวเล – ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมตั้งวงถกหาทหนทางแก้ปัญหาชาวเล 5 จังหวัดฝั่งอันดามัน ถูกบุกรุกจนแทบจะไม่เหลือที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 25554 ที่หาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีการจัดงานวันรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ครั้งที่ 2 ประกอบด้วย กลุ่มชาวมอแกน มอแกลน และอุรักลาโว้ย จาก 5 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามันคือ จังหวัดสตูล จังหวัดพังงา จังหวัดระนอง จังหวัดกระบี่ และจังหวัดภูเก็ต โดยมีกลุ่มชาวไทยพลัดถิ่น เครือข่ายสิทธิชุมชนเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เครือข่ายชุมชนสวนยางด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นต้น เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน
นายสนิท แซ่ซิ่ว ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล รายงานต่อผู้ร่วมงานว่า ปัจจุบันชุมชนชาวเล 5 จังหวัด 41 ชุมชน 2,758 หลังคาเรือน 17,489 คน กำลังประสบปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน จากการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับที่ทำกิน และนักธุรกิจเอกชนบุกรุกเข้าไปสร้างรีสอร์ท บ้านพัก ในบริเวณที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เป็นเหตุให้ขณะนี้ชาวเลถูกดำเนินคดี 663 คน มีการออกเอกสารสิทธิ์ และสร้างอาคารสถานที่ทับสุสานชาวเลถึง 15 แห่ง
เวลาประมาณ 14.00 น. มีการเสวนาหัวข้อย้อนมอง 1 ปี มติครม. ชาวเล : ความจริงกับนโยบาย มีนางสาวณาตยา แวววีรคุปต์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในวงเสวนาว่า ในวันที่ 29 กันยายน 2554 นี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมกระทรวงต่างๆ ตนจะเสนอให้นายกรัฐมนตี ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 มิถุนายน 2553 ที่เห็นชอบหลักการแนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล โดยให้นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล แทรัฐมนนตรีกระทรวงวัฒนธรรม หรืออาจจะแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นประธานฯ เพื่อให้มีการแก้ปัญหาของชาวเลอย่างจริงจัง
“ นอกจากมีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเลในระดับประเทศแล้ว ควรมีคณะกรรมการในระดับจังหวัด และคณะกรรมการในระดับท้องถิ่น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของ 5 จังหวัดที่มีชาวเล ร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน” นายสมชาย กล่าว
นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เสนอในวงเสวนาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จะพร่วมกันลงขันงบประมาณซื้อที่ดินของเอกชน ให้ชาวเลเช่า ส่วนที่ดินที่เป็นของรัฐให้ออกเป็นโฉนดชุมชน
Ustaz Abdul Wahab B. Ahmad TH">จากองค์กร Muhammadiyah International ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชน ในมาเลเซียและอินโดเนเซีย กล่าวในวงเสวนาว่า ถ้าหากรัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับชาวเลไม่ได้ ตนจะผลักดันให้มีการแก้ไขในระดับอาเซียน กลับไปตนจะนำปัญหาเกี่ยวกับชาวเลในประเทศไทยไปปรึกษากับทางรัฐบาลมาเลเซีย ให้เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาของพี่น้องชาวเลด้วย