Skip to main content

โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)

 

นบพิตำโดนน้ำถล่มหนัก ชาวบ้านถูกตัดขาด โรงพยาบาลหลังสวนสั่งย้ายคนป่วยขึ้นชั้น 2 ผู้ว่าฯชุมพรเต้น ออกประกาศเตือนภัยน้ำท่วม–คลื่นลมแรง “หาดใหญ่” โล่งน้ำไม่ท่วมเขตชั้นใน

 

      ้

           ท่วม-น้ำท่วมโรงพยาบาลหลังสวน จนต้องอพยพคนไข้หนีน้ำ

 

นบพิตำถูกตัดขาด

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าไปที่ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เพื่อให้ความช่วยเหลือและแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นพบว่า เป็นสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง ส่งผลให้สะพานชั่วคราวถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะนี้ได้สั่งการให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งจัดสร้างสะพานชั่วคราวขึ้นใหม่ เพื่อให้ประชาชนในอำเภอนบพิตำได้สัญจรออกสู่ภายนอกได้

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับอำเภอสิชลเกิดน้ำป่าไหลหลากรุนแรง น้ำล้นตลิ่งท่วมที่ราบลุ่ม 9 ตำบล 110 หมู่บ้าน ทางอำเภอได้อพยพประชาชนหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 10 ตำบลเปลี่ยน 130 ครัวเรือน หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 7 ตำบลเขาน้อย 27 ครัวเรือน และหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 ตำบลฉลอง 38 ครัวเรือน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้ได้เกิดเหตุวาตภัยที่หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และเสียหายบางส่วน 37 หลัง ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ

ล่าสุดที่อำเภอนบพิตำ ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง น้ำป่าได้กัดเซาะทำลายตลิ่งตลอดเส้นทางน้ำ คลองกลายบางจุดถูกกัดเซาะหายไปกับกระแสน้ำหลายไร่ นอกจากนี้บ้านของนายสุนทร อมรพันธ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ที่ 7 ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองกลาย ถูกน้ำกัดเซาะพื้นดินหายไปกับกระแสน้ำจนบ้านพังทั้งหลัง

ส่วนหมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 5 ตำบลกรุงชิง สะพานข้ามคลองกลายตอนบนขาด ประชาชนกว่า 400 ครัวเรือนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่สะพานข้ามคลองกลายไปยังหมู่ที่ 3 ตำบลกรุงชิง ก็ขาดเสียหายไม่สามารถใช้การได้เช่นกัน

ส่วนอำเภอลานสกา ฝนตกหนักลมกระโชกแรง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย ที่หมู่ที่ 9 บ้านท่าหา ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา มีนักท่องเที่ยว 75 คน ติดอยู่ที่ท่าหารีสอร์ต ไม่สามารถออกมาได้ ทางอำเภอลานสกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลำเลียงอาหารกล่องเข้าไปให้ หลังจากน้ำป่าลดระดับความรุนแรงลง นักท่องเที่ยวขออยู่ต่อในที่พัก แต่ยังคงขอให้เจ้าหน้าที่ส่งเสบียงไปให้

 

 

น้ำทะลักเข้าหลังสวนต้องสั่งย้ายคนป่วย

ทางด้านจังหวัดชุมพร ล่าสุดมีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมผิวการจราจรบริเวณถนนสายเอเชีย  หรือเพชรเกษม 41 บริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร น้ำป่าทะลักเข้าท่วมลานชั้นล่าง และชั้นหนึ่งของโรงพยาบาลหลังสวนสูงประมาณ 30–50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยต้องอพยพผู้ป่วยกว่า 50 คนขึ้นไปชั้น 2 ขณะที่น้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ

นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผู้กำกับการแสดงสถานีตำรวจภูธรหลังสวนประสานไปยังพ.อ.ศรีศักดิ์ เลิศล้ำ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร ขอสนับสนุนกำลังทหารเคลื่อนย้ายเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ และยารักษาโรค ขึ้นไปไว้บนที่สูง

ขณะที่น้ำป่ายังไหลทะลักเข้ากัดเซาะคอสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวน ช่องทางขาขึ้นกรุงเทพมหานคร มีน้ำป่าไหลทะลักจากภูเขาม่วงเข้าท่วมถนนเอเชีย หรือเพชรเกษม 41 ที่ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ พ.ต.อ.ภคพลสั่งการให้ปิดการจราจรบนสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวนช่องขาขึ้นกรุงเทพมหานคร ให้รถทุกชนิดใช้ช่องทางขาล่องใต้สวนกันไปมาเพียงช่องทางเดียว ส่งผลให้รถที่เดินทางจากภาคใต้ไปกรุงเทพมหานครติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

ขณะเดียวกัน น้ำป่าไหลบ่าท่วมถนนสายเอเชียหรือเพชรเกษม 41 บริเวณเยื้องที่ว่าการอำเภอทุ่งตะโก จนต้องปิดกั้นการจราจรให้รถทุกชนิดไปใช้ทางเลี่ยงถนนเลียบชายทะเลแทน ปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่จังหวัดชุมพร ตั้งแต่อำเภอทุ่งตะโก อำเภอละแม อำเภอหลังสวน และอำเภอพะโต๊ะ ทำให้พื้นที่ลุ่มมีน้ำฝนไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลละแม หมู่ที่ 8 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอละแม หมู่ที่ 13 ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร

 

ชุมพรเตือนภัยน้ำท่วม–คลื่นลมแรง

นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินและหินถล่มจังหวัดชุมพร ได้มีหนังสือด่วน ที่ ชพ 0034/ว เรื่องประกาศเตือนฉบับที่ 1 ถึงนายอำเภอทุกอำเภอ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ องค์กรเอกชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง

เนื้อหาในหนังสือฉบับนี้ระบุว่า ช่วง 1–2 วันนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศมาเลเซียตอนบน เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนจังหวัดชุมพรตอนล่าง ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2–3 เมตร โดยเฉพาะอำเภอละแม อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมมีกำลังค่อนข้างแรง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ฉะนั้นเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบ เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และให้ติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งแจ้งเตือนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือด้วย

นอกจากนั้น ยังให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่เกิดภัย ทั้งจัดเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากสถานการณ์มีความรุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะยุติ ผ่านทางโทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 0–7750–1207, 0–7750–2257 และสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะนี้น้ำฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวันในจังหวัดชุมพรตอนล่าง ตั้งแต่อำเภอทุ่งตะโก อำเภอละแม อำเภอหลังสวน และอำเภอพะโต๊ะ ได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มแล้ว

 

หาดใหญ่เอาอยู่น้ำไม่เข้าชั้นใน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาส จนถึงขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว ชุมชนวัดหาดใหญ่ใน ชุมชนตลาดพ่อพรหม ชุมชนซอย 41 เพชรเกษม และชุมชนริมคลอง ร.1 ยังถูกน้ำท่วมระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 30–50 เซนติเมตร เทศบาลนครหาดใหญ่ต้องนำเรือท้องแบนแจกจ่ายประชาชนใช้สัญจรเข้าออกชุมชน ขณะที่พื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เจ็ตสกีลำเลียงสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนถนนเพชรเกษมเข้าออกตัวเมืองหาดใหญ่ รถเล็กยังวิ่งผ่านไม่ได้

นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จากออกสำรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณหาดใหญ่ใน และสภาพน้ำในคลองอู่ตะเภากับคลองระบายน้ำ ร.1 พบว่า คลองระบายน้ำ ร.1 อยู่ในภาวะทรงตัว หลังจากนี้ระดับน้ำทั้งสองคลองจะสูงขึ้นอีกสองครั้งช่วงเวลา 19.00 น. และ 21.00 น. จากนั้นจะลดระดับลงเรื่อยๆ ระดับน้ำบริเวณหาดใหญ่ใน จึงจะไม่สูงกว่านี้

นายไพร เปิดเผยอีกว่า ภาวะน้ำท่วมหาดใหญ่ในมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 7,000 คน บางชุมชนถูกน้ำท่วมร้อยเปอร์เซ็นต์ เทศบาลจะให้การช่วยเหลือเต็มที่ โดยเฉพาะเครื่องยังชีพและเรือท้องแบน หลังจากนี้จะวางแผนฟื้นฟูพื้นที่ทน้ำท่วม โดยเฉพาะการจัดเก็บขยะ ทันทีที่น้ำลดจะนำเครื่องจักรพร้อมกำลังพลของมณฑลทหารบกที่ 42 ทำความสะอาดเก็บกวาดขยะ เพื่อคืนสภาพเมืองหาดใหญ่ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว