ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 บริษัท หลีเป๊ะเฟอรี่แอนด์สปีดโบ้ท จำกัด ออกแถลงการณ์กรณีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาสตูล เลือกปฏิบัติจับเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวของบริษัทหลีเป๊ะเฟอรี่ฯ ลงลายมือชื่อโดยนายไกรวุฒิ ชูสกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาดของบริษัทหลีเป๊ะเฟอรี่แอนด์สปีดโบ้ท จำกัด โดยมีหัวข้อว่า เจ้าท่าฯ จับเรือขนส่งนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่ต้องสร้างบรรทัดฐานอย่างเท่าเทียมกัน และต้องไม่ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล
แถลงการณ์มีเนื้อหาว่า วันที่ 2 มกราคม 2555 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาสตูล จับเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวของบริษัทหลีเป๊ะเฟอรี่ฯ ที่บริเวณเกาะไข่ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา หลังออกจากท่าเรือเกาะหลีเป๊ะ เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งโดยอ้างว่าบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินจากที่ขออนุญาติ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวน 75 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางกลับตามกำหนดการได้ ก่อความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดสตูล
จากนั้นในวันที่ 3 มีนาคม 2555 ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งได้มีคำชี้แจงของกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ว่า
1.ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวจังหวัดสตูลจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีแป๊ะ เพราะเป็นจุดขายสำคัญของจังหวัด ทำให้เรือที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่พอสำหรับการบริการ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่เรือขนส่งทุกลำ ทุกบริษัทจำเป็นต้องบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนบ้าง ตามสมควร หากแต่อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย
2.ทางบริษัท หลีเป๊ะเฟอรี่ฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินจำนวนนั้น ยอมรับว่าเกินจำนวนจริงเพราะเป็นเรือเที่ยวสุดท้ายและเกิดเหตุอุทกภัย แต่ไม่ถึง 10 คน (จากอนุญาติบรรทุก 65 + 3 ที่นั่ง) ด้วยเงื่อนไขที่ได้กล่าวแล้วเบื้องต้น ทั้งนี้ทางบริษัทยินดีรับความผิด และยอบเสียค่าปรับ ตามระเบียบของกรมเจ้าท่าฯ หากแต่ยอมรับไม่ได้ที่ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าฯที่เข้าจับกุม ได้พยายามหน่วงเหนี่ยว กักกันไม่ให้นักท่องเที่ยวที่ถูกจับ และลอยเรือรออยู่กลางทะเลได้เดินทางกลับเข้าฝั่งถึง 4 ชั่วโมง ด้วยสภาพอากาศร้อนและไม่มีอาหาร ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด ไม่สามารถเดินทางได้ตามแผนกำหนดการที่วางไว้ ต้องตกเครื่องบิน รถทัวร์ จำนวนมาก
จึงเรียกร้องให้กรมเจ้าเท่าแสดงความรับผิดชอบ โดยกรมเจ้าท่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไป ตรงมา และต้องมีบรรทัดฐานเดียวกันกับทุกบริษัท กรมเจ้าท่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานทำให้ผู้ประกอบการจะต้องชดใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ให้กับนักท่องเที่ยว และค่าเสียหายอันเกิดจากเหตุดังกล่าว กว่า 90,000 บาท
กรมเจ้าท่า จะต้องย้ายนายพงษ์พันธ์ ประยงกุล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุม ให้ออกจากพื้นที่ ด้วยสร้างความเสียหายจากการปฏิบัติงาน และที่ผ่านมายังมีพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งหลังจากการเจรจากับ ผู้อำนวยการสำงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 โดยมีนายอำเภอละงู กำนันตำบลปากน้ำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล เข้าร่วมเป็นพยาน ทำให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
1. กรมเจ้าท่ายอมรับว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นความผิดพลาดเรื่องดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจริง จนยังความเสียหายอื่นๆตามมา
2. กรมเจ้าท่าจะตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการอื่นๆต่อไปหลังจากนี้
3. กรมเจ้าท่าจะตระหนักต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความเที่ยงตรง บนบรรทัดฐานเดียวกัน และจะไม่เลือกปฏิบัติ
4. กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ทางกรมเจ้าท่าจะรับเรื่องดังกล่าวเสนอเบื้องบน เพื่อให้มีการชดใช้ต่อไป หรือไม่เช่นนั้นก็ให้เป็นการร้องเรียนไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป และในที่ประชุมตกลงประชุมอีกครั้งเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาต่อไปในวันที่ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555
ซึ่งข้อตกลงเหล่านี้ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และผู้เข้าร่วมประชุมลงลายมือชื่อเป็นพยานร่วมกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแน่นอน แต่เป็นเรื่องของการเรียกร้องความเป็นธรรม และต้องการสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ จนก่อความเสียหายกับผู้ประกอบการรายอื่นๆด้วยต่อไป และเพื่อรักษาไว้ซึ่งบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล ที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน
mso-fareast-font-family:"Times New Roman""> เจ้าท่าฯ จับเรือขนส่งนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว...แต่ต้องสร้างบรรทัดฐานอย่างเท่าเทียมกัน และต้องไม่ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล วันที่ 2 มกราคม 2555 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาสตูล จับเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวของบริษัท หลีเป๊ะเฟอรี่ฯ ที่บริเวณเกาะไข่ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา หลังออกจากท่าเรือเกาะหลีเป๊ะ เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งโดยอ้างว่าบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินจากที่ขออนุญาติ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวน 75 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางกลับตามกำหนดการได้ ก่อความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดสตูล จากนั้นในวันที่ 3 ม.ค. 55 ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งได้มีคำชี้แจงของกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ว่า 1 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวจังหวัดสตูลจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีแป๊ะ เพราะเป็นจุดขายสำคัญของจังหวัด ทำให้เรือที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่พอสำหรับการบริการ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่เรือขนส่งทุกลำ ทุกบริษัทจำเป็นต้องบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนบ้าง ตามสมควร หากแต่อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย 2 ทางบริษัท หลีเป๊ะเฟอรี่ฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินจำนวนนั้น ยอมรับว่าเกินจำนวนจริงเพราะเป็นเรือเที่ยวสุดท้ายและเกิดเหตุอุทกภัย แต่ไม่ถึง 10 คน (จากอนุญาติบรรทุก 65 + 3 ที่นั่ง) ด้วยเงื่อนไขที่ได้กล่าวแล้วเบื้องต้น ทั้งนี้ทางบริษัทยินดีรับความผิด และยอบเสียค่าปรับ ตามระเบียบของกรมเจ้าท่าฯ หากแต่ยอมรับไม่ได้ที่ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าฯที่เข้าจับกุม ได้พยายามหน่วงเหนี่ยว กักกันไม่ให้นักท่องเที่ยวที่ถูกจับ และลอยเรือรออยู่กลางทะเลได้เดินทางกลับเข้าฝั่งถึง 4 ชั่วโมง ด้วยสภาพอากาศร้อนและไม่มีอาหาร ส่งผมให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด ไม่สามารถเดินทางได้ตามแผนกำหนดการที่วางไว้ ต้องตกเครื่องบิน รถทัวร์ จำนวนมาก 3 จึงเรียกร้องให้กรมเจ้าเท่าแสดงความรับผิดชอบ ดังนี้ - กรมเจ้าท่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไป ตรงมา และต้องมีบรรทัดฐานเดียวกันกับทุกบริษัท - กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานดังกล่าว ซึ่งทางผู้ประกอบการจะต้องชดใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ให้กับนักท่องเที่ยว และค่าเสียหายอันเกิดจากเหตุดังกล่าว กว่า 90,000 บาท กรมเจ้าท่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบ - กรมเจ้าท่า จะต้องย้าย นาย พงษ์พันธ์ ประยงกุล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุม ให้ออกจากพื้นที่ ด้วยสร้างความเสียหายจากการปฏิบัติงาน และที่ผ่านมายังมีพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหลังจากการเจรจากับ ผู้อำนวยการฯภาค 5 โดยมีนายอำเภอละงู กำนันตำบลปากน้ำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 สมาคมการท่องเที่ยว สตูล เข้าร่วมเป็นพยาน ทำให้ได้ข้อสรุปร่วมกันวา 5. กรมเจ้าท่ายอมรับว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นความผิดพลาดเรื่องดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจริง จนยังความเสียหายอื่นๆตามมา 6. กรมเจ้าท่าจะตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการอื่นๆต่อไปหลังจากนี้ 7. กรมเจ้าท่าจะตระหนักต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความเที่ยงตรง บนบรรทัดฐานเดียวกัน และจะไม่เลือกปฏิบัติ 8. กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ทางกรมเจ้าท่าจะรับเรื่องดังกล่าวเสนอเบื้องบน เพื่อให้มีการชดใช้ต่อไป หรือไม่เช่นนั้นก็ให้เป็นการร้องเรียนไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป และในที่ประชุมตกลงประชุมอีกครั้งเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาต่อไปในวันที่ศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งข้อตกลงเหล่านี้ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และผู้เข้าร่วมประชุมลงลายมือชื่อเป็นพยานร่วมกันจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแน่นอน แต่เป็นเรื่องของการเรียกร้องความเป็นธรรม และต้องการสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ จนก่อความเสียหายกับผู้ประกอบการรายอื่นๆด้วยต่อไป และเพื่อรักษาไว้ซึ่งบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล ที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ด้วยความนับถือ นาย ไกรวุฒิ ชูสกุล ผู้จัดการ หสม.หลีแป๊ะเฟอร์รี่ แอนสปีดโบ๊ท "Times New Roman"">
|