เคลียร์ลานจอดรถ “ลี การ์เดนส์” พบทะเบียนรถไม่ตรง 40 คัน ย้ายเอาไปเก็บที่ค่ายเสนาณรงค์ รอเจ้าของนำหลักฐานไปยืนยัน จังหวัดสงขลาเร็วทันใจ จ่ายเงินเยียยวยามาเลย์เสียชีวิตแล้ว เลขานายกฯ มาเลย์ยัน ไม่ได้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวมาเลย์มาหาดใหญ่
เคลียร์ลานจอดรถ“ลี การ์เดนส์”พบทะเบียนไม่ตรงอื้อ
เคลียร์ – เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ร่วมกันเคลียร์รถออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินโรงแรมลี การ์เด้นส์ พลาซ่า โดยทยอยนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาก่อน พบรถใช้ทะเบียนไม่ตรงกับตัวรถมากถึง 40 คัน
รายงานข่าวจากโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาแจ้งว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 3 เมษายน 2555 เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และลงไปเคลื่อนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกจากชั้นใต้ดินของโรงแรม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 โดยทยอยนำรถจักรยานยนต์ออกมาก่อน
ทั้งนี้ รถที่ติดอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงแรมเกือบ 40 คัน มีปัญหาการครอบครองรถและป้ายทะเบียนไม่ตรงกับที่จดทะเบียนรถไว้ ในส่วนนี้ได้นำไปเก็บไว้ที่ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ เพื่อให้เจ้าของนำหลักฐานของรถมายืนยัน จากนั้นได้ทยอยเคลียร์รถยนต์ที่ถูกไฟไหม้อีกเกือบ 50 คัน ส่วนใหญ่เหลือแต่ซากออกมาจากที่จอดรถชั้นใต้ดิน เพื่อเปิดพื้นที่ให้โรงแรมซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
นายสุกิจ วัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินจุดเกิดเหตุระเบิดว่า ยังใช้งานได้หรือไม่ หรือต้องปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้าง
รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่า จากการสืบสวนพบคนร้ายฉวยโอกาสขับรถเข้าไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า ในช่วงสับเปลี่ยนเวรยาม เวลาประมาณ 10.00 น. เป็นผลให้รถคันก่อเหตุไม่มีบัตรอนุญาตให้เข้าไปจอดรถ และไม่มีการตรวจค้นรถก่อนเข้าจอด จากการสืบสวนยังพบด้วยว่า รถที่ใช้ก่อเหตุได้เข้าไปพักในอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา 1 วัน ก่อนคนร้ายจะนำมาใช้วางระเบิดคาร์บอมบ์
ขณะเดียวกันพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงตรวจสอบสถานเกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าคดี จากเบาะแส 2 ผู้ต้องสงสัยที่ได้มาจากภาพวงจรปิด เชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมขบวนการก่อความไม่สงบที่มีประวัติอยู่แล้ว
เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตชาวมาเลย์แล้ว
เมื่อเย็นวันที่ 2 เมษายน 2555 ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบเงินเยียวยาให้กับญาติของ MR. LOW TSIAN HOCK ชาวมาเลเซีย ซึ่งเสียชีวิตจากจากเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่าแล้ว จำนวน 459,000 บาท แยกเป็นเงินจากจังหวัดสงขลา 150,000 บาท จากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 309,000 บาท มีดาโต๊ะ ลัตชารีมัน อับดุลเลาะห์ เลขานุการนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย เป็นพยาน โดยศพของนักท่องเที่ยวรายนี้ ญาติจะบำเพ็ญกุศลในจังหวัดสงขลา หลังจากฌาปนกิจแล้วเสร็จจะนำเถ้ากระดูกกลับประเทศมาเลเซียต่อไป ในการนี้ ดาโต๊ะ ลัตชารีมัน อับดุลเลาะห์ ได้เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บชาวมาเลเซีย ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ 4 คน ซึ่งทั้งหมดพ้นขีดอันตราย
ดาโต๊ะ ลัต ชารีมัน อับดุลเลาะ กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจมายังผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ขอบคุณรัฐบาลไทย จังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บชาวมาเลเซียอย่างเต็มที่และดีที่สุด
“ผมขอยืนยันว่าประเทศมาเลเซียไม่ได้ประกาศห้ามชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวอำเภอหาดใหญ่ เพราะคนมาเลเซียผูกพันกับเมืองหาดใหญ่ เราเป็นพี่เป็นน้องกัน รู้ดีว่าการเข้ามาเที่ยวอำเภอหาดใหญ่ปลอดภัยแค่ไหน ที่ผ่านมาการรักษาความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่อยู่ในระดับดี ดังนั้นการมาเที่ยวเมืองหาดใหญ่ เป็นเรื่องที่ชาวมาเลเซียแต่ละคนพิจารณาได้เอง” ดาโต๊ะ ลัต ชารีมัน อับดุลเลาะ กล่าว
นายสุรพล เปิดเผยว่า สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เบื้องต้นจังหวัดสงขลา ได้จ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในกรณีที่เสียชีวิตจ่ายค่าจัดการศพ 25,000 บาท ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัวจ่ายเพิ่มอีก 25,000 บาท กรณีได้รับบาดเจ็บรักษาตัวเกิน 3 วัน จ่าย 3,000 บาท บาดเจ็บเล็กน้อยจ่าย 2,000 บาท พร้อมกับจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายละ 2,000 บาท หากเป็นนักท่องเที่ยวเสียชีวิตกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะจ่ายเงินผ่านสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลาอีก 309,000 บาท
สำหรับเหตุระเบิดกลางเมืองยะลา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 106 ราย ขณะนี้ยังมีผู้นอนพักรักษาอยู่ตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 25 ราย จากการสำรวจพบอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 35 หลัง รถยนต์ได้รับความเสียหาย 11 คัน รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 18 คัน