ว่าด้วยวาทกรรม "คนนอกอย่ามาเกือกที่เทพา"
ความจริงผมชอบมากนะครับป้ายนี้ ในทางยุทธศาสตร์การต่อสู้ ป้ายเช่นนี้เป็นประโยชน์ยิ่งกับคนค้านถ่านหิน เพราะแสดงถึงความอับเฉาทางปัญญาของฝ่ายหนุนถ่านหินที่ไม่รู้จะโต้ในประเด็นอย่างไรแล้ว เลยเอาวาทกรรมคนนอกหรือ NGO ห้ามเข้ามาใช้แทน และเชื่อแน่ว่าคนไทยทั้งประเทศย่อมรู้สึกได้ถึงความไม่รู้หวัน(ไม่รู้กาละเทศะ)เลยของทีมงานที่ กฟผ.หนุนหลัง
ผมรัก กฟผ.นะครับ ผมเคยแสดงออกปกป้อง กฟผ.อย่างจริงจังไม่ให้นักการเมืองรุมทึ้งเอา กฟผ.เข้าตลาดหุ้น ผมร่วมงานช่วยเหลือกันดีกับทีม กฟผ.โรงไฟฟ้าจะนะ ผมรับรู้ถึงความรู้สึกของพี่น้อง กฟผ.ที่มีภารกิจที่ต้องดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน ผมอยากเห็น กฟผ.เป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย ผมไม่ได้อคติกับ กฟผ. แต่ผมมีปัญหากับถ่านหิน
ผมยอมรับว่าเทคโนโลยีปัจจุบันนั้นกำจัดมลพิษได้ดีกว่าอดีต แต่ผมเองคิดว่า หากเรากล้าๆก้าวข้ามถ่านหินได้ เราจะสามารถเดินบนเส้นทางของการกู้โลกจากภัยโลกร้อนได้เร็วขึ้นอีก แน่นอนว่าประเทศต้องปรับตัวมาก เราต้องติดแผงโซลาร์ทุกหลังคา พีคไฟกลางวันจะหายไป ส่วนหัวค่ำต้องมีมาตรการร่วมกันที่ทั้งบวกและลบให้ทุกส่วนประหยัดไฟเพิ่ม บางส่วนอาจติดตั้งกังหันลมหรือโรงไฟฟ้าชีวมวลเข้าช่วย ซึ่งอยู่ในวิสัยที่คนไทยจัดการได้แน่นอนถ้าจะทำ
แต่ที่แย่คือกระบวนการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้านี่สิยังไม่สะอาดเอาเสียเลย มีปรากฏการณ์นักเลงปากซอยเช่นคนนอกห้ามเข้านี่หลายครั้งแล้ว ซึ่งไม่ถูกต้อง มีการสร้างกระบวนมีส่วนร่วมเทียมที่ปิดกั้นคนค้านไม่ให้ร่วมถกร่วมแลกเปลี่ยน มีการใช้เงินหว่านในพื้นที่เทพาอย่างมโหฬารไม่เฉพาะงานอีเว้นท์แต่แม้แต่งานศพงานบวชงานแต่งก็ไม่เว้น มีการใช้มาตรการข่มขู่ด้วยอิทธิพล ทั้งหมดนี้สะท้อนความไม่สะอาดเอาเสียเลยในการผลักดันโครงการ
ผมหวังใจว่า ป้ายลักษณะนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะอายคนครับ อายแทน กฟผ.ที่ไม่ดูแลลิ่วล้อให้ดี มันรังแต่ทำลายความน่าเชื่อถือความเป็นองค์กรธรรมาภิบาลของ กฟผ.เองครับ หวงว่า กฟผ.จะทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากใจจริงนะครับ
#เทพาน่าอยู่
#ปกป้องเทพาจากถ่านหิน
#คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
