#สัมภาษณ์ครั้งแรกของอุสตาสสุกรีแกนนำบีอาร์เอ็นในมาราปาตานี
อุสตาสสุกรี ฮารี หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฝ่ายมาราปาตานี ซึ่งเป็นแกนนำ BRN ในมาราปาตานี ยืนยันว่าเป็นตัวจริงในโต๊ะพูดคุยกับรัฐไทย ซึ่งเห็นด้วยกับแนวทางการพูดคุยเพื่อสันติภาพ และเชื่อมั่นในพระบารมีของรัชกาลที่ 10 จะแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฝ่าย มาราปาตานี เรียกร้องรัฐไทยให้ความชัดเจนเรื่องการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย หรือ Safty Zone หลังเกิดความสับสนกรณีโครงการพาคนกลับบ้านและการกำหนด safety zone 14 เขตของแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยในโต๊ะเจรจา ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยของทีมเทคนิค ยังไม่มีข้อตกลงของคณะพูดคุยชุดใหญ่ จึงไม่สามารถเริ่มต้นได้ในเดือนเมษายนนี้ตามที่ฝ่ายไทยแถลงข่าวไว้
ดังนั้นหากฝ่ายไทยจะทำตามแนวทางของแม่ทัพภาคที่ 4 การพูดคุยเรื่องพื้นที่ปลอดภัยบนโต๊ะเจรจากับมาราปาตานีอก็ไม่จำเป็น
อุสตาสสุกรี ฮารี หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฝ่าย มาราปาตานี ยืนยันว่ายังเห็นด้วยกับการพูดคุยกับฝ่ายไทย ซึ่งแนวทางที่จะหาทางออกร่วมกันได้ แม้จะไม่มีขบวนการ บีอาร์เอ็น ฝ่ายกองกำลังมาร่วมด้วย ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกการต่อสู้ย่อมมีความเห็นที่แตกต่างกัน และตนเอง เป็นสมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น ตัวจริงอยู่แล้ว จึงเชื่อมั่นได้ว่า การพูดคุยในนามมาราปาตานี เป็นเอกภาพ
แต่ในส่วนของฝ่ายไทย ไม่ขอให้ความเห็นว่า ใครคือตัวจริงในการเจรจาสันติภาพของฝ่ายไทย แต่มาราปาตานี เชื่อมั่นในคำสั่ง 230 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการทำงานของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่มีพลเอกอักษรา เกิดผล เป็นหัวหน้าคณะ รัฐไทยจึงต้องสร้างความชัดเจนในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กับระดับนโยบายที่ยังสวนทางกัน
อุสตาสสุกรี ฮารี ยอมรับว่า ส่วนตัวก่อนหน้านี้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลทหารจะมีบทบาทนำในกระบวนการสันติภาพได้ดีกว่ารัฐบาลพลเรือน แต่หลังมีกรณีของแม่ทัพภาคที่ 4 ทำให้ขาดความเชื่อมั่น และคาดหวังว่าหากในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะหาทางออกได้ เพราะประชาชนเชื่อมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน
#ติดตามในข่าว3มิติคืนนี้