ฐปนีย์ เอียดศรีไชย
ความสดใสจากอาคารโรงพยาบาลเจาะไอร้องที่ถูกทาด้วยสีชมพู และรอยยิ้มของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องดูอบอุ่น แม้ทุกคนจะผ่านเหตุการณ์ร้ายเมื่อวันที่ 13 มีนาคมแต่ทุกคนมีหัวใจที่เข้ม
เริ่มจากผู้นำ แพทย์หญิง บุญรัตน์ ประพันธ์วงศ์ หรือ หมอปู อายุ 34 ปี เธอเป็นชาวอำเภอเมือง จ.นราธิวาส หลังจบการศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เธอเลือกมาประจำที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องตั้งแต่ปีแรกจนจะครบ 10 ปีในเดือนหน้า แม้จะรู้ดีว่าอำเภอเจาะไอร้องเป็นพื้นที่สีแดง และเธอเป็นแพทย์หญิงที่เป็นชาวไทยพุทธ แต่เธอตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความหวังที่จะเห็นดินแดนบ้านเกิดมีสันติสุข และเหตุที่ปรับปรุงอาคารเป็นสีชมพูเพื่อให้เป็นตัวแทนของความรัก
เช่นเดียวกับแพทย์หญิงกชกร จีระธัญญาสกุล หรือหมอเจินเจิน แม้จะอายุเพียง 27 ปีและเข้าประจำที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องเพียง 1 ปีครึ่ง และในวันที่กลุ่มคนร้ายบุกยึดโรงพยาบาลเธอเป็นแพทย์เวรที่อยู่ในเหตุการณ์และปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง แพทย์หญิงกชกร เป็นชาวอำเภอโกลก จบการศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาชราชนครินทร์ เป็นแพทย์ในโครงการแพทย์ชนบท เธอตั้งใจจะเรียนแพทย์และมาทำงานในพื้นที่นราธิวาสเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนโดยไม่เลือกว่าจะเป็นศาสนาใดและพื้นที่จะรุนแรง
ขณะที่แพทย์หญิงอาลีมะห์ จินาแว อายุ 26 ปี จบการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นแพทย์หญิงมุสลิมที่เธอก็ตั้งใจจะเป็นแพทย์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ยิ่งในภาวะที่เกิดปัญหาความรุนแรง การเป็นแพทย์มลายูมุสลิมสามารถช่วยสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ดีกับประชาชนได้
นอกจากนี้ยังมีแพทย์หญิงดวงกมล รัตตะพันธ์ เป็นแพทย์หญิงอีก 1 คน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั้งหมด 169 คน มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ผู้หญิง 125 คน ชาย 44 คน มีทั้งไทยพุทธและมุสลิม ทุกคนปฏิบัติงานร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคีและความเข้าใจมาด้วยดีตลอดมา พิสูจน์ได้จากความร่วมมือร่วมใจในการเร่งให้บริการแพทย์ทันทีหลังเกิดเหตุร้าย เพราะทุกคนยังมีผู้ป่วยต้องดูแลและเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ไม่สามารถทิ้งประชาชนได้
โรงพยาบาลเจาะไอร้อง จึงไม่ได้เป็นแค่เพียงโรงพยาบาลอาคารสีชมพู แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลหัวใจสีชมพู ที่ทุกคนต่างตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสันติสุขชายแดนใต้
ชมข่าว 3 มิติ ย้อนหลัง ตอน เปิดใจทีมแพทย์โรงพยาบาลเจาะไอร้อง