Skip to main content

 

ผู้กำกับ ตม.นราธิวาส: บุคคลที่มาเลเซียอ้างเป็นไอเอส เข้าออกไทยถูกต้องเมื่อเมษายนนี้

 

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
นราธิวาส
    TH-immigration-police-1000
    ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบผู้เดินทางเข้าออกด่านอย่างเข้มงวด วันที่ 4 พฤษภาคม 2560
     เบนาร์นิวส์
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในวันพฤหัสบดี (4 พฤษภาคม 2560) นี้ พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายมูฮัมหมัด มุซซาฟฟา อารีฟ จูไนดิ ที่ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวหาว่า เป็นสมาชิกไอเอสที่หลบหนีมายังอำเภอสุไหงโกลก เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ศกนี้ มีประวัติเดือนทางเข้า-ออก สองครั้งในเดือนเมษายน

    “นายมูฮัมหมัด มุซซาฟฟา อารีฟ จูไนดิ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยกลุ่มก่อการร้ายไอเอสของทางการมาเลเซียนั้น จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบมีการเดินทางเข้าออกด่านพรมแดนอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส หลายครั้ง และล่าสุดได้มีการประทับตราหนังสือเดินทางเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศอย่างถูกต้อง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 60 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกทางการประเทศมาเลเซียอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยกลุ่มก่อการร้ายไอเอส” พ.ต.อ.นพดล กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

    เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอีกรายหนึ่งระบุว่า หากนายมูฮัมหมัด จะเดินทางเข้า-ออกอีกจริง ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ เพราะทางการมาเลเซียยังไม่ได้ออกหมายจับ

    ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันพุธว่า มีผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งราย คือ นายมูฮัมหมัด มุซซาฟฟา อารีฟ จูไนดิ (Muhammad Muzaffa Arieff Junaidi) อายุ 27 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านกือเตาะ เมืองรันตาปันหยัง รัฐกลันตัน สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ และเชื่อว่า ได้หลบหนีเข้าประเทศไทยทางด้านอำเภอสุไหงโกลก เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ พร้อมด้วยปืนเอ็ม-4 และปืนพก

    พ.ต.อ.นพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการผ่านเข้าออกประเทศไทยของบุคคลต้องสงสัยแล้ว โดยเชื่อว่าบุคคลต้องสงสัยจะไม่สามารถผ่านเข้าออกประเทศได้อีก

    “เจ้าหน้าที่ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจเข้มบุคคลที่เดินทางผ่านเข้าออกระหว่างพรมแดนเหมือนในทุกๆ วันที่ผ่านมา ด้วยการนำหนังสือเดินทางของแต่ละบุคคลเข้าระบบตรวจสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ บุคคลตามหมายจับไม่สามารถที่จะแฝงตัวหลบหนีเข้าประเทศได้ และห้ามเข้าประเทศในทุกกรณี มีการตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิดที่ขับผ่านเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศอย่างละเอียด” พ.ต.อ.นพดล กล่าวเพิ่มเติม

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรายหนึ่ง ได้ระบุว่า “หากนายมูฮัมหมัด เดินทางเข้าประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมายจริง ก็ไม่สามารถที่จะจับกุมได้ เนื่องจากนายมูฮัมหมัด ไม่ได้เป็นบุคคลที่ถูกทางการประเทศมาเลเซียออกหมายจับตามที่เป็นกระแสข่าว” นายตำรวจรายดังกล่าวระบุ

    นายตำรวจรายเดียวกัน ยังกล่าวอีกว่า รายงานข่าวดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในอำเภอสุไหงโกลก เพราะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่กล้าเดินทางมา

    เมื่อวานนี้ คาลิด อาบู บาคาร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจมาเลเซีย ได้ออกเอกสารแถลงข่าวว่า ในห้วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ตำรวจมาเลเซีย ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มไอเอส รวมหกคน ในการกวาดล้างใน 5 รัฐของประเทศ

    จากข้อมูลที่เบนาร์นิวส์ รวบรวมไว้ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2556 ทางการมาเลเซีย จับกุมผู้ต้องสงสัยว่ามีความสัมพันธ์กับไอเอสแล้ว 300 คน ในจำนวนนี้ ถูกปล่อยตัวไป 66 คน

    หนึ่งในชาวมาเลเซียคนสำคัญที่ไปร่วมรบกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย คือนายมูฮัมหมัด เวนน์ดี้ ที่เจ้าหน้าที่ไทยระบุว่าเดินทางผ่านประเทศไทยไปปฏิบัติการในซีเรียเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    ทางด้านฝั่งมาเลเซีย รัฐบาลมาเลเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารราบที่ 2 และกองพลน้อยตำรวจหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษทั่วไป คุมพื้นที่ด่านชายแดนเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราบุคคลที่ผ่านเข้าออกเช่นเดียวกัน