Skip to main content

ดร.ยาซิร กอฎีย์

หนึ่งในนักเผยแผ่อิสลามที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอเมริกา

....................................................................

 

ในภาพอาจจะมี 3 คน, คนที่ยิ้ม, เครา

 

หากใครเคยเปิดฟังบรรยายศาสนธรรมอิสลามภาคภาษาอังกฤษในยูทูปหรือเพจ Muslim Speakers คงต้องผ่านตาและได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของนักวิชาการมุสลิมชาวอเมริกันเชื้อสายปากีสถานท่านนี้ “ดร.ยาซิร กอฎีย์ (Yasir Qadhi )” ซึ่งนิตยสารระดับโลกอย่าง New York Times ได้จัดให้ท่านเป็นหนึ่งในผู้รู้อิสลามที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของอเมริกันอิสลาม (one of the most influential conservative clerics in American Islam)

ดร.ยาซิร กอฎีย์ เกิดในปี ค.ศ.1975 ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา พ่อแม่ของท่านเป็นชาวปากีสถาน พออายุ 5 ขวบ ครอบครัวของท่านก็ย้ายไปทำงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย ท่านสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่นั่น และกลับมาศึกษาต่อจนสำเร็จระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกา สาขาวิศวกรรมเคมี จากมหาวิทยาลัยฮิวสตัน (University of Houston) จากนั้นก็ศึกษาต่อและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีอีกใบในด้านอิสลาม สาขาภาษาอาหรับ และระดับปริญญาโท สาขาอุศูลุดดีน ที่มหาวิทยาลัยอิสลามมะดีนะฮฺ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

ในปี ค.ศ.2005 ท่านเดินทางกลับมายังสหรัฐอเมริกา และเข้าศึกษาต่อกระทั่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาเทววิทยา ที่มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ในเมืองนิวฮาเวน รัฐคอนเนตทิคัต (New Haven, Connecticut)

ดร.ยาซิร กอฎีย์ เข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนสาขาวิชาศาสนศึกษาที่วิทยาลัยโรดส์ (Rhodes College) เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี (Memphis, Tennessee) และยังเป็นฝ่ายวิชาการของสถาบันอัล-มัฆริบ (Al-Maghrib Institute) สถาบันการศึกษาอิสลามนานาชาติที่มีศูนย์ในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา [1]

หลังจากเหตุการณ์การกราดยิงสำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ประเทศฝรั่งเศส (7 มกราคม ค.ศ.2015) [2] ดร.ยาซิร กอฎีย์และนักวิชาการอิสลามอีกหลายท่านได้ออกแถลงการณ์ประณามการสังหารหมู่ครั้งนี้ กลุ่ม ISIS จึงออกมาประกาศว่าจะสังหารท่าน (ยังมีนักวิชาการอิสลามระดับโลกอีกหลายท่าน อาทิ ดร.บิลาล ฟิลิปส์, ฮัมซะฮฺ ยูสุฟ, ชุอัยบ์ เวบบ์)

ท่านออกมาตอบโต้และให้ความเห็นไว้ในเพจส่วนตัวว่า “หนึ่งในสัญลักษณ์ของการคลั่งศาสนาคือ การพิจารณาทุกคนที่เห็นแย้งกับคุณว่าเป็นกาฟิรฺ (ผู้ปฏิเสธศรัทธา) ผมเพิ่งพบรูปตัวเองบนนิตยสารฉบับล่าสุดของพวกเขา (ISIS) และพวกเขาประกาศว่าผมเป็น "กาฟิรฺ มุรตัด (ตกศาสนา)" ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดตอบโต้มากไปกว่า "จงกลับตัวไปยังอัลลอฮฺเถิด ก่อนที่จะสายเกินไป !"

อัลลอฮฺตรัสว่า "และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใด ทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม จงยุติธรรมเถิด มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า" (อัลกุรอาน 5:8) อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน ผมไม่เคยบอกว่าพวกเขา มุรตัด หรือเป็นมุนาฟิก หรือ กาฟิรฺ ถ้าบอกว่า 'หลงผิด' น่ะใช่ 'คลั่ง' น่ะใช่ แต่ผมไม่เคยตั้งคำถามกับอีมาน (ศรัทธา) ของพวกเขา

อัลลอฮฺจะทรงเป็นผู้พิพากษาทั้งพวกเขาและผม ผมสงสัยเหลือเกินว่าพวกเขาจะตอบกับอัลลอฮฺอย่างไรกับการตัดสินใคร ๆ ว่าเป็น "กาฟิรฺ" และหลั่งเลือดผู้บริสุทธิ์”

ดร.ยาซิร กอฎีย์ มีผลงานเขียนหนังสือและร่วมเขียนกลายเล่ม

1. Riyaa: Hidden Shirk, 103 pages, Dar-al-Fatah, 1996, ISBN 8172317530

2. An Introduction to the Sciences of the Qura̓an, Al-Hidaayah Pub., 1999, ISBN 1-898649-32-4

3. An Explanation of the Four Principles of Shirk, 60 pages, with Muḥammad ibn ʻAbd al-Wahhāb, Al-Hidaayah, 2000, ISBN 1-898649-52-9

4. Du'a : The Weapon of the Believer, Al Hidaayah Publishing & Distribution, 2001, ISBN 1-898649-51-0

5. 15 Ways to Increase Your Earnings from the Quran and Sunnah, Al Hidaayah Publishing & Distribution, 2002, ISBN 1-898649-56-1

6. An explanation of Muhammad ibn Abd al-Wahhab's Kashf al-Shubuhat: a critical analysis of shirk, with Muḥammad ibn ʻAbd al-Wahhāb, Al-Hidaayah, 2003, ISBN 1-898649-62-6

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ ดร.ยาซิร กอฎีย์ ได้ที่ Facebook: Yasir Qadhi

Youtube: www.youtube.com/YasirQadhi

•••••••••••••••••

*หมายเหตุ:

[1] สถาบันอัล-มัฆริบ (Al-Maghrib Institute) เป็นองค์กรที่ให้ความรู้อิสลามนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2001 มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย และอีก 3 ศูนย์เครือข่ายที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา, เมืองออตตาวา เมืองหลวงของประเทศแคนาดา และกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

[2] วันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2015 เวลาประมาณ 11:30 น. มีมือปืนสวมหน้ากากสองคน ติดอาวุธปืนอาก้า ปืนลูกซอง และเครื่องยิงจรวดอาร์พีจีบุกสำนักงาน ชาร์ลี เอบโด ซึ่งเป็นสำนักงานนิตยสารล้อเลียน ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นิตยสารนี้สร้างความสนใจไปทั่วโลกด้วยการสร้างภาพล้อเลียนนบีมุฮัมมัดอยู่บ่อยครั้ง การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ซึ่งได้แก่สเตฟาน "ชาร์บ" ชาร์บอนีเย ผู้เป็นบรรณาธิการ และพนักงานอื่น ๆ ของ ชาร์ลีแอบโด อีกแปดราย รวมไปจนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติอีกสองคน ในขณะที่คนอื่นอีก 11 รายได้รับบาดเจ็บ

........................................

Ummah Islam เรียบเรียง

เผยแพร่ครั้งแรกที่ อุมมะฮฺ อิสลาม