Skip to main content

 

ผมรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมา และผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การล่าแม่มด แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะมุสลิม ประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ด้วยสถานะบางอย่างของครอบครัว ผมต้องระมัดระวังท่าทีในการแสดงความคิดเห็นสูงมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไปไกลเกินกว่าที่จะทำให้ผมนิ่งเฉย เศร้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ความเห็นส่วนตัวและการสัมผัสกับปรากฏการณ์ในสามจังหวัด กิจกรรมที่ริเริ่มด้วยกลุ่มของอาจารย์อันธิชาและเพื่อนไม่ได้มีนัยยะของการส่งเสริมให้เกิดการรักร่วมเพศแต่อย่างใด เพียงแต่มันอาจจะขัดกับความรู้สึกของมุสลิมบางท่าน ผมใช้คำว่า "ความรู้สึก" ไม่ใช่ "หลักการศาสนา" เพราะปัจจุบันเราเห็นนักกีฬามุสลิมเข้าแข่งขันกีฬาระดับโลกอยู่มากมาย นักกีฬาผู้หญิงเหล่านั้นก็คงไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นคนรักร่วมเพศ เพราะไปเล่นกีฬาที่ส่วนใหญ่ผู้ชายเขาเล่นกัน สิ่งที่กิจกรรมของอาจารย์อันธิชาพยายามจะบอก คือ "การให้ที่ทาง" กับคนที่เขาไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากคนอื่น ผมคิดว่า "การให้ที่ทาง" คงต่างจาก "การส่งเสริม และโน้มน้าว" นะครับ คนกลุ่มนี้อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างอิหลักอิเหลื่อในครอบครัว ชุมชนของจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่พอสมควร ผมไม่แน่ใจว่าคนที่ออกมาปกป้องอิสลาม ปกป้องท้องถิ่นจังหวัดชายแดนใต้ เคยนั่งฟังน้องที่เป็น "กระเทย" บ้างหรือเปล่า

ผมเคยทำงานวิจัยชิ้นเล็กอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อ "เข้าใจ" เด็กชายขอบเหล่านี้ที่ถ้ามองตามกรอบของศาสนาอิสลาม การนั่งคุยกับน้องคนนี้ทำให้ผมเข้าใจความซับซ้อนของประเด็นนี้มากขึ้น แน่นอนว่าถ้ามองอย่างผิวเผิน เขาคือคนที่ทำผิดหลักการ เพราะร่างกายเป็นผู้ชาย แต่ความรู้สึกเป็นผู้หญิง เขาบอกว่าตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชายเลยในชีวิต ความทรงจำตอนเด็กที่นึกได้ไกลที่สุด คือภาพที่ตนเองคลุมฮิญาบ น้องถูกฝากเลี้ยงไว้กับยาย ท่ามกลางพี่ชาย 3 คน เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานในมาเลเซีย ตั้งแต่เด็กไปชอบเล่นกับพี่ชาย แต่คลุกคลีอยู่กับลูกสาวของป้า ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน น้องสารภาพกับผมว่าทุกวันก็รู้ว่าตัวเองทำผิด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สิ่งที่พยายามทำอยู่ตลอดเวลาคือ การละหมาด อ่านอัลกรุอ่าน เพื่อ"ชดเชย" กับความผิดที่ตนเองกำลังทำอยู่ ท่านนักวิชาการและผู้ห่วงใยอิสลามทั้งหลายครับ อิสลามตามความเข้าใจของท่านจะเอาเด็กประเภทนี้ไว้ตรงไหนครับ? หรือที่ทางของพวกเขาคือ ต้องไป "นรก" เพียงเท่านั้น นรกเพราะเขาเกิดมาแล้วมีสภาพเป็นนี้เท่านั้นหรือ?

ผมขอไม่พูดถึงเรื่อง "สิทธิ" อะไรนะครับ เพราะผมรู้ในใจท่านอาจจะแย้งผมว่ามันเป็น "ของใหม่" ที่มาจากโลกฝรั่ง เสียเวลาที่จะไปพูดเรื่องนี้ แต่ประเด็นที่ผมอยากสนทนากับท่านในฐานะมุสลิม คือ ความอดทนอดกลั้น (tolerance) ที่ศาสนาทุกศาสนาสอน และคุณค่าความเป็นมนุษย์ในศาสนาอิสลาม เพราะเวลาท่านพูดถึงหลักการของศาสนาอิสลาม ท่านพูดได้ถูกต้องชัดเจน และผมคิดว่าผมไม่มีความรู้มากพอไปเถียงท่าน แต่ที่ผมเห็นในทางปฏิบัติ ผมไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นเลย ผมไม่เห็นนักเผยแพร่ (ดาอีย์) ผมเห็นแต่ผู้พิพากษา (กอฎี) เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด นอกจากนี้เวลาท่านพูดในที่สาธารณะ ท่านพูดถึงความเมตตาของอิสลามที่มีต่อสรรพสิ่งต่างๆ บนบนโลกใบนี้ บางท่านหยิบยกฮาดิษที่ว่าด้วยเรื่องโสเภณีกับการให้น้ำสุนัขมาเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความเมตตาของพระเจ้า คำถามคือ ทำไมท่านไมเอากรณีดังกล่าวมาทำให้เห็นในทางปฏิบัติ ให้เห็นถึงความเมตตาของพระเจ้า ที่มีต่อคนที่มีอาชีพที่ขัดกับหลักการศาสนา เพียงแค่เธอตักน้ำให้สุนัขที่กระหายน้ำกิน เขาก็ได้รับการตอบแทนด้วยสวรรค์ของพระองค์แล้ว สำหรับผมแล้ว ในความเป็นมนุษย์เราจะคาดคะเนความเมตตาของพระเจ้าได้อย่างไร กรณีโสเภณีผมเชื่อว่าถ้าให้มุสลิมตัดสิน เธอคนนี้คงสถิตย์อยู่ในนรกตลอดกาลเป็นแน่แท้

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมขอร้องให้ท่านทั้งหลายที่คิดจะทำการใดๆ ต่ออาจารย์อันธิชา และเด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม หยุดคิด และทบทวนการกระทำการใดๆ เพราะสิ่งที่ท่านกำลังทำคงไม่ใช่การปกป้อง หากเป็นการทำให้หน้าตาของอิสลามที่ผมรักและศรัทธาเช่นเดียวกับพวกท่านเปลี่ยนไป อิสลามที่ผมรู้จักและถูกสอนมาให้รู้จักทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไปด้วยน้ำมือของใครต่อใครจนผมเองแทบจะหลงลืมหน้าตาที่แท้จริงมันไปเสียแล้ว จุดยืนผมต่อหลักศาสนาเหมือนเดิม ผมไม่ส่งเสริมให้ใครเป็น เกย์ เลสเบี้ยน หรือเพศสภาพอื่น แต่การให้ "ทีทาง" และการยอมรับในการดำรงอยู่ของคนกลุ่มนี้ ให้พวกเขาได้รู้สึกว่า เขาเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกเช่นเดียวกับพวกท่าน เป็นมุสลิมที่อาจจะไม่ดีเท่ากับท่านแต่ก็ยังคงปฏิบัติศาสนกิจไม่ต่างจากท่าน อย่างน้อยการรวมตัวของพวกเขาอาจช่วยให้ท่านได้เห็นว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความอดทนอดกลั้นเพียงพอต่อความท้าทายของความเป็นสมัยใหม่ที่ถาโถมไปทั่วภูมิภาค หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านรับมือมันด้วยปัญญา

 

ซากีย์ พิทักษ์คุมพล

สถาบันสันติศึกษา

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์