เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยผู้สมัครแบบแบ่งเขต เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. เดินทางถึงบริเวณท่าอากาศยานนราธิวาส ผู้สมัครของพรรคและประชาชนกว่า 500 คนมาต้อนรับ โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายนิติภูมิ นวรัตน์ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และคณะติดตามอีกกว่า 50 คนเดินทางมาด้วย
หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึงได้สวมฮิญาบสีแดง(ผ้าคลุมศีรษะสตรีมุสลิม) และพบปะกับประชาชนในพื้นที่ โดยไม่มีการปราศรัยแต่อย่างใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อเพียงสั้นๆ ว่า ตนมั่นใจว่าผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงจากประชาชนค่อนข้างมาก เพราะนโยบายดีและทำได้จริง และจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน
จากนั้นเดินทางไปที่บ้านพักของนายอับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสมัด อดีตประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้ อดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสและเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 76 ที่บ้านบลูกาสนอ หมู่ที่ 4 ตำบลตะปอเยาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
จากนั้นได้เดินทางไปที่ที่ทำการสาขาพรรคเพื่อไทย ถนนสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยยังสวมฮิญาบสีแดง พบปะประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นเวทีหาเสียง ชูนโยบายของพรรคเพื่อไทย หลายข้อ เช่น การสร้างที่พักให้ผู้เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ทุนการศึกษา กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร 3 ปี รวมทั้งโครงการบ้านหลังแรกในชีวิตให้กับผู้ยากจน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยกับการยกระดับการพัฒนาในพื้นที่เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เช่นเดียวกับ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา พร้อมทั้งการส่งเสริม และการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มากกว่าการใช้ความรุนแรงในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังเน้นด้านภาษา และผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลส่งออก และโครงการแลนด์บริจส์ ที่จะเป็นอุตสาหกรรมสร้างงานสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว จังหวัดปัตตานี เพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคและขึ้นเวทีปราศรัยว่า เป็นครั้งแรกที่เดินทางลงพื้นที่ชายแดนใต้ หากได้เป็นรัฐบาลจะยกระดับ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นพื้นที่ปกครองพิเศษเหมือนกรุงเทพฯและพัทยา เรื่องการศึกษาในโรงเรียนจะเปิดเรียนวิชามลายู จัดรูปแบบของโรงเรียนประจำเพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน
นอกจากนี้ จะให้ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีสะพานเชื่อมอันดามันกับอ่าวไทย เพื่อจะมีถนน รถไฟ และน้ำมัน ต่อไปจะมีเงินสะพัดในพื้นที่ภาคใต้ พรรคเพื่อไทยจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้ชาวมุสลิมได้ประกอบพิธีฮัจญ์ และจะเพิ่มจาก 12,000 คน เป็น 20,000 คน และจัดให้มีที่พักอย่างสมศักดิ์ เช่นเดียวกับอาหารฮาลาลก็จะให้พื้นที่ 3 จังหวัดเป็นศูนย์การผลิตอาหารฮาลาล ส่งออกทั่วโลก
“ดิฉันขอกล่าวด้วยความจริงใจตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเราเชื่อว่าเราคุยกันได้ และเราเชื่อว่า การปรองดองของประเทศนั้นคือ การปรองดองของคนทั้งประเทศ ดิฉันเข้าใจกับการสูญเสียสามีและลูก ดังนั้น ดิฉันไม่อยากเห็นความสูญเสียนี้เกิดขึ้นอีกกับคนไทยทั้งประเทศ ย้ำอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยแสดงความจริงใจจึงขอโอกาสพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เรียบเรียงจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์