Skip to main content

.

.

 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงานอธิ​การบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2555 โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม

ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิ​การบดี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีสรุปใจความสำคัญได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบกรอบแผนงานโครงการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง จำนวน 117 โครงการ เป็นวงเงินทั้งสิ้น 84,064 ล้านบาท

เป็นโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน 10 โครงการ เป็นวงเงินทั้งสิ้น 24,873 ล้านบาท โดยโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีสามารถดำเนินการทันที ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวท่ามาเนาะห์ ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา 30 ล้านบาท โครงการพัฒนาเกาะสุกร จังหวัดตรัง เป็นแหล่งท่องเที่ยว  25.94 ล้านบาท โครงการเสริมสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน ที่จังหวัดภูเก็ต 25.37 ล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำรองรับการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ที่จังหวัดระนอง 20 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 101.31 ล้านบาท

สำหรับโครงการของแต่ละจังหวัด 107 โครงการ เป็นวงเงินทั้งสิ้น 59,263 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดภูเก็ต 67 โครงการ 47,683 ล้านบาท พังงา 13 โครงการ 3,817 ล้านบาท กระบี่ 10 โครงการ 3,439 ล้านบาท ตรัง 6 โครงการ 334 ล้านบาท และระนอง 11 โครงการ 3,990 ล้านบาท

ครงการที่สามารถดำเนินการทันที สำหรับจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย โครงการแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำจังหวัดภูเก็ต 25 ล้านบาท โครงการระบบท่อส่งน้ำจากโรงกรองน้ำบ้านบางโจไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต 24.84 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบควบคุมการจราจรทางน้ำจังหวัดภูเก็ต 17.30 ล้านบาท โครงการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานบ้านพระวิชิตสงคราม ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 9.11 ล้านบาท โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงถนนเจ้าฟ้าตะวันออก  20 ล้านบาท และโครงการพัฒนาระบบตรวจจับรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วเกินอัตราที่กำหนดและระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาไฟจราจรในเขตจังหวัดภูเก็ต 17 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 113.25 ล้านบาท

จังหวัดระนอง ประกอบด้วย โครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้วอย่างยั่งยืน 42.26 ล้านบาท โครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพยาม 15 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของสถาบันเกษตรกร 10.80 ล้านบาท โครงการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากอุทกภัย 21.12 ล้านบาท โครงการจัดระบบป้องกันและการสื่อสารเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนฝั่งทะเล และเกาะแก่ง 6.15 ล้านบาท โครงการส่งเสริมและเพิ่มพูนรายได้เศรษฐกิจชุมชนโดยจัดสร้างลานปาล์มชุมชน 6.50 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 101.83 ล้านบาท

จังหวัดพังงา ประกอบด้วย โครงการเตรียมพื้นที่ ปรับปรุงพื้นที่ ถมดินบริเวณโครงการจัดตั้งศูนย์ราชการจังหวัดพังงา  35 ล้านบาท โครงการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์อนุสรณ์สถานเรือ ต.813 42.98 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงเส้นทางสายเพชรเกษม ช่วงเขาหลัก-บางเนียง 30 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 107.98 ล้านบาท

จังหวัดกระบี่ คือ โครงการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน และอุบัติภัยทางธรรมชาติ เพื่อรองรับคุณภาพชีวิตที่ดีและการท่องเที่ยว 99.34 ล้านบาท

จังหวัดตรัง ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ท่องเที่ยวเขาช้างหาย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง 10 ล้านบาท โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว 30 ล้านบาท และโครงการการพัฒนาแหล่งน้ำจังหวัดตรัง 64 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 104 ล้านบาท

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบผ่อนผันให้ใช้พื้นที่ป่าชายเลนคลองเกาะผี ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ก่อสร้างโครงการถนนสายหลักทางด้านใต้ ทางยกระดับ 600 เมตร (สะพานข้ามคลองเกาะผี) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอด้วย

“โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำรายงานการจัดสรรงบประมาณ ประจำปี 2555 ส่งให้สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ 2555 ยกเว้นโครงการการเตรียมพื้นที่ ปรับปรุงพื้นที่ ถมดินบริเวณโครงการจัดตั้งศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ พ.ศ.2539 ก่อนทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ” นายชลิตรัตน์ แถลง

ขณะที่เวลา 12.30 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณประตูอิราวดีทางเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาภูเก็ต เครือข่ายประชาชน 14 ภาคใต้ ในนามเพชรเกษม 41 ประมาณ 20 คน ได้นำแผ่นป้ายผ้าสีเขียวเขียนข้อความว่าหยุดแผนพัฒนาภาคใต้ฉบับนายทุน

นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี คณะทำงานเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า รัฐมนตรีให้ความสำคัญและรับฟังเสียงจากที่ประชุมคณะกรรมร่วมภาครัฐ เอกชนฯ หรือ กรอ. เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มทุนผู้ที่ได้รับประโยชน์เป็นหลัก มีการเสนอแผนพัฒนาต่างๆ แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

“เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผนพัฒนาภาคใต้ เราหวังว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้งจากเสียงส่วนใหญ่จะเคารพและเข้าใจและเปิดโอกาสให้คนท้องถิ่นร่วมกันสร้างสรรค์การพัฒนา สามารถกำหนดเศรษฐกิจในภาคใต้ได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน” นายวิโชคศักดิ์ กล่าว