Skip to main content

.

ฤทธิ์มะกันทหารเมริกันปัสสาวะรดศพของนักรบตาลีบันในอัฟกานิสถาน เมื่อต้นปี 2555 ก่อนเกิดเหตุการณ์สิบโทโรเบิร์ต เบลส์ สังหารชาวบ้านอัฟกานิสถาน 17 ศพ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2555

 

              รายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อของสหรัฐหลายราย รวมถึงวอชิงตันโพสต์ ซีเอ็นเอ็นและนิวยอร์คไทมส์ อ้างแหล่งข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐเตรียมตั้งข้อหาสิบโทโรเบิร์ต เบลส์ของกองทัพสหรัฐอย่างเป็นทางการ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองแล้ว และมีโอกาสถูกนำตัวขึ้นดำเนินคดีในศาลทหารในสหรัฐต่อไป

สิบโทเบลส์ได้ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยถูกกล่าวหาว่าสังหารชาวบ้านในอัฟกานิสถานรวม 17 ราย วอชิงตันโพสต์รายงานอ้างว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐให้ข้อมูลไว้ว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุเบลส์ได้ออกจากที่พักที่เป็นหน่วยที่ตั้งทหารอเมริกันเล็กๆ ในกันดาร์ฮาร์ อัฟกานิสถานเพียงลำพัง และได้ไปกราดยิงชาวบ้านในสองหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 16 คน และต่อมาภายหลังอีกหนึ่งคน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หลังจากนั้นได้เดินกลับมาที่ค่ายแล้วมอบตัว

นิวยอร์คไทมส์มีรายละเอียดมากขึ้น โดยบอกว่าความพยายามสังหารอันนั้น รวมไปถึงการใช้มีดแทงด้วย อย่างไรก็ตามทนายความของสิบโทโรเบิร์ต เบลส์ระบุว่า ฝ่ายอัยการไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายหรือผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับแก้ตัวให้ลูกความว่าเขามีอาการทางประสาทและสมองได้รับความกระทบกระเทือนจากผลของอุบัติเหตุที่เกิดก่อนหน้านี้  

รายงานข่าวกล่าวด้วยว่า ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่เองก็ยอมรับถึงความยากลำบากในการทำคดี  ซีเอ็นเอ็นอ้างเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐบอกว่า พวกเขาไม่มีผลการชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากมีการฝังศพผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วตามหลักศาสนาอิสลาม ในขณะที่อีกด้านเจ้าหน้าที่ก็ไม่แน่ใจว่า พยานผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมจะเดินทางไปให้ปากคำที่ศาลถึงในสหรัฐหรือไม่

ข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐสรุปผลการสอบสวนว่า เบลส์ได้ลงมือสังหารชาวบ้านในสองหมู่บ้านที่ปันจ์ไว (Panjwai) ในกันดาร์ฮาร์ ภาคใต้ของอาฟกานิสถานเพียงลำพัง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่นำตัวเบลส์ออกจากอัฟกานิสถานแล้วนำไปจองจำไว้ในคุกทหารที่ฟอร์ทลีเวนเวอร์ทในรัฐเคนซัส  ซึ่งสวนทางกับความต้องการของเจ้าหน้าที่อัฟกานิสถาน ที่ต้องการให้ทหารนายนี้ไปขึ้นศาลในอัฟกานิสถาน  แต่สหรัฐยืนยันว่าเบลส์จะต้องขึ้นศาลในสหรัฐ 

ซีเอ็นเอ็นได้อ้างความเห็นของนักกฎหมาย พอล คาลเลน ที่วิเคราะห์ว่า ทีมอัยการสหรัฐคงจะขอให้ศาลลงโทษประหารชีวิตเบลส์ เพราะกรณีนี้ถือว่าเป็นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ นิวยอร์คไทมส์ เรียกกรณีนี้ว่าเป็นกรณีที่เป็นไปได้ว่า จะเป็นอาชญากรรมทางสงครามที่หนักที่สุดที่ทหารอเมริกันลงมือเพียงคนเดียว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ถล่มอาคารเวิร์ดเทรดหรือที่เรียกกันว่า 9/11 เรื่องนี้ยังมีผลกระเทือนสูงในทางการเมืองระหว่างประเทศ เพราะทำให้อัฟกานิสถานเรียกร้องให้สหรัฐถอนทหารออกจากประเทศ

ประธานาธิบดีฮามิด คาไซของอัฟกานิสถานถึงกับเอ่ยปากเรียกทหารต่างชาติที่อยู่ในอัฟกานิสถานว่าเป็น “มารร้าย” และเรียกร้องให้ถอนทหารที่ไปตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านและชุมชนกลับสู่ค่ายใหญ่ ในขณะที่สหรัฐเองซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตระเตรียมการขั้นสุดท้าย เพื่อจะถอนทหารกลับอย่างถาวรเช่นเดียวกันในอีกสองปีข้างหน้า ก็ได้รับผลกระทบกับแผนการเตรียมงาน ที่สำคัญคาลเลนระบุว่า ชาวอัฟกานิสถานจะมีคำถามว่า “สหรัฐจะสร้างความยุติธรรมในคดีนี้หรือไม่”

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า เบลส์มีบุตรสองคน เขาเป็นทหารที่ถูกส่งไปทำงานในอิรักมาแล้วสามครั้ง และหนหนึ่งประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนถึงสมอง รายงานข่าวอีกหลายสำนักกล่าวถึงประวัติของเบลส์ให้ภาพเขาว่าเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่พยายามสอบด้วยว่าเบลส์ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยหรือไม่ ในวันที่มีเหตุโจมตี ก่อนหน้านี้เบลส์เคยมีประวัติมีส่วนร่วมในการก่อเหตุที่มีการดื่มของมึนเมาด้วย

ในเวลาเดียวกันกับที่มีข่าวเรื่องทหารอเมริกันกับกรณีสังหารหมู่นี้ออกมา ก็มีสื่ออีกหลายรายลงรายงานที่ให้ภาพทหารอเมริกันที่มีพฤติกรรมขาดความเป็นมืออาชีพมากขึ้นเรื่อยๆ  วอชิงตันโพสต์อ้างว่าเมื่อเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่วิดีโอคลิปเป็นภาพของทหารเมริกันปัสสาวะรดศพของนักรบตาลีบัน

ต่อจากนั้นมีข่าวเรื่องการเผาคัมภีร์เป็นเหตุให้มีการประท้วงตามมาอีกมากมาย ข่าวระบุว่า ในระยะหลังทหารสหรัฐตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีหนักมือขึ้นเรื่อยๆ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เหตุการณ์หนนี้ทำให้ในผู้ที่เกี่ยวข้องในสหรัฐหันกลับมาให้ความสนใจอีกครั้งกับปัญหาสุขภาพจิตของทหารในสังกัด ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในแนวรบ ซึ่งเผชิญภาวะเครียดและมีอาการทางประสาท จนปรากฏว่ามีระดับของการฆ่าตัวตายสูงเป็นประวัติการณ์ เหตุการณ์นี้ทำให้ความสนใจพุ่งไปที่เรื่องของการบริหารจัดการในกองทัพด้วย

ล่าสุดนิวยอร์คไทมส์ระบุว่า ตัวแทนกองกำลังสหรัฐในอัฟกานิสถานชี้แจงกับสภาคองเกรสสหรัฐด้วยว่า กองทัพจะสอบสวนเรื่องระบบการบริหารงานที่ค่ายทหารที่กันดาร์ฮาร์

 

รวบรวบจากซีเอ็นเอ็น วอชิงตันโพสต์ เอพี นิวยอร์คไทมส์