นายอาวุธ สุวรรณโณ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุทะเลาะวิวาทในเรือนจำกลางปัตตานีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2555 จนทำให้ทหารพรานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน แล้ว คาดว่าจะเสร็จภายใน 1-2 วัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในระยะเวลา 30 วัน โดยตนได้ปรึกษานายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ส่วนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานีได้เข้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นคณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุแล้ว ต่อไปจะเรียกเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบช่วงที่เกิดเหตุมาสอบสวน
“ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขอให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานีส่งรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันได้ส่งตำรวจ 2 นาย สลับกันดูแลรักษาความปลอดภัยให้ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง” พ.ต.อ.สมพร กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดตอนเย็นของวันที่ 22 มีนาคม 2555 ภายในแดน 3 เรือนจำกลางปัตตานี ขณะผู้ต้องขังกำลังอาบน้ำได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ต้องขังด้วยกัน จนเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางปัตตานีเข้าระงับเหตุและนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลปัตตานี
ปรากฏว่า กลางดึกวันเดียวกัน อาสาสมัครทหารพรานสาอุดี เจ๊ะโด เสียชีวิตลง ญาติจึงนำศพกลับไปทำพิธีตามศาสนาอิสลามที่จังหวัดนราธิวาส ส่วนอาสาสมัครทหารพรานสุทธิชากร รามแก้ว ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคน อาการยังสาหัส
โดยเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 26 มีนาคม 2555 อาสาสมัครทหารพรานสุทธิชากร ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่เตียง 6 อาคารตึกอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน โรงพยาบาลปัตตานี ในสภาพสะบักสะบอม
นางสาวอรอุมา มุกดาหาร พี่สาวของอาสาสมัครทหารพรานสุทธิชากร เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการน้องชายของตนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องเอกซเรย์สมอง เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง โดยในช่วงค่ำของวันที่ 26 มีนาคม 2555 ตอนน้องชายตนฟื้นขึ้น ถามตนและญาติว่ามาอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไร หลังจากจำได้ว่าก่อนหน้านี้อยู่ที่เรือนจำกลางปัตตานี
นางสาวอรอุมา กล่าวว่า หลังจากที่น้องชายของตนเข้าไปในเรือนจำเพียงวันเดียว ก็เกิดเหตุน่าสลดนี้ขึ้น โดยน้องชายตนน่าจะถูกทุบด้วยดัมเบลเหล็กที่ท้ายทอย และกลางศีรษะแตกเย็บ 5 เข็ม ถูกแทงอีก 6 รู ทะลุกระบังลม 3 รู แขนซ้าย 2 รู และสะโพกซ้าย 1 รู
“น้องทำผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ตัดสินแบบศาลเตี้ย ฉันอยากให้จับคนทำร้ายน้องชายในเรือนจำให้ได้ แล้วหากศาลพิพากษาให้น้องชายติดคุกแล้วใครจะรับประกันได้ว่าน้องชายจะไม่โดนแบบนี้อีก” นางสาวอรอุมา กล่าว
สำหรับอาสาสมัครทหารพราน 2 คน คือ อาสาสมัครทหารพรานสาอุดี เจ๊ะโด และอาสาสมัครทหารพรานสุทธิชากร รามแก้ว ก่อเหตุรับจ้าง 1 แสนบาทยิงนายอรรถนพ ปูเต๊ะ ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ปรับอากาศรับจ้างสายปัตตานี-สุไหงโก-ลก ริมถนนพิพิธใจกลางเมืองปัตตานี โดยอาสาสมัครทหารพรานสาอุดี เป็นคนขับ และมีอาสาสมัครทหารพรานสุทธิชากร นั่งซ้อนท้ายยิง
ทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่าเป็นทหารพราน กรมทหารพรานที่ 44 สังกัดกองร้อยที่ 4416 ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี กระทั่งเมื่อเวลา 15.10 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2555 ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับสารภาพ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบ2ทหารพรานชายแดนใต้รับจ้างยิงคนขับรถตู้โก–ลกสาหัส