“นายกฯปู” ลงใต้ตรวจห้างลีการ์เดนส์ สั่งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง บูรณาการแผนรักษาความปลอดภัย “ยุทธศักดิ์” ควง “ผบ.ทบ.” ประชุมเครียดฝ่ายความมั่นคง สั่งคุมเข้มจุดโซนนิ่งยะลา ระดมกำลัง 2 พัน เข้าแผน 36411 ตรึงโก-ลก
ตรวจเยี่ยม – นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังตรวจเยี่ยมจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
เวลา 13.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2555 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากเข้าไปสถานที่เกิดเหตุระเบิดภายในโรงแรมแล้ว ได้ออกมาพบปะกับประชาชน
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการบูรณาการมาตรการรักษาความปลอดภัยระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกองทัพ ตั้งแต่สนามบินและเส้นทางคมนาคมต่างๆ รวมถึงสถานที่พักโรงแรม โรงพยาบาล ที่สาธารณะ ขณะเดียวกันก็จะประชุมกับหน่วยงานการท่องเที่ยว หอการค้า และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
สั่งคุมเข้มจุดโซนนิ่ง
เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดยะลา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ที่จังหวัดยะลา และที่อำเภอหาดใหญ่
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา เวลาประมาณ 15.30 น. วันเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เดินทางไปยังห้องไอ.ซี.ยู.และห้องศัลยกรรมชาย, ห้องศัลยกรรมหญิง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บ จากเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุดกลางเมืองยะลา ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอีก 27 ราย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการกำชับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สร้างเอกภาพในการปฏิบัติงานร่วมกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องโซนนิ่งที่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกันเป็นพิเศษ รวมทั้งการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ให้ทำงานได้ทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น สำหรับจังหวัดยะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดจะจัดงานประเพณีสงกรานต์ทำบุญร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปกติจะมีการแบ่งหน้าที่ดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกันชัดเจน ทั้งในเขตเมืองและพื้นที่รอบนอก ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดมาตลอด แต่ผู้ก่อความไม่สงบอาศัยจังหวะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อแสดงศักยภาพและความต้องการแบ่งแยกดินแดน
“ประชาชนในพื้นที่ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และต้องช่วยสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่นั้นดูแลไม่ทั่วถึง การเฝ้าระวัง การตรวจยานพาหนะ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการเฝ้าระวังและการตรวจค้นยานพาหนะ ในส่วนของคดีเจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วว่าเป็นใคร กลุ่มไหน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวอีกว่า ส่วนการเจรจากับฝ่ายตรงข้ามนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่เปิดให้มีการเจราจาต่อรองระหว่างผู้ก่อการร้ายกับฝ่ายรัฐ ตามปกติการเจราจาต้องมีการต่อรอง จะเอาอะไรไปต่อรอง ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามต้องการแบ่งแยกดินแดน เขตปกครองพิเศษ และทำสิ่งผิดกฎหมาย รัฐไม่สามารถที่จะให้ได้ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย การลดความรุนแรงที่ต้องนำการพัฒนาเข้าไป ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ การศึกษา และความอยู่ดีมีสุขของประชาชน
ใช้แผน 36411 ตรึงโก-ลก
รายงานข่าวจากจังหวัดนราธิวาสแจ้งว่า ฝ่ายความมั่นในจังหวัดนราธิวาสได้สนธิกำลังกว่า 2,000 นาย เข้าปฏิบัติการตามแผน 36411 เพื่อรักษาความปลอดภัย โดยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะ ตามจุดตรวจเขตรอยต่อระหว่างอำเภอ ทั้งจากอำเภอตากใบ อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอแว้ง รวมถึงด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และจุดผ่อนปรน บริเวณท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก แผนดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนพิทักษ์โก-ลก 55 ที่ได้นำมาใช้ในห้วงเดือนเมษายน เนื่องจากมีการจัดกิจกรรมในอำเภอไหงโก-ลกถึง 6 กิจกรรม
สำหรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ยังคงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอำเภอสุไหงโก-ลก ออกมารเดินและรับประทานอาหารตามร้านค้าในย่านเศรษฐกิจ และใช้บริการสถานบันเทิงตามปกติ
ขณะเดียวกันพ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการให้ตำรวจเพิ่มความเข้มในการดูแลพื้นที่ของตนเอง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก เนื่องจากหวั่นว่าจะตกเป็นเป้าหมายในการก่อความไม่สงบ เนื่องจากเป็นเมืองเศรษฐกิจ
ระเบิดรถยนต์กำนันปัตตานีพังยับ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ขณะที่นายอิสมาแอ บือแน อายุ 47 ปี กำนันตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และอาสารักษาดินแดนอีก 4 นาย ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน กค 7624 ปัตตานี มาตามถนนสายชนบทถึงหมู่ที่ 4 บ้านปูลากาซิง ตำบลกอลำ มีคนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องชนิดลากสายไฟ น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัมที่ฝังอยู่ใต้ถนน หลังจากขับรถผ่านที่เกิดเหตุไปเล็กน้อย ทำให้รถเสียหลักตกข้างทาง คนในรถออกจากมารถแล้วใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโสร่ง อำเภอยะรัง พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นำกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เข้าปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พบนายอิสมาแอ กับอาสารักษาดินแดน 4 นาย หมอบอยู่ริมถนน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร พร้อมชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ ห่างกัน 5 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ รุ่นดีแมคซ์ ที่ตกข้างทางอยู่ในสภาพถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นายอิสมาแอทราบก่อนแล้วว่า ถูกปองร้ายให้ระวังตัว ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวนว่า เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือสร้างสถานการณ์