ปัตตานีเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เนื่องในวันต่อด้านยาเสพติดโลก หนุ่มเผยเคยเสพมาเกือบทุกชนิด ยันชีวิตแย่ระแวงคนรอบข้าง ตั้งใจเลิกแล้ว
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 มิถุนายน 2555 ที่ลานศิลปวัฒนธรรม อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดปัตตานี จัดเดินรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกจังหวัดปัตตานี ประจำปี 2555 พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เทิดไท้องค์ราชัน องค์ราชินี เฉลิมฉลอง 10 ปี To be Number One มีตัวแทนหน่วยราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันการศึกษาเข้าร่วมประมาณ 10,000 คน
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนหยัดเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ ในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โดยหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องกันทุกปี และในปี 2555 เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ 80 พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รัฐบาลได้กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2555 ภายใต้คำขวัญ พลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด เทิดไท้ องค์ราชัน องค์ราชินี เฉลิมฉลอง 10 ปี To Be Number One
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า ด้วยเหตุนี้ ศูนย์อำนวยการแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดปัตตานี จึงจัดเดินรณรงค์ในวันนี้ โดยเชื่อมั่นว่า พลังของมหาชนจะสร้างกระแสให้ทุกภาคีตื่นตัวและเห็นความสำคัญ จนนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในการขจัดปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ รัฐบาลยังกำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกจังหวัดจะต้องเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งจังหวัดปัตตานีและผู้อำนวยการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดปัตตานี ได้ดำเนินการอำนวยการ สั่งการและบูรณาการทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาสังคม ส่งผลให้จังหวัดปัตตานีมีผลการปฏิบัติงานด้านการแก้ปัญหายาเสพติดดีเด่นของประเทศ
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพ ถูกกดดันค่อนข้างมาก สังเกตจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ค่อยกล้ากระทำการเหมือนเมื่อก่อน เยาวชนเริ่มตระหนักและกลัวภัยจากยาเสพติดมากขึ้น เนื่องจากช่วงหลังๆ มานี้มีการนำศาสนาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัด โดยให้ผู้นำศาสนา ตัวแทนสถาบันปอเนาะหรืออุสตาซ (ครุสอนศาสนา) มาร่วมโครงการ
“เยาวชนเริ่มเห็นแล้วว่า การที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นการทรยศต่ออัลลอฮ์ (พระเจ้าของอิสลาม) เด็กก็เริ่มเกรงกลัว ซึ่งหากเด็กเหล่านั้นยังมีศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ก็จะเกิดความเกรงกลัวที่จะทำความผิด จึงทำให้การวางแนวทางการป้องกัน บรรลุเป้าหมายพอสมควร” ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ กล่าว
นายเสือเล็บ (นามแฝง) เยาวชนที่ได้รับการบำบัดยาเสพติดของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดปัตตานี เล่าว่า ยาเสพติดที่ตนเคยเสพ ได้แก่ ใบจากและยาเส้น บุหรี่ กัญชา ทินเนอร์ เหล้า ยาบ้า ฝิ่น อัลฟ่าซอแลม ยาไอซ์ และสี่คูณร้อย ตามลำดับ
เสือเล็บ เล่าต่อไปว่า ตนเริ่มลองเสพยาเสพติดครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี หลังจากนั้นไปทำงานรับจ้างเสิร์ฟอาหารที่ประเทศมาเลเซีย จึงได้ลองเสพยาไอซ์เป็นครั้งแรก จนติดยาอย่างหนัก ช่างที่หนักที่สุดคือช่วงอายุ 18 ปี มีอาการไม่มีสติ กลัวและระแวงคนรอบข้างไปหมด จนต้องให้พ่อไปรับตัวกลับบ้าน โดยเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันได้ให้กำลังใจและขอให้ตนค่อยๆ เลิกยาเสพติดทีละอย่าง ซึ่งตนก็ได้ตั้งใจจะทำตามที่เพื่อนขอให้ได้
เสือเล็บ เล่าอีกว่า หลังจากกลับมาบ้านแล้วก็ยังไม่มีสติ ยังกลัวและระแวงคนรอบข้างอยู่ ที่แย่กว่านั้น คือ จำพ่อ แม่ และคนรอบข้างไม่ได้เลย พ่อจึงตัดสินใจพาเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลปัตตานี หมอจึงพาไปรักษาที่แผนกผู้ป่วยจิตเวช โดยผูกข้อมือและเท้าไว้กับเตียง บำบัดอยู่ที่นั่นหลายเดือนจนออกมา แต่ช่วงนั้น สี่คูณร้อยระบาดทำให้กลับมาติดสี่คูณร้อยอีก จนทำให้ต้องเข้า-ออกศูนย์บำบัดหลายครั้ง ครั้งนี้เกือบปีแล้วที่ตนไม่ได้แตะต้องยาเสพติด และตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่กลับไปยุ่งกับยาเสพติดอีก เพราะทำให้พ่อแม่เสียใจมากแล้วและเปลืองเงินด้วย
“ตอนนี้ผมทำงานรับจ้างทั่วไป แม้ได้เงินไม่มาก แต่ก็พออยู่พอกิน รายจ่ายมีไม่มาก เนื่องจากพักอยู่บ้านตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าเช่าและไม่ต้องซื้ออาหารกิน ที่สำคัญไม่ต้องหมดเงินไปกับยาเสพติด” เสือเล็บ กล่าว