เวทีสัมมนาวิชาการ
“พื้นที่การเมืองของภาคประชาสังคมในความขัดแย้งชายแดนใต้/ปาตานี”
23 พฤษภาคม 2560
ณ โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท ปัตตานี
1. หลักการและเหตุผล
สถานการณ์การณ์ความรุนแรงของปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มปะทุขึ้นมาตั้งแต่เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกเข้าปล้นอาวุธปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บ้านปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2547 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มที่ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงยาวนานก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 ส่งผลให้ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 และผู้บาดเจ็บ กว่า 12,000 ขณะที่ภาครัฐจำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาลเดียวกันในการแก้ไขปัญหา ความรุนแรงดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการดำรงชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังสะท้อนปัญหาที่มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อนและเชื่อมโยงในหลายมิติ ทั้งสังคม การศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคง และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมาตั้งแต่อดีต
ใจกลางของปัญหาความขัดแย้งรุนแรง คือ ความแตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรมระหว่างชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่และส่วนอื่นๆของประเทศสะท้อนให้เห็นปัญหาความขัดแย้งในเชิงชาติพันธุ์และความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่เกิดจากปัญหาการปกครองต่างๆ ของรัฐที่มุ่งตอบสนองนโยบายหลักของส่วนกลางมากกว่า ซึ่งทำให้ประชาชนรู้สึกถึงการไม่ได้รับความเป็นธรรม เงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ได้เร่งการปรากฏขึ้นของกลุ่มต่อต้านรัฐ ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีฐานของอุดมการณ์ทางศาสนา ชาติพันธุ์และประวัติศาสตร์รองรับ บวกกับปัญหาของความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ ความเปราะบางระหว่างสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับประชาชนนำไปสู่ความหวาดระแวงต่างๆ เกิดการปิดกั้น กดทับ พื้นที่ทางการเมืองของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นหรือสะท้อนเสียงของประชาชนในช่วงแรกเริ่มของความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้พื้นที่การเมืองดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกกดทับไปด้วยบรรยากาศของความหวาดกลัวและความรุนแรงทั้งหมด
ความพยายามของประชาสังคมซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญภาคส่วนหนึ่งในการเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา ต่างเป็นตัวแทนเสียงสะท้อนของผู้คนซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด หากเราพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่ามีองค์กรประชาสังคมเกิดขึ้นอย่างมากมายและหลากหลาย ทั้งได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานรัฐและแหล่งทุนต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดบรรยากาศของการเคลื่อนไหวประเด็นทางสังคมที่เป็นผลมาจากความขัดแย้งรุนแรงในชายแดนใต้ บทบาทขององค์กรประชาสังคมในพื้นที่บ่อยครั้งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากขึ้นในแวดวงที่ติดตามแก้ไขปัญหาความรุนแรงในชายแดนใต้ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางในการแก้ไขปัญหาไปสู่การใช้สันติวิธีและการกระบวนการทางการเมืองที่มีความชัดเจน โดยเฉพาะการปรากฏขึ้นของกระบวนการพูดคุยสันติภาพอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ระหว่างรัฐบาลไทยและตัวแทนของขบวนการ BRN แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลายแต่จนถึงปัจจุบันกระบวนการสันติภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการหรือวิถีทางทางการเมืองได้รับเสียงสนับสนุนและยอมรับจากคู่ขัดแย้งและหลากหลายภาคส่วน
จะเห็นได้ว่าในสถานการณ์ของความขัดแย้ง บทบาทผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ระหว่างผู้ที่ใช้ความรุนแรงทั้งสองฝ่าย (รัฐและกลุ่มต่อต้านรัฐ) เพื่อแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆ รวมทั้งการสร้างความเข้าใจและประสานประโยชน์ระหว่างรัฐกับประชาชนได้ก่อตัวขึ้นอย่างมาก บทบาทดังกล่าวเริ่มทวีความสำคัญมากขึ้นท่ามกลางวิกฤติความรุนแรงและภายใต้สภาวะทางการเมืองทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ที่อาจเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะไม่นำไปสู่การสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและถาวร ในห้วงเวลาสำคัญนี้ การพยายามทำความเข้าใจต่อสาธารณะร่วมกันต่อนัยยะสำคัญของพื้นที่การเมืองกับภาคประชาสังคมจึงมีความหมายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความหมายของพื้นที่การเมืองกับการขับเคลื่อนของภาคประชาสังคม ความเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีความสำคัญซึ่งมีผลต่อทำให้พื้นที่ทางการเมืองของภาคประชาสังคมถูกเปิดออกหรือนำไปสู่การปิดกั้น และสุดท้ายภาคประชาสังคมต้องทำดำเนินการอย่างไรที่เป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน การสะท้อนมุมมองจากนักวิชาการและผู้ปฏิบัติงานด้านความขัดแย้งและสันติภาพจะช่วยให้เห็นทิศทางที่เป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนงานของภาคประชาสังคมชายแดนใต้/ปาตานีในอนาคต
2. วัตถุประสงค์
1. เปิดเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิชาการ นักปฏิบัติการและภาคประชาสังคม เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในพื้นที่ความขัดแย้ง
2. เสริมสร้างองค์ความรู้และศักยภาพ ในระดับภูมิภาคชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการขับเคลื่อนการสร้างสันติภาพ
3. เพื่อให้ภาคประชาสังคมและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าใจและสามารถติดตามสถานการณ์การพูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
3. กลุ่มเป้าหมาย
ตัวแทนจากองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ ภาควิชาการ และภาครัฐ รวม 200 คน
4. องค์กรร่วมจัด
1. สภาประชาสังคมชายแดนใต้
2. สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
3. สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
5. เวลาและสถานที่
08.30-16.00 น. ณ โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท จังหวัดปัตตานี
กำหนดการ
เวทีสัมมนาวิชาการ
“พื้นที่การเมืองของภาคประชาสังคมในความขัดแย้งชายแดนใต้/ปาตานี”
23 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องพิมมาดา โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท ปัตตานี
จัดโดย สภาประชาสังคมชายแดนใต้
สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้
และสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
08.30 - 09.00 น. ลงทะเบียน
09.00 - 09.30 น. พิธีเปิดเวทีสัมมนาวิชาการ โดย ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้
09.30 – 10.00 น. เวทีนำเสนอผลงานวิจัย บทเรียน 12 ปีพัฒนาการและบทบาทของประชาสังคมกับกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้และการจัดทำแผนที่เดินทางของสภาประชาสังคมชายแดนใต้
โดย
รศ.ดร.ฉันทนา บรรพศิริโชติ หวันแก้ว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นางฟารีดา ปันจอร์ อาจารย์นักวิจัย สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
10.00 – 10.15 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.15 – 12.30 น. เวทีอภิปรายวิชาการ พื้นที่การเมืองของภาคประชาสังคมในความขัดแย้งชายแดนใต้/ปาตานี
1. พื้นที่การเมืองกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมในประเทศไทย โดย ศ.สุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์สันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. ภาคประชาสังคมชายแดนใต้กับพื้นที่การเมืองในชายแดนใต้/ปาตานี โดย ผศ.ดร. อับดุลรอนิง สือแต อาจารย์ประจำวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
3. บทบาทภาคประชาสังคมในกระบวนการสันติภาพใน อาเจะห์ มินดาเนา และเมียนมาร์ โดย Dr.Delsy Ronnie ผู้อำนวยการ Nonviolent Peaceforce ประเทศฟิลิปปินส์
12.30 – 13.30 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.30 – 14.30 น. เวทีเสวนาสาธารณะ พื้นที่การเมืองและที่ทางของกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี
โดย
1. นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม หัวหน้าสำนักงานเลขานุการคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้
2. นพ.อาบูฮาฟิซ อัลฮากิม โฆษก MARA Patani
3. นายรอมฏอน ปันจอร์ บรรณาธิการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้
ผู้ดำเนินรายการโดย อาจารย์อับดุลการิม อัสมะแอ อาจารย์ประจำคณะอิสลามศึกษาและนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
14.30 – 16.00 น. อภิปรายทั่วไปและปิดเวที โดย ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
พิธีกรตลอดรายการ
1. นางสาวสุวรา แก้วนุ้ย อาจารย์นักวิจัย สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
2. นายสะรอนี ดือเระ บรรณาธิการ Sinaran News Online ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้