ผมไปมาแล้ว ปอเนาะญีฮาด เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมรับรู้ได้ว่า แม้ศาลจะตัดสินอย่างยุติธรรมให้ริบทรัพย์ที่ดินปอเนาะให้เป็นของแผ่นดิน แต่ความสูญเสียมากมายที่ครอบครัวแวมะนอได้รับนั้นก็สร้างความสะเทือนใจและเกิดความรู้สึกเห็นใจของผู้คนในพื้นที่อย่างมาก การจัดงานกินข้าวยำเพื่อหาทุนซื้อที่ดินสร้างปอเนาะหลังใหม่ในวันนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับมาร่วมงานให้กำลังใจอย่างล้นหลามหลายหมื่นคน สะท้อนถึงความรู้สึกไม่เป็นธรรมของคนพื้นที่ในความเป็นธรรมของรัฐไทย
สำหรับผมในสายตาคนพุทธคนหนึ่ง นี่คือกระบวนการแสดงออกอย่างสันติวิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของแผ่นดินไทย และนี่ก็คือกระบวนการอารยะขัดขืนอย่างสงบที่สุดครั้งสำคัญที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก อำนาจรัฐแสดงออกด้วยปืนด้วยกองทัพด้วยศาลด้วยตำรวจ ส่วนอำนาจประชาชนผู้มีสองมือสองเท้าเขากลับแสดงออกอย่างสันติด้วยการมาเยี่ยมเยียนเพื่อนผู้ทุกข์ยาก มากินข้าวยำ มาบริจาคเงินซื้อที่ดินใหม่ มาให้กำลังใจครอบครัวแวมะนอ ไม่มีความรุนแรง ไม่มีการกดดันรัฐให้คืนที่ดิน ไม่ใช่การรวมตัวประท้วง
ขอรัฐไทยอย่ามองปรากฏการณ์นี้เป็นอื่น ขอให้มองว่านี่่คือการแสดงออกอย่างสันติที่สุด เป็นอารยะขัดขืนที่สุภาพที่สุด และเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่สุดของประชาชนในการมาเยี่ยมเยียนเพื่อนร่วมชะตากรรมในสถานการณ์ไฟใต้ที่ยาวนาน เป็นความงดงามที่ประชาชนเขาเลือกใช้สัญญะด้วยสันติวิธี ปฏิบัติการทางสังคมที่ไร้ความรุนแรงโดยสิ้นเชิง แต่ทรงพลังยิ่งในการสื่อสารกับรัฐไทย
สำหรับผม นี่คือการอารยะขัดขืนที่งดงามที่สุดเท่าที่ชีวิตผมเคยพบเห็นมา