โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีนกับบทเรียนโครงการชายแดนใต้
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
[email protected], http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา44
ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) มีคำสั่งที่ 30/2560 เรื่อง มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ–นครราชสีมา ด้วยการ ยกเว้นการใช้กฎหมายกว่า 10 ฉบับ ให้กับ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน
ต้องถือเป็น “คำสั่งนี้เป็นคำสั่งประวัติศาสตร์” ก็ว่าได้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และข้อกังวลมากมาย เช่น ผู้ประกอบการหวั่น จะกระทบอุตสาหกรรมภายใน ธุรกิจเหล็ก เป็นการตัดโอกาส งานออกแบบวิศวกรไทยเพราะ ที่ปรึกษา วิศวกร แรงงาน ให้จีนคุมเบ็ดเสร็จ
ในงานเสวนา "รถไฟไทย-จีน: ใครได้ ใครเสีย" จัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการส่วนใหญ่ ไม่ว่าเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ต่างสะท้อนความกังวลใจพร้อมกัน
http://www.bbc.com/thai/thailand-40369155
ที่สำคัญที่สุดคือความชอบธรรมและธรรมาภิบาลรัฐ ที่รัฐคนดีอ้างมาตลอดตั้งไว้จุดใดหรือ ที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้สื่อสาระสำคัญ (key message) ให้สังคมรับรู้ถึงความพยายามทำให้เกิดธรรมาภิบาลในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่
จากเหตุผลหลายๆองค์ประกอบทำให้อยากในการตรวจสอบและมีโอกาสหรือเป็นช่องทางทุจริตในอนาคตและเมื่อถึงวันนั้นประชาชนรู้ก็สายไปแล้ว ซึ่งหลายๆโครงการในชายแดนใต้กำลังออกสู่สายตาประชาชนในภาวะคนทำงานของรัฐมีโอกาสอนุมัติงบประมาณก้อนโตโดยขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภายใต้รัฐบาลอำนาจเบ็ดเสร็จ
ตัวอย่างโครงการใหญ่ๆชายแดนใต้ที่กำลังเกิดปัญหา
ช่วงเดิอน สองเดือนนี้ สื่อ ไทย กำลังขุดคุ้ย การใช้งบประมาณ ที่มีปัญหาของภาครัฐ โดยเฉพาะศอ.บต. ไม่ว่าโครงการปรับปรุงมัสยิด 300 ปี หลายร้อยล้าน ปรับปรุงสนามกีฬานราธิวาสเกือบพันล้าน ติดตั้งไฟฟ้าโซล่าเซล หลายแห่งหรือทุกแห่งแต่ติดๆดับๆ และล่าสุด โครงการสร้างสนามฟุตซอลทุกตำบลแต่ใช้งานไม่ได้
โครงการเหล่านี้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำทำให้มีโอกาสทุจริตและเสียหาย ถ้าประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการต่างๆปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดหรือเกิดก็น้อยมาก อย่างโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าโชล่าเซลของเทศบาลปริก ที่ยังสามารถใช้งานและราคาถูกกว่า
ไม่เพียงโครงการนี้จากการที่ผู้เขียนเข้าไปสัมผัสชุมชนเทศบาลปริก( บริหารโดยนายกเทศมนตรี 3 สมัย นายสุริยา ยีขุน ) โดย พาคนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปดูศึกษางานที่นี่ 8 รุ่นรุ่นละ 5 วัน 5 คืน 120 คน ปรากฎ ว่า ประชาชนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกโครงการของเทศบาลปริกผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชนต้นน้ำ กลางนำและปลายน้ำ ทำให้ไม่มีปัญหาการใช้งาน ไม่มีปัญหาการทุจริต อีกทั้งประชาชนช่วยดูแล และซ่อมแซม (โปรดดู
http://www.now26.tv/view/103648, http://news.thaipbs.or.th/content/263218, http://news.thaipbs.or.th/content/263642)
ในโลกโซเซียลชายแดนใต้ตั้งข้อสังเกตว่าไม่เพียงแต่ศอ.บต.ที่ควรเข้าตรวจสอบแต่อีกองค์กรหนึ่งที่มีงบประมาณมากที่สุด ขาดมีส่วนร่วมมากที่สุด คือกอ.รมนภาค 4 และกองทัพ
โครงการใหญ่อีกโครงการหนึ่งคือ การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เทพา รัฐก็ไม่ควรใช้ม.44ในการทำประชาพิจารณ์ และ EHIA(การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ) และอย่าทำแบบพิธีกรรมให้แค่ถูกตามกฏหมาย รวมทั้งจะต้องไม่ ปิดกั้นการมีส่วนร่วมทุกกลุ่มโดยเฉพาะของกลุ่มคัดค้าน และผู้รับทำ EHIA ซึ่งก็เป็นนักวิชาการด้วยกัน
หากเป็นไปได้ ควรต้องมีการปฏิรูประบบการจัดทำ EHIA ของประเทศ ต้องมีการศึกษา SEA ด้วย (การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ คือศึกษาภาพรวมไม่ใช่ทำแต่เป็นรายโครงการ) และต้องให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตตนเองอย่างจริงจัง
ข้อสังเกตในโครงการต่างๆชายแดนใต้ก็น่าจะมีแน้วโน้มไม่ต่างกันกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีนในอนาคต