‘ลองกอง’ราคาดิ่งเหว
เกษตรกรบ่นขาดทุนยับ
อิบรอเฮม สาแล
กลุ่มบูหงารายา
Bungaraya Group
ลองกองราคาตก เกษตรกรขาดทุนยับ วอนรัฐช่วยด่วน เจ้าของสวนถอดใจเตรียมโค่นทิ้ง การค้าภายใน ดึงงบไทยเข้มแข็งช่วย รับซื้ออิงราคาตลาด
นายมะลาเซ็ง แบรอ ประธานศูนย์คัดแยกผลไม้ชุมชน สำนักงานเกษตรอำเภอหนองจิก บ้านตุยง หมู่ที่ 2 ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังประสบปัญหาราคาลองกองตกต่ำ ทั้งนี้ราคา ณ วันที่ 26 กันยายน 2553 ลองกองเกรด A ราคา 16 บาท เกรด B ราคา 12 บาท เกรด C ราคา 8 บาท เกรดคละราคา 8 บาท ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นเกรด C และเกรดคละ ราคาดังกล่าวต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
นายมะลาเซ็ง กล่าวว่า จนถึงตอนนี้รัฐยังไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือ ตามที่รับปากกับเกษตรกรไว้ ทำให้สมาชิกบางคนยอมขายในราคาขาดทุน เพราะคิดว่าดีกว่าปล่อยให้ผลผลิตเน่า ยิ่งปลูกยิ่งขาดทุน ตนต้องการให้รัฐทำตามที่รับปากไว้กับชาวบ้าน ในราคาที่เป็นมาตรฐานสามารถอ้างอิงได้ สำหรับต้นทุนการขนส่งของศูนย์เฉลี่ยอยู่ที่ 2–3 บาทต่อกิโลกรัม และอยากให้มีการบริโภคลองกองกันมากขึ้นจะ ได้ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีงานทำและเป็นที่ระบายสินค้า
“ศูนย์มีสมาชิก 200 คน มีนายแวยีดิง แวสะมะแอ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ หน้าที่หลักของศูนย์ รับซื้อลองกองจากชาวบ้าน ในอำเภอหนองจิก เมื่อปี 2552 ทางศูนย์ฯ รับซื้อลองกองจากชาวบ้านโดยได้รับเงินอุดหนุนในการจัดการจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในราคา 5 บาทต่อกิโลกรัม แยกเป็น 2 บาท เป็นค่าบริหารจัดการ อีก 3 บาทเป็นค่าขนส่ง จากนั้นนำไปขายส่งที่ตลาดราชบุรี ตลาดสี่มุมเมือง"
นางพรพิศ สิทธิโชค นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า พื้นที่ปลูกลองกองในจังหวัดปัตตานี ปี 2553 มีทั้งหมด 22,952 ไร่ ให้ผลผลิต 19,933 ไร่ ได้ผลผลิต 2,910 ตัน เฉลี่ยผลผลิต 146 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนการปลูกลองกองปี 2552 ราคา 13 บาทต่อกิโลกรัม ปี 2553 ราคา 18.90 บาทต่อกิโลกรัม ราคาลองกองในวันที่ 24 กันยายน 2553 เกรด A 22 บาท เกรด B18 บาท เกรด C 10 บาท เกรดคละ 8 บาท ผลผลิตส่วนใหญ่จะเป็นเกรด C และเกรดคละ เห็นได้ชัดว่าราคาลองกองต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
นางพรพิศ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับลองกองปี 2553 มี 2 รุ่น รุ่นแรกออกเมื่อเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม 2553 ตอนนี้เป็นรุ่นที่ 2 ผลผลิตจะออกมาพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ที่จังหวัดยะลาราคาตกกว่าปัตตานี เพราะที่จังหวัดปัตตานีสำนักงานการค้าภายในจังหวัด เข้าไปรับซื้อผลผลิตจากศูนย์คัดแยกฯ 17 แห่ง ของสำนักงานเกษตรจังหวัด แยกเป็นศูนย์คัดแยกของสหกรณ์จังหวัด 11 ศูนย์ ศูนย์คัดแยกของสหกรณ์การเกษตร 6 ศูนย์ โดยใช้งบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นการจัดซื้อภายใต้กลไกตลาดอิงราคาพ่อค้าคนกลาง ไม่มีการแทรกแซงราคา
นางนงลักษณ์ โกสิยะพันธ์ การค้าภายในจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาการค้าภายในจังหวัดปัตตานี ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตด้านการเกษตร ภายใต้โครงการพัฒนาตลาดและระบบตลาดทุกระดับ กิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตของจังหวัดชายเดนภาคใต้ 2553 ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม ถึง 29 กันยายน 2553 เน้นการจำหน่ายลองกองจาก 3 จังหวัดชายเดนภาคใต้เป็นหลัก โดยใช้งบประมาณของกรมการค้าภายใน 3 แสนกว่าบาท งบจากโครงการไทยเข้มแข็งอีก 2 ล้านกว่าบาท ผู้เข้าร่วมโครงการคือศูนย์คัดแยกผลผลิตฯ ซึ่งมีอยู่ 14 ศูนย์ แต่คราวนี้เข้าร่วมเพียง 8 ศูนย์ เป็นศูนย์คัดแยกฯ ของสหกรณ์ 1 แห่ง ศูนย์คัดแยกฯ ของชุมชน 6 แห่ง และศูนย์คัดแยกฯ วิสาหกิจชุมชนอีก 1 แห่ง
นางนงลักษณ์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนปริมาณการรับซื้อในช่วงจัดกิจกรรม ขึ้นอยู่กับคำสั่งซื้อของจังหวัดปลายทาง เช่น เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 จังหวัดชลบุรีสั่งซื้อ 2,800 กิโลกรัม ส่งโดยรถปิกอัพ 4 ล้อ ทางศูนย์ฯ จะรับซื้อราคานำตลาดกิโลกรัมละ 2 บาทจากชาวบ้าน บวกค่าการคัดแยก บรรจุกล่อง 2.50 บาทต่อกิโลกรัม ค่าขนส่งไปจังหวัดชลบุรี 4.50 บาทกิโลกรัม ค่าบริหารจัดการ 1 บาทต่อกิโลกรัม รวม 5 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น สำหรับยอดการรับซื้อของศูนย์คัดแยกฯ ตลอดช่วงงานกิจกรรมการส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตฯ รวมทั้งสิ้น 861,127 กิโลกรัม เป็นเงิน 15,487,980 บาท
นางจุลี ดำขำ แม่ค้าตลาดมะกรูด เปิดเผยว่า ตนได้ขายลองกองจำนวน 20 กิโลกรัมต่อวันจากตลาดสดพิธาน จังหวัดปัตตานีเพื่อมาขายต่อ โดยราคาของลองกองเกรด A ซื้อมาที่ราคา 25 บาท ราคาขาย 30 บาท เกรด B ซื้อมาราคา 20 บาท ขายที่ 25 บาท จะต้องขายให้ให้หมดภายใน 2 วัน มิฉะนั้นลองกองจะเน่าเสีย ขายไม่ออก อยากให้มีการบริโภคลองกองให้มากขึ้น ช่วยเกษตรกรมีรายได้มากขึ้น
นางฟาตีเมาะ แวอาลี เกษตรกรอำเภอหนองจิก เปิดเผยว่า ตนได้ปลูกลองกองบนพื้นที่ 7 ไร่ ต้นทุนในการดูแลตั่งแต่ออกดอกจนกระทั่งเก็บผลผลิต เป็นค่าปุ๋ย ค่าสูบน้ำ ค่าจ้างประมาณเกือบ 2 หมื่นบาท ผลผลิตที่ออกมาส่วนใหญ่แล้วเป็นเกรด C และคละซึ่งมีราคาตกประมาณ 6 - 7 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อคิดเป็นเงินทั้ง 7 ไร่แล้วประมาณ 14,000 - 15,000 บาทต่อปีโดยประมาณ ยังไม่รวมค่าแรงงาน ตนมีสวนลองกองอยู่ประมาณ 4 ไร่ ตอนนี้ขาดทุน จะเปลี่ยนไปปลูกต้นกล้วย 3 ไร่แทน
นายมูฮัมหมัด สาแล เกษตรกรอำเภอยะรัง กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำสวน มีสวนยางพาราประมาณ 10 ไร่เศษ มีสวนลองกองประมาณ 5 ไร่เศษ ปี 2552–2553 ราคาลองลองถูกมาก ไม่คุ้มค่าจ้างเก็บผลผลิต 3 บาทต่อกิโลกรัม ขายในกิโลกรัมละ 8–10 บาท ไม่คุ้มค่ากับค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำ และอื่นๆ อยากเสนอให้รัฐบาลช่วยเกษตรกรด้วย
http://www.bungarayanews.com/news/view_news.php?id=517
หมายเหตุ ผลงานของผู้เข้าร่วมอบรมการเขียนข่าวเบื้องต้น
ศูนย์อบรมผู้ผลิตสื่อ INTERNEWS
ร่วมกับ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี