คาร์บอมบ์บิ๊กซีปัตตานีเจ็บ 67 ราย ภาคประชาสังคมร้องยุติความรุนแรงต่อพลเรือน-ผู้อ่อนแอ
เหตุระเบิดบิ๊กซี ปัตตานี บาดเจ็บ 67 ราย ภาคประชาสังคมออกแถลงการณ์ร้องยุติการใช้ความรุนแรงเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง กระทบต่อพลเรือนและผู้อ่อนแอ ยูนิเซฟประเทศไทยร่วมประณามเหตุรุนแรงหลังพบเด็กบาดเจ็บจากเหตุการณ์
วันนี้ (9 พ.ค 2560) เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า บริเวณลานจอดรถด้านห้างบิ๊กซีปัตตานี ส่งผลกระทบให้ลานจอดรถและร้านค้าบริเวณหน้าบิ๊กซีได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เวลา 17.00 น. หลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมความเรียบร้อยบริเวณเหตุระเบิดหน้าห้างบิ๊กซีได้ปล่อยให้ประชาชนนำรถออกมาจากบริเวณลานจอดรถได้แล้ว และมีการยืนยันจำนวนข้อมูลผู้ได้รับบาดเจ็บโรงพยาบาลปัตตานี มีจำนวน 67 ราย โดยมีเด็กได้รับบาดเจ็บ 5 ราย โดยมีสำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. ศูนย์เยียวยสจังหวัดปัตตานี และศูฯย์เยียวยาอำเภอเมืองปัตตานี ได้จัดตั้งศูนย์ประสานการช่วยเหลือทายาทของผู้ได้รับผลกระทบฯ ณ ห้องระเบียง โรงพยาบาลปัตตานี
หลังเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ มีกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนสังคมออกแถลงการณ์ผ่านโซเซียลมีเดียแสดงความเสียใจและเรียกร้องทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนและผู้อ่อนแอ
=========
แถลงการณ์ กลุ่มด้วยใจ (เผยแพร่วันที่ 9 พฤษภาคม 2560)
สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองของเด็กในจังหวัดชายแดนใต้
ใกล้จะเปิดเทอมแล้วพ่อ แม่ ผู้ปกครอง และเด็ก ตัวน้อยๆ ต่างก็พากันไปหาซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เสื้อผ้า อาภรณ์ สำหรับเปิดเทอมใหม่ให้กับลูกหลานของตนเอง บิ๊กซี ซึ่งเป็น ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่และมีสินค้าราคาถูกมากมายสำหรับประชาชนทุกคน แต่วันนี้ 9 พฤษภาคม 2560 เสียงหัวเราะที่แสดงถึงความสุขของเด็กคนหนึ่งที่จะได้เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าใบใหม่ไปโรงเรียนกลับกลายเป็นเสียงกรีดร้องแสดงถึงความเจ็บปวดจากแรงระเบิดและสะเก็ดของมันที่มาโดนเด็ก พ่อ แม่ และ ผู้ปกครอง
เมื่อ วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เกิดเหตุระเบิดในอำเภอเมืองจังหวัดปัตตานีมาแล้ว ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก กลุ่มด้วยใจก็เคยเรียกร้องไปแล้วถึงผลกระทบของระเบิดที่ทำให้เด็กต้องสูญเสียขาไปหนึ่งข้างตลอดชีวิต แม่ที่สูญเสียลูกชายอนาคตไกล ลูกที่สูญเสียมารดา มาวันนี้คำร้องขอของเราไม่ได้ผล แล้วอะไรเล่าที่จะทำให้หัวใจของผู้กระทำได้มองเห็นความทุกข์ยากเจ็บปวดของผู้เป็นเหยื่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เด็กทุกคนจะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง
กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 มาตรา 3 ในกรณีที่ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธไม่ใช่ความขัดแย้งระดับนานาชาติ หากแต่เกิดขึ้นภายในอาณาเขตของรัฐภาคี อย่างน้อยที่สุด ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งมีพันธะผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานดังต่อไปนี้
(1) บุคคลใดที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้ง รวมถึงสมาชิกของกองกำลังที่วางอาวุธ และสมาชิกของกองกำลังที่เจ็บป่วย, บาดเจ็บ, ถูกคุมขัง หรือเหตุอื่นๆ ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว ศาสนาหรือความเชื่อ เพศ กำเนิดหรือความมั่งมี หรือเกณฑ์อื่นที่ใกล้เคียงกัน
(a) การใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆาตกรรมทุกชนิด การทำให้พิการ การปฏิบัติที่โหดร้าย และการทรมาน
ในหลักการศาสนาไม่ว่าศาสนาใดๆการกระทำลักษณะนี้ก็เป็นการละเมิดหลักศาสนาด้วยเช่นกัน กลุ่มด้วยใจขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และขอเรียกร้องให้ผู้กระทำ ผู้สั่งการได้พิจารณาการยุติการใช้ความรุนแรงเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองของตนเองหรือเพื่อผลประโยชน์ของตน และเรียกร้องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรมดำเนินการนำคนผิดมาลงโทษและแสวงหาแนวทางในการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้อย่างจริงจังเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อเด็กและประชาชนผู้บริสุทธิ์ในระยะยาว
กลุ่มด้วยใจ
.
แถลงการณ์ ยูนิเซฟ ประเทศไทย ต่อเหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี
“จากรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุระเบิด ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานีเมื่อบ่ายวันนี้ ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน โดยในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย ยูนิเซฟขอประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งเป็นการก่อเหตุในสถานที่ที่ทราบกันดีว่ามีเด็กและประชาชนอยู่พลุกพล่าน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะไม่ควรมีเด็กคนใดต้องตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายเช่นนี้”
Statement Attributable to Thomas Davin, Representative, UNICEF Thailand, on the indiscriminate attack in Pattani
“According to reports, children are among the dozens of people injured in the bomb attack on a large and busy shopping centre in Pattani, Thailand, this afternoon. UNICEF condemns such indiscriminate attacks on civilian areas, where children and their families are known to be present. No child’s life should ever be put at risk in this way. This is wholly unacceptable.”
ที่มา http://www.citizenthaipbs.net/node/19392