ค่ายภาษานำจริยธรรม
โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
[email protected], http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
เมื่อวันที่ 5-7 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา ชมรมมุสลิมสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นำโดยอาจารย์สุกรี บุญเทพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้จัดโครงการ ค่ายภาษานำจริยธรรม ครั้งที่ 3 (Language Leads Ethics Camp 3rd ) ขึ้นที่ โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ. สงขลา โดยมีนักศึกษาจากชมรมฯเข้าร่วม 40 คนและนักเรียนชั้น ม.1 เข้าร่วมเป็นน้องค่ายประมาณ 130 คน
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดค่ายในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้น (motivation) ให้เด็กนักเรียนได้เห็นถึงความสำคัญของภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ และภาษามลายู และยังมีวิชาอาเซียน โดยมีการถ่ายทอดสู่น้องๆนักเรียนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดเป็นห้องเรียน เพลง เกมส์ และกิจกรรมสันทนาการ นอกจากนั้นยังมีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมให้แก่นักเรียนอีกด้วย ซึ่งนักศึกษาจากชมรมมุสลิมสัมพันธ์ ม.หาดใหญ่ ได้นำเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากรั้วมหาวิทยาลัย มาประยุกต์ใช้ในค่าย โดยมีนักศึกษาจากคณะต่างๆเช่น คณะรัฐศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะบริหารธุรกิจและวิทยาลัยนานาชาติดิษยะศริน เข้าร่วม
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในค่ายทั้งนักเรียนผู้เข้าร่วมและนักศึกษาที่เป็นพี่ค่ายต่างก็ได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย เช่น การเรียนการสอน ในรายวิชาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ และภาษามลายู วิชาอาเซียน กิจกรรมสันทนาการและกิจกรรม walk rally โดยเฉพาะกิจกรรม Walk rally ที่เป็นการฝึกน้องๆนักเรียนในเรื่องต่างๆ เช่น ฐานความเสียสละ ฐานระเบียบวินัย ฐานสามัคคี ฐานความเป็นผู้นำ เป็นต้น สังเกตเห็นแววตาและรอยยิ้มของทั้งพี่ค่ายและน้องค่ายสัมผัสได้ว่าทุกคนมีความสุขกับค่ายนี้มาก
นายนิอิมรอน แวมามะ คณะรัฐศาสตร์ ประธานชมรมฯ และประธานจัดค่ายครั้งนี้กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ได้ทำค่ายครั้งนี้ ได้นำความรู้และประสบการณ์ในห้องเรียนมามอบให้น้องๆ ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องๆรักในการเรียนภาษาต่างประเทศ และที่สำคัญการทำกิจกรรมจะฝึกให้เรามีความพร้อมก่อนที่จะออกจากรั้วมหาวิทยาลัยอีกด้วย”
นางสาวนูรไอนา คาร์เด คณะบริหารธุรกิจและประธานชมรมฯ(อามีเราะห์)ฝ่ายหญิง กล่าวว่า “เป็นค่ายที่รู้สึกว่าครบรสได้ฝึกการทำงานจริงอย่างเต็มรูปแบบที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตาเห็นน้องๆ หัวเราะ สนุกสนาน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอย่างดี รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ ได้และยังได้รับมิตรภาพดีๆ จากเพื่อนร่วมงานที่ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานเป็นทีมได้ทุ่มเท ร่วมทุกข์ ร่วมสุขด้วยกัน”
นางสาวอีมาน ดือราโอะ คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ในฐานะพี่เลี้ยง กล่าวว่า "ดิฉันรู้สึกดีใจและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้มาค่ายในครั้งนี้ และมีการต้อนรับจากทางโรงเรียนและน้องๆอย่างอบอุ่น น้องๆทุกคนน่ารักและให้ความร่วมมือได้ดี และขอบคุณ ความรัก ความอบอุ่น และมิตรไมตรีที่น้องมอบให้พี่ๆ ขอบคุณที่เรามีกันและมีความรู้สึกดีๆต่อกันนะคะ”
นางสาวมัสรา จะปะกียา คณะศึกษาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ในฐานะพี่เลี้ยง กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้มาทำค่ายที่นี่และอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างยิ่งกับการต้อนรับจากทางโรงเรียนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรี แน่นอนการทำงานศาสนาของพระองค์ (การทำค่าย) ย่อมมีบททดสอบ ยิ่งบททดสอบหนักเท่าไร อัลลอฮก็ทรงรักเรามากเท่านั้น"
นายไฟซอล เจ๊ะเซ็ง คณะบริหารธุรกิจในฐานะพี่เลี้ยง กล่าวว่า "ผมไม่เคยคิดจะท้อหรือเหนื่อยกับหน้าที่ตรงนี้เพราะมันคือความสุข ความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีต่อน้อง ถึงแม้บางครั้งก้ออาจจะมีอุปสรรคหลายๆอย่าง ผมก้อพยายามแก้ปันหาในจุดๆนั้น ที่จะให้น้องรู้สึกรักและไม่อยากพี่จากไปเลยซึ่งทุกอย่างที่กระทำพูดได้เลยว่าเต็มใจที่จะทำมัน”
นางสาวอารดา ลาวัลย์ คณะบริหารธุรกิจ ในฐานะศิษย์เก่า ได้กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาจัดกิจกรรมที่โรงเรียนอีกครั้ง ตนเองได้เล่าประสบการณ์สมัยเป็นนักเรียนที่นี่ให้น้องๆฟัง ซึ่งได้รับความสนใจจากน้องๆเป็นอย่างมาก และหวังว่าตนเองสามารถเป็นตัวอย่างให้กับน้องๆทั้งในด้านการเรียนและด้านกิจกรรม”
สำหรับค่ายภาษานำจริยธรรม ครั้งที่ 3 (Language Leads Ethics Camp 3rd ) ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอชุโกรต่ออัลเลาะห์ (ซ.บ.) ที่ได้ประทานความง่ายดายและให้ค่ายนี้ประสบความสำเร็จทุกคนที่เข้าร่วมทั้งพี่ค่ายและน้องค่ายต่างได้รับรอยยิ้มและมิตรภาพที่ดีและจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคนตลอดไป
หมายเหตุ ขอบคุณข้อมูลและภาพจากอาจารย์ สุกรี บุญเทพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
