Skip to main content
เครือข่ายสื่อภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้
ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้
 
 
สำรวจชุมชนรอบอ่าวปัตตานีเสียหายหนักจากพายุ บ้านพัง 700 กว่าหลัง ชาวบ้านยังรอความช่วยเหลือ
 
 
บรรยายภาพ: สภาพบ้านดาโต๊ะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
 
นางสาวละม้าย มานะการ เจ้าหน้าที่หน่วยพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติและเครือข่ายเรียนรู้ท้องถิ่น เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยและลมพายุในพื้นที่รอบอ่าวปัตตานีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา และการช่วยเหลือล่าสุดว่า มีความเสียหายเป็นวงกว้าง ชาวบ้านยังประสบกับความยากลำบาก โดยเฉพาะบ้านที่ได้รับความเสียหายจากลมพายุ เนื่องจากไม่มีอาหาร น้ำ และที่หลับนอน
นางสาวละม้าย กล่าวว่า ตอนนี้ น่าจะเข้าถึงทุกพื้นที่แล้ว โดยข้อมูลการสำรวจล่าสุด พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 723 หลัง โดยเสียหายทั้งหลัง 26 หลัง และเรือประมงได้รับความเสียหายอีกหลายร้อยลำ เมื่อแยกพื้นที่ความเสียหายรอบอ่าวปัตตานี มีดังนี้
พื้นที่บ้านบางตาวา ตำบลบางตาวา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีบ้านเรือนเสียหาย 284 หลังคาเรือน โดยเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 หลัง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบางตาวา ให้ความช่วยเหลือโดยมอบกระเบื้องมุงหลังคาแล้ว รวม 200 แผ่น
พื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านเสียหายบางส่วน 70 - 80 หลังคาเรือน ทาง อบต.บางตาวา ได้มอบกระเบื้องและสังกะสีแล้ว ส่วนเรือประมงในพื้นที่หมู่ที่ 1 เสียหาย 32 ลำ
พื้นที่หมู่ที่ 2 เสียหาย 17 หลังคาเรือน โรงเรียนบ้านบางตาวาพังเสียหายทั้งหมด 4 อาคาร ชาวบ้านได้รับถุงยังชีพพระราชทาน 130 ถุงต่อหมู่บ้าน
พื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านดาโต๊ะ ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี บ้านเรือนเสียหาย 32 หลังคาเรือน เรือเสียหายประมาณ 100 ลำ ส่วนความต้องการทางตำบลแหลมโพธิ์ ต้องการเตาแก๊ซ ถังแก๊ซและชุดเครื่องครัว 20 ชุด เนื่องจากขาดอุปกรณ์ทำอาหาร
พื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านบูดี ตำบลแหลมโพธิ์ บ้านเสียหายทั้งหลัง 4 หลัง เสียหายบางส่วน 50 หลัง
พื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านปาตาบูดี ตำบลแหลมโพธิ์ บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 6 หลัง เสียหายบางส่วน 150 หลังคาเรือน
บ้านบางปลาหมอ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 10 หลังคาเรือน
หมู่ที่ 1 ชุมชนปาตา ตำบลตันหยงลูโล๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี บ้านเรือนเสียหาย 30 หลังคาเรือน โดยมี 14 หลังที่เสียหายทั้งหลัง ส่วนเรือประมงได้รับความเสียหายหลายสิบลำ
หมู่ที่ 7 บ้านลุ่ม ตำบลปะเสยาวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี บ้านเรือนเสียหาย 10 หลังคาเรือน
หมู่ที่ 1 บ้านปาตาบาระ ตำบลปะเสยาวอ อำเภอสายบุรี บ้านเรือนเสียหาย 20 หลังคาเรือน เรือประมงได้รับความเสียหาย
บ้านละหาร ตำบลปะเสยาวอ บ้านเรือนเสียหายมาก 2 หลังคาเรือน
หมู่ที่ 5 บ้านบางราพา ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี บ้านเสียหายหนัก 1 หลัง น้ำท่วมขังบ้านเรือน 240 หลัง
หมู่ที่ 1 บ้านท่ากำชำ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก บ้านเสียหายหนัก 1 หลัง บ้านเสียหายบางส่วน 48 หลัง
นอกจากนี้ ยังมีที่ถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ได้แก่ พื้นที่บ้านจางา ตำบลปะกาฮารัง มีบ้านที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 200 หลังคาเรือน ชุมชนตะลุโบะ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี 80 หลังคาเรือน ชุมชนริมคลอง 200 หลังคาเรือน หมู่ที่ 2 บ้านปลาหมอ ตำบลรูสะมิแล 10 หลังคาเรือน หมู่ที่ 1 บ้านรูสะมิแล 300 หลังคาเรือน
ในพื้นที่ อำเภอหนองจิก โรงเรียนบ้านบางตาวา และบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง 350 หลังคาเรือน บ้านใหม่ ตำบล เกาะเปาะ อำเภอ 100 หลังคาเรือน บ้านมะพร้าวต้นเดียว ตำบลลิปะสะโง 100 หลังคาเรือน โรงเรียนยาบีและบ้านใกล้เคียง 100 หลังคาเรือน
นางสาวละม้าย เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้เริ่มมีความช่วยเหลือจากภายนอกเข้ามาบ้างแล้ว โดยจุดแรกที่ได้รับความช่วยเหลือคือพื้นที่บ้านบานา ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี จุดที่สองคือบ้านดาโต๊ะ เนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งอาหาร น้ำ และอุปกรณ์ยังชีพ รวมทั้งความช่วยเหลือในเบื้องต้นจากทหารที่อยู่ในพื้นและนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี และวิทยาลัยการอาชีวะปัตตานี ได้ลงไปช่วยซ่อมแซมระบบไฟฟ้าแล้ว
ขณะที่ต้องการของผู้ประสบภัยขณะนี้คือ ต้องการอาหาร น้ำ อุปกรณ์ในการประกอบอาหาร เช่น เตาแก๊ซ เนื่องจากเครื่องครัวหายไปกับน้ำท่วม เสื้อผ้าและเครื่องยังชีพอื่นๆ อีกเกือบ 2,000 ชุด รวมทั้งความต้องการซ่อมเรือ เนื่องจากเป็นเครื่องมือหากินหลัก แต่ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
“ชาวบ้านในพื้นที่รอบอ่าวปัตตานีส่วนใหญ่มีอาชีพหลัก 2 อย่าง คือ ถ้าไม่ประมงหากินอยู่กับทะเลก็ไปมาเลย์ ทำงานที่นั่น แต่ตอนนี้ไม่สามารถลงทะเลได้แล้ว เพราะเรือพังสายหายมาก ทั้งเครื่องยนต์หรือไม้กระดานเรือ ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหน่วยงานที่น่าจะช่วยได้ คือ กรมประมง” นางสาวละม้าย กล่าว
“ส่วนบ้านที่เสียหาย ก็น่าจะเป็นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างไรก็ตามตนได้ประสานไปยังสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์กรมหาชน) หรือ พอช. ให้มาช่วยเหลือในเรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ซึ่งทาง พอช. แจ้งว่า ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว” นางสาวละม้าย กล่าว