จาก “ดันเคิร์ก” ถึงกาซ่า เวสต์แบงค์ และยะไข่
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
ใครชอบชมภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ อยากแนะนำเรื่อง “ดันเคิร์ก” (Dunkirk) ที่สร้างโดยคริสโตเฟอร์ โนลัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จับเอาหนึ่งในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองมานำเสนอ เป็นช่วงระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคมถึง 4 มิถุนายน ค.ศ.1940 ความผิดพลาดในการตัดสินใจของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนีในเหตุการณ์ดันเคิร์กครั้งนั้นว่ากันว่ามีส่วนทำให้ประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สองในเดือนกันยายน ค.ศ.1939 กองทัพเยอรมนีบุกโปแลนด์เป็นเหตุให้อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน ช่วงที่นาซีใช้เวลาปรับทัพเพื่อเตรียมรุกเข้าฝรั่งเศส อังกฤษได้โอกาสส่งทหารเกือบสามแสนนายเข้าไปตรึงกำลังในฝรั่งเศส กระทั่งเยอรมันเริ่มโจมตีเนเธอร์แลนด์ใน ค.ศ.1940 นั่นแหละ กองทัพผสมอังกฤษฝรั่งเศสจึงรุกข้ามพรมแดนเข้าไปในเบลเยี่ยมแต่ต้องพ่ายแพ้ต่อทัพนาซี ถึงเดือนพฤษภาคม 1940 ทัพผสมอังกฤษ-ฝรั่งเศส-เบลเยี่ยมจำนวน 400,000 นายถูกล้อมกรอบสามด้านที่ดันเคิร์กเมืองชายฝั่งทางเหนือของฝรั่งเศส เปิดส่วนที่เป็นทะเลไว้ซึ่งเยอรมันคิดว่ายากที่จะรอดเนื่องจากทัพอากาศนาซีคุมน่านฟ้าไว้ทั้งหมด
นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าหากการปิดล้อมที่ดันเคิร์กครั้งนั้นฮิตเลอร์ตัดสินใจโจมตีขนานใหญ่ด้วยกองทัพรถถังแพนเซอร์ผสมผสานกับทัพฟ้าลุฟวาฟฟ์ ชัยชนะในยุโรปตะวันตกคงไม่หนีไปไหน การจัดการกับอังกฤษและรัสเซียในภายหลังคงไม่ยุ่งยาก การปล่อยให้กองทหารอังกฤษหลุดรอดข้ามทะเลกลับไปตั้งหลักที่อังกฤษได้พร้อมทหารฝรั่งเศสกับเบลเยียมส่งผลให้โฉมหน้าของสงครามเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากนายทหารอังกฤษที่รอดเงื้อมมือเยอรมันในครั้งนั้นล้วนเป็นมือดีที่ทำให้เยอรมันพ่ายแพ้ในภายหลัง
ในภาพยนตร์จะได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า Dunkirk spirit นั่นคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชนอังกฤษที่พากันนำเรือเล็กเรือน้อยเกือบพันลำข้ามทะเลระยะทางกว่า 76 กิโลเมตรรอนแรมรอบแล้วรอบเล่าทั้งวันทั้งคืนตลอดระยะเวลา 9 วันนำทหารอังกฤษและพันธมิตรกลับมายังอังกฤษอย่างปลอดภัยได้มากถึง 330,000 นาย เกินกว่าที่นายกรัฐมนตรีเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล คาดไว้ถึงสิบเท่า เป็นความพ่ายแพ้ยกแรกของอังกฤษที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนรู้ นำทั้งความสำเร็จและล้มเหลวมาเป็นบทเรียนสอนใจคนรุ่นหลัง เหตุการณ์ดันเคิร์กครั้งนั้นช่วยให้อังกฤษลากยาวสงครามไปได้นานถึงห้าปีแม้มีชัยชนะในท้ายที่สุดทว่าต้องเจ็บปวดทนทุกข์สุดจะทานทนระหว่างสงคราม ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล เป็นหนี้สินล้นพ้นตัวเพิ่งเป็นไทต่อตนเองได้เมื่อไม่ถึงยี่สิบปีมานี้เอง เมื่อรำลึกถึงแล้วอยากให้รับรู้ถึงความขมขื่นของคนหลายชาติที่ในวันนี้ต้องทนทุกข์แสนสาหัสบ้านแตกสาแหรกขาดจากผลพวงที่นักการเมืองอังกฤษในอดีตเคยสร้างไว้ บางชนชาติถึงขนาดถูกล้อมกรอบจากศัตรูไม่ต่างจากลูกชาวบ้านที่มาเป็นทหารอังกฤษเคยถูกล้อมไว้ที่ดันเคิร์ก หากในวันนี้ประชาชนชาวอังกฤษตัวเล็กๆสามารถสร้าง Dunkirk spirit ได้อีกครั้งอยากให้ร่วมกันล้างบาปช่วยเหลือเหยื่อทางการเมืองของอังกฤษเหล่านั้นบ้าง ช่วยหน่อยเถอะ