โดย อาคิรา ริวโอ
เพราะเด็กเก่งในชายแดนใต้มีมาก แต่เรียนต่อน้อย อัฟฮัม เจ๊ะมามะ นักศึกษาชั้นปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จึงจัดโครงการติวเพื่อน้องๆนักเรียนในชายแดนภาคใต้ ในฐานะประธานโครงการ “Senior sharing พาน้องพิชิตฝัน”
อัฟฮัมเริ่มจัดโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2558 หลังจากได้อ่านงานวิจัยชิ้นหนึ่งของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่บอกว่า เด็กภาคใต้ที่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเป็นจำนวนไม่ถึงครึ่งของเด็กที่จบชั้น ม.6 ทั้งๆที่เด็กใต้มีความเก่งอยู่ไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขากับเพื่อนๆ และรุ่นพี่อยากทำอะไรซักอย่างขึ้นมาเพื่อรุ่นน้อง เพื่อให้เด็กภาคใต้ได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาให้ได้มากที่สุด และเป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แถมยังเป็นการพัฒนาตัวเองด้วย
หลังจากทำโครงการ Senior sharing พาน้องพิชิตฝันได้ 2 ปี อัฟฮัมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้เห็นน้องๆผู้เข้าร่วมโครงการประสบความสำเร็จตามที่เขาต้องการ “มันก็จะดีใจจนบอกไม่ถูก เพราะเราไม่ใช่คนเก่งขนาดติวเตอร์ระดับประเทศ”
อัฟฮัม บอกว่า วัตถุประสงค์หลักของโครงการก็คือการทำให้น้องๆได้ค้นหาตนเองเจอ น้องๆจะรู้ว่าตนเองอยากไปเรียนอะไรต่อนั่นเอง
สิ่งที่อัฟฮัมได้รับหลังจากก่อตั้งโครงการนี้มีหลายอย่างมาก หลักๆคือ การพัฒนาตัวเอง สายสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งสมาชิกภายในกลุ่มและโรงเรียนที่เข้าไปติวให้นักเรียน
แต่ทุกอย่างที่ทำย่อมมีอุปสรรค เช่นเดียวกับโครงการ Senior sharing เพราะอัฟฮัมต้องเจออะไรหลายๆอย่าง เช่น บางโรงเรียนไม่ตอบรับคำขอทำกิจกรรมติวซึ่งอาจเพราะไม่มันใจในศักยภาพของโครงการ หรือโรงเรียนกังวลหากต้องพบกับนักเรียนที่มีพื้นฐานน้อยเกินไป แต่ทุกๆอุปสรรคก็คือการเรียนรู้ที่ทำให้เข็มแข็งกว่าเดิมและพัฒนาตัวเองต่อไป
อัฟฮัม บอกว่า ต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อนแล้วค่อยๆขยายต่อไป แม้จะใช้เวลานานแต่จะมั่นคงกว่า ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้คนที่ถูกติวเข้าใจและสามารถทำข้อสอบได้
อัฟฮัมเองก็ใช้วิธีนี้กับตัวเองจนประสบความสำเร็จแล้วในปี 2558 เพราะสามารถสอบได้ทำคะแนน Gat ได้เต็ม 150 คะแนน ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่คนในประเทศไทยที่ทำได้ในช่วงเวลานั้น
“นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมเปิดโครงการติว เพราะเคยทำได้คะแนนเต็ม ซึ่งการที่จะสอนใครซักคนได้ก็ต้องมันใจว่า ตัวเองมีความสามารถในด้านนั้นจริงๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมั่นใจว่า ถ้าเข้าร่วมแล้วจะได้อะไรจากการติวบ้าง”
เน้นเข้าหาน้องๆที่โรงเรียนมากกว่าการแนะแนว
โครงการ Senior Sharing พาน้องพิชิตฝันแตกต่างจากโครงการการติวอื่นๆตรงที่การเน้นเข้าหาน้องๆที่โรงเรียนต่างๆมากกว่าการแนะแนว ทางโครงการจะรวบรวมนักศึกษาที่มีความสามารถและอยากถ่ายทอดสิ่งต่างๆที่ตัวเองมีไปให้น้องๆถึงโรงเรียนเลย
โดยทั่วไปทางโครงการ Senior Sharing พาน้องพิชิตฝันจะออกไปติวช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอม เป็นช่วงนักศึกษาว่างกันทั้งช่วงปิดเทอม 1 และเทอม 2 และอีกช่วงคือในวันเสาร์ อาทิตย์ แล้วแต่ข้อตกลงที่ทำไว้กับทางโรงเรียน
สำหรับโรงเรียนแรกที่เริ่มโครงการนี้ก็คือ โรงเรียนดารุสสาลาม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากนั้นโรงเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส แต่ปัจจุบันได้ขยายโรงเรียนเป้าหมายในจังหวัดสงขลาและสตูลด้วย
ส่วนวิชาที่ติวมีทุกวิชา อยู่ที่ว่าทางโรงเรียนต้องการให้ติววิชาอะไร ซึ่งปกติแล้วจะติววิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ Gat Pat และ 9 วิชาสามัญ ส่วนอัฟฮัมเองก็เป็นคนติววิชา Gat เชื่อมโยง
ตั้งสมาคมติว รวมนักศึกษา 3 มหาลัยช่วยน้องๆชายแดนใต้
อัฟฮัม บอกว่า เป้าหมายในอนาคตของโครงการ Senior Sharing นี้หลังจากทำให้โครงการมีระบบเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว ก็จะจัดโครงการติวให้น้องๆทั้ง ม.5 และ ม.6 ต่อไป แม้ว่าหลังจากตนเองเรียนจบไปแล้วโครงการนี้จะมีต่อเรื่อยๆ โดยจะสืบทอดให้กับน้องรุ่นต่อๆไป
ขณะที่อัฟฮัมเองก็คิดวางแผนขยายการติวให้ใหญ่ขึ้นโดยจะจัดตั้งสมาคมส่งเสริมทักษะการเรียนและการค้นหาตนเองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจะมีทีมงานหลักทั้งหมด 15 คน เป็นนักศึกษาจาก ม.อ.หาดใหญ่ 5 คน ม.อ.ปัตตานี 5 คน และ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 5 คน
จากนั้นจะเปิดรับสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยตั้งแต่ชั้นปี 1 - 4 ที่มีความสนใจ และมีแนวคิดเหมือนกันมาเข้าร่วมสมาคมโดยมีเงื่อนไขว่า แต่ละปีจะต้องเข้าร่วมค่าย 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย หรือเป็นผู้ประสานงานกับโรงเรียนเป้าหมาย
สำหรับกิจกรรมใหญ่ๆที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คือการจัดติวที่ ม.อ.หาดใหญ่ช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยโครงการจัดร่วมกับชมรมมุสลิม ม.อ.หาดใหญ่ จากนั้นจะจัดค่ายติวขนาดกลางที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า
กว่าจะมาถึงจุดนี้
จากความพยายามดังกล่าว ทำให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การสนับสนุนเงินทุนส่วนหนึ่งเพื่อดำเนินการ เป็นการพัฒนาสังคม
กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคหลายๆอย่าง ซึ่งโครงการนี้เกิดจากแรงบันดาลใจจากความชอบส่วนตัวของอัฟฮัมเอง เพราะเป็นคนชอบสอนคนอื่นในสิ่งที่ตนเองรู้และถนัด และจะยิ่งชอบมากหากคนที่ตัวเองสอนมีความเข้าใจในสิ่งที่สอนไป
“เชื่อว่าความสามารถที่ตัวเองมีอยู่จะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ มันก็จะกลายเป็นการพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆด้วย สิ่งที่ชอบที่สุดคือรอยยิ้มของคนที่ได้สิ่งดีๆจากเราไป”
ถามว่า ในฐานะที่เป็นนักศึกษาวิศวฯและยังเป็นประธานโครงการ Senior Sharing ไปด้วยนั้นอัฟฮัมแบ่งเวลาเรียน เวลาพักผ่อนและเวลาทำงานอย่างไร อัฟฮัมบอกว่า ใช้สูตรแปดบวกลบสอง คือ 6 ถึง 10 ชั่วโมงสำหรับนอน 6 ถึง 10 ชั่วโมงสำหรับเรียน และ 6 ถึง 10 ชั่วโมงทำงานหาประสบการณ์
“สำหรับผม สิ่งที่ทำในปัจจุบัน คือตัวกำหนดสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
อัฟฮัม ทิ้งท้ายว่า คนเป็นประธานโครงการต้องทำได้ก่อนแล้วถึงจะให้คนอื่นทำตาม หัวหน้าต้องเป็นคนที่มีความสามารถ ถึงจะพาทีมไปให้ประสบความสำเร็จได้ เมื่อลงมือทำแล้ว แม้ความสำเร็จอาจจะ 50-50 แต่ถ้าคิดแล้วไม่ลงมือทำ ความสำเร็จก็เท่ากับ 0
“...ไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้ เพียงแต่จงมั่นใจในศักยภาพที่ตนมี”
ที่มา http://www.deepsouthwatch.org/dsj/th/11273
หากสนใจโครงการติวติดต่อ 0822698243 หรือทางเฟส Afham Chemama เพจ Senior sharing พาน้องพิชิตฝัน
