ระเบิดยะลา:คู่ขัดเเย้งต้องปรับอะไรบ้าง
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
[email protected], http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
เหตุระเบิดตลาดพิมลชัย ตลาดสดกลางเมืองยะลา จนมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตเเละ บาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ออกไปจับจ่ายซื้อกับข้าว ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่หลายฝ่าย "รับไม่ได้"
จนหลายฝ่ายรวมทั้งผู้เขียนขอแสดงความเสียใจและประณามผู้ก่อเหตุเพราะมัน ค้านหลักการอิสลามและหลักการสากล ถึงเเม้จะมีการพบใบปลิว(ไม่รู้จริงหรือเท็จ)เรียกร้องการปลดปล่อยปตานีจากรัฐสยาม อันเนื่องมาจาก คำสั่งสอนและหลักการของอิสลามมุ่งที่จะพิทักษ์รักษาสิทธิมนุษยชนซึ่งหมายรวมถึงสิทธิในชีวิต ครอบครัว ความเชื่อ ความคิด และทรัพย์สิน หลักการศรัทธาในอิสลามห้ามไม่ให้มีการทำร้ายผู้อื่น ซึ่งการทำร้ายผู้อื่นนั้นเปรียบเสมือนการทำร้ายมนุษยชาติ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮฺมาอีดะฮฺ โองการที่ 34 ความว่า"แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่ทดแทนอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้ว ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล
ในขณะที่ภาวะสงครามตามทัศนะอิสลามท่านศาสนฑูตก็ยังกฎกติกามารยาทภาวะสงครามห้ามฆ่าเด็ก สตรี ผู้บริสุทธิเเม้กระทั่งต้นไม้(โปรดดูบทความผู้เขียนก่อนหน้านี้ญิฮาดกับการก่อการร้าย https://prachatai.com/journal/2007/03/11818)
ชัยคฺ ยุซุฟ อัลก็อรฏอวีย์ประธานสหภาพปราชญ์โลกมุสลิม เรียกร้องให้มุสลิมหยุดใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ซึ่งมันจะทำความหม่นหมองให้กับภาพลักษณ์ของอิสลามและนำอิสลามข้องเกี่ยวกับลัทธิก่อการร้าย "ฉันขอเรียกร้องให้พวกเขารำลึกถึงอัลลอฮฺ และหยุดการกระทำของพวกเขาเถิด ซึ่งมันจะตีตราอย่างอธรรมต่ออิสลามและเป็นการเสียหายแก่ผู้ที่ยึดมั่นอิสลาม" รวมทั้งการใช้ความรุนแรงที่ไม่อยู่ภายใต้หลักการอิสลามและสากลยิ่งเพิ่มความเกลียดชั่งมุสลิมทั่วโลกและประเทศดังที่เราตามสื่อต่างๆในปัจจุบัน
ในขณะอง ค์กรภาคประชาสังคมต่างๆในพื้นที่ได้ร้องขอตลอดต่อคู่ขัดแย้งว่าขอพื้นที่ปลอดภัยโดยเฉพาะตลาด จนแล้วจนรอดตลาดก็ยังเป็นพื้นที่ต่อรองอะไรไม่ทราบแต่ก็มักถูกมองว่าต่อรองทางอำนาจและการเมืองจนนำความสูญเสียครั้งนี้
(โปรดอ่านรายละเอียดใน https://www.deepsouthwatch.org/node/11627)
ระเบิดในที่สาธารณะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยLAMPAR พร้อมองคกร์ประชาสังคมชายเเดนใต้อื่นๆมีทัศนะสอดคล้องว่าผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บจะนับถือศาสนาหรือจะมีเชื้อชาติใดก็ตาม ผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บก็เป็นประชาชนพลเรือนที่ไม่ได้เป็นผู้ใช้กำลังอาวุธของทุกฝ่าย ในทางกลับกันยังเป็นเป้าหมายทางการเมืองในการต่อสู้ของคู่ขัดแย้งหลักด้วยซ้ำ เพราะต่างก็อ้างว่าทำเพื่อประชาชนจะได้มีชิวิตในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน จึงไม่สมควรอย่างยิ่งประชาชนพลเรือนสามัญชนจะมาเป็นเป้าหมายทางอาวุธจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ข้อเสนอแนะ ต่อคู่ขัดแย้ง
1. ฝ่ายที่รัฐ
1.1 ปฏิรูประบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บอกว่ามีจำนวนมาก ลงทุนไปมหาศาลให้กลับไปตรวจสอบดูประสิทธิภาพการใช้งาน ที่ตรงกับยุค 4.0 หรือไม่อย่างไร ถ้าไม่จะทำอย่างไร ข้อสงสัยคนพื้นที่ ทำไมอาชญากรรมไม่ว่าที่กระบี่ ที่ไหนในประเทศไทยตำรวจไทยมีความสามาถมากจนสามารถจับได้ทันท่วงที มีหลักฐานมัดตัวแน่น เอาไปฝั่งหลายปีแล้วยังจับได้ แต่จชต.เหตุการณ์ 14 ปี มีทั้งตำรวจ ทหาร ด่านต่างๆทั้งทางหลัก ทางหมู่บ้าน ยังจับไม่ได้จับแล้วหลักฐานไม่แน่น แถมทั้งยัง เดือดร้อนคนบริสุทธิอันเป็นผลให้ ไฟใต้เพิ่มหรือโหมความรุนแรง
1.2 ปฎิรูปประสิทธิภาพของระบบการใช้กำลังในแนวคิดที่จะใช้กำลังคนน้อยแต่เกิดประสิทธิภาพมากกว่าการทุ่มกำลังพลว่าจะทำอย่างไรเพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังคนที่ทำงานด้านความมั่นคงถ้าเฉลี่ยกับประชากรแล้วถือว่าสูงและมันเป็นผลให้ยิ่งเพิ่มความหวาดระแวง
2. สำหรับข้อเสนอแนะต่อคู่ขัดแย้งของรัฐที่ต้องการเอกราชทุกกลุ่ม ข้อเสนอเดียวก็คือกล้าประกาศความรับผิดชอบว่าตัวเองไม่ได้ทำและร่วมประณามคนที่ทำรวมทั้งเรียกร้องเอาคนผิดมาลงโทษเพราะมิฉะนั้น ประชาชนอีกมาก ยังสงสัย ในขบวนการของท่าน อีกทั้งง่ายที่รัฐซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งท่านจะโยนความผิดให้กับท่าน สุดท้ายในทางการเมืองท่านจะหมดความชอบธรรมในการต่อสู้เรียกร้องเอกราชต่อนานาชาติทั้งโลกมุสลิมและสากล เพราะ เขามองว่าไม่เฉพาะรัฐเท่านั้นที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่กลุ่มของท่านก็ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน ซึ่งค้านทั้งหลักการศาสนาอิสลามและกฎหมายสากล(โปรดดูรายงาน ย้อนหลังได้กลุ่มขบวนการเองก็ละเมิดสิทธิมนุษยชน https://www.deepsouthwatch.org/.../raayngaansthaankaarnsiththimnusychn_3.... )
Ustaz Adnan Sulung ได้เขียนในเฟสบุคส์ส่วนตัวว่า
"ถ้ายังไม่แมนพอที่จะยอมรับว่าทำ แล้วไปจ่ายค่าเสียหาย จ่ายค่าดียะห์ที่ทำให้ครอบครัวหนึ่งต้องสูญเสียลูกที่ฮาฟิซกุรอ่านคนหนึ่ง วันอาคีรัตจะเอาอะไรไปจ่าย งานการที่เป็นแบบนี้ไม่คุ้มค่าอะไรเลย แต่ละครั้งได้แต่ติดลบ"
اللهم إني أبرأ مما فعله السفهاء منا
ข้อเสนอแนะต่อทั้งสองฝ่ายคือจะร่วมกันเปิดพื้นที่ทางการเมืองและสื่อสารในช่องทางต่างๆที่สามารถทำได้ในยุค 4.0 นี้กับประชาชนของตนอย่างไร ว่า ท่านจะมีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรในการหากทางออกจากความขัดแย้ง และร่วมกันกระฉากหน้ากากไอ้โม่งที่เอาประชาชนเป็นเยื้อแล้วโยนความผิดให้กับคนอื่น