ระหว่าง OIC กับ Human Rights Watchในสถานการ์ปตานี/จชต.
อุสตาซ อับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์ ดินอะ
จากข่าวที่คณะ OIC เยือนปตานี/ชายเเดนใต้เพื่อรับทราบความคืบหน้าของสถานการณ์ ในพื้นที่เเละรับทราบความคืบหน้านโยบายรัฐต่อการเเก้ปัญหาเเละพัฒนาปตานี/ชายเเดนใต้ภายใต้การจัดกำหนดการ คน เเละพื้นที่ซึ่งรัฐมองว่าสามารถสร้างเครดิตให้กับรัฐเเละมีเเนวโน้มดิสเครดิตฝ่ายขบวนการเป็นการช่วงชิงการนำในเวทีนานาชาติโดยเฉพาะโลกมุสลิมนับว่ารัฐมีความฉลาดมากในการดำเนินนโยบายในขณะที่ภาพรวมด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยเเละปตานี/ชายเเดนใต้ในสายตา Human Rights Watch (สาขาเอเชีย) กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะข่าวล่าสุดที่รัฐฟ้อง JOP หรือเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ฟ้องอิสมาเเอ เตะทั้งๆที่เขาชนะคดีที่ฟ้องรัฐซ้อมทรมาน
(โปรดดู
https://www.isranews.org/south-news/other-news/63908-deligate.html
https://www.voicetv.co.th/read/rkJ7IcMdG)
การออกมาสัมภาษณ์ที่ดูว่าสวนทางกันของสององค์กร ท่ามกลางการเฝ้ามองขององค์กรภาคประชาสังคมจังหวัดชายเเดนภาคใต้หลายภาคส่วนยังมองว่ารัฐพยายามให้ข้อมูลเฉพาะด้านดีเเก่ OIC ในขณะที่พยายามปกปิดการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดหรือไม่เอื้อต่อการสร้างภาวะเเวดล้อมของกระบวนการสันติภาพท้ายสุด OIC ซึ่งเหมือนตาสับปรดเเละมีข้อมูลอีกชุดโดยเฉพาะข้อมูลจากองค์กรนานาชาติอย่าง Human Rights Watch
น่าจะชังน้ำหนักได้เเละที่สำคัญหากเหตุการณ์ยังคงสวนทางอย่างนี้ปรากฏการณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทุกวันอาจทำให้ OIC ยังไม่ไว้ใจไทย
ดังนั้นการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศในเชิงรุกที่ดีมั่นคงคือจะต้องใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม โปร่งใสเเละตรวจสอบได้ต่างหากที่จะทำให้ทั้งสององค์กรนี้รับรองเรา