Skip to main content
หลังจากมรสุมขนาดใหญ่ซัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและพื้นที่บางส่วนของอันดามัน ผู้คนก็เกิดการวิตกอีกรอบเมื่อ มีการเตือนล่วงหน้าของกรมอุตุ
 
อากาศที่นี่เริ่มแปรปวนหลังจากที่ฟ้าฝนปรับเปลี่ยนฤดูกาล บ้านเมืองกำลังถูกรุมเร้าด้วยสายฝนแห่งการขาดจริยศาสตร์และจริยธรรม ยังไม่รวมธรรมมะและความเท่าเทียม  
 
นับเป็นภาพที่ปรากฏอย่างชัดเจนให้กับสายตาของบุตรธิดาบนผืนดินเดียวกันที่เราเรียกกันว่า ประเทศไทย
 
ยังไม่รวมถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้ ในวิกฤติการณ์แบบนี้ สังคมเราหรือ จะอยู่เฉย ผู้คนต่างดิ้นรนกันไปเพื่อความอยู่รอด แม้กระทั่งการดิ้นรนดังกล่าวเพื่อปัจเจกและกลุ่มคนส่วนน้อยในพื้นที่ภาคส่วนน้อย
 
กระนั้น สิ่งที่น่ากังวลไปกว่านี้ก็คือ การล่มสลายลงของระบบจรรยาและศีลธรรมของผู้คนร่วมผืนแผ่นดินอย่างไม่เป็นท่า เมื่อบางสถานศึกษา ระบบการศึกษาเริ่มปิดตัวลงในพื้นที่เกี่ยวโยงกับศาสตร์ทางด้านปรัชญาและศาสนา ก็จริงอยู่เมื่อมองแบบแยกส่วน ศาสนากับสังคมนับเป็นอะไรที่มีความหมายค่อนข้างต่างกัน ทว่า
 
เมื่อมองอย่างไม่หลบตา สังคมนั้นคงอยู่ยากเมื่อขาดจรรยาแห่งศาสนาและศีลธรรมเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดวิถีดังกล่าว เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า
 
ศาสนากับสังคมคือเรื่องเดียวกัน
 
ตัวอย่างล่าสุดคงปรากฏให้เห็นและน่าจะเก็บมาเป็นบทเรียนมากกว่าที่ปล่อยให้มันผ่านเลยตามเลยไปอีก เรื่องการแบกแยกและแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหำหั่นกันเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลืองในเวทีการเมือง กระนั้นก็ดี เจ้าสำนักของศาสนาและลัทธิต่าง ๆ ก็แบ่งฝ่ายเพื่อโจมตีกันเพราะเหตุผลเรื่องความเชื่อและสิ่งที่เข้าใจ
 
แก่นแท้แห่งศาสนา ไม่น่าจะทำให้คนเราปลิดชีวิตกันเพียงนี้ แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
 
สุดท้าย เรื่องล่าสุดคือ การปะทะกันในสนามฟุตบอล นับเป็นข่าวที่เริ่มกระฉ่อนอยู่ในขณะนี้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรอื่นที่เรียนรู้ นอกจาก
 
เมื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง การหำหั่นก็จะตามมา 
 
เมื่อเราเลือกเคลียร์ผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มไม่ลงตัว หรือ เมื่ออัตตามันเกินจะควบคุม แม้ผลประโยชน์ลงตัวก็ไร้ผล
 
กระนั้นก็ดี
 
พายุแค่พัดพาเรือนร่างและบ้านเรือน ทว่าอัตตาและผลแห่งประโยชน์ได้ฉุดรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณของผู้คนและคนรุ่นใหม่ไปเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
 
ไม่แปลกที่ข้าพเจ้ายากจะหดสายตาออกจากการนั่งดูบุตรธิดาแห่งผืนดินเดียวกันหำหั่นกันเอง