รำพันถึงผู้มีความรับผิดชอบฮิญาบในประเทศไทย
Abu Haiyan
หน่วยงานกลางอิสลามยังสงวนท่าที เห็นปัญหานี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องที่ไม่น่านำเข้าพิจารณาในที่ประชุมในแต่ละครั้ง บางครั้งนำเข้าที่ประชุมแต่ไม่สำคัญเท่ากับปัญหาผลประโยชน์ที่สร้างฟิตนะฮฺได้ทุกวัน ไม่สอดส่องดูแลเรื่องนี้เท่าที่ควร ไม่มีคำตอบให้กับมุสลิมทั้งประเทศไทย “วันนี้ หน่วยงานนี้เป็นของท่านหรือของสังคมมุสลิมไทย หน่วยงานนี้มีไว้เพื่อสร้างบารมีของบุคคลหรือเพื่อทำธุระแทนมุสลิมในประเทศไทย ปัญหาผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่มีทางสู้ซึ่งต้องการแต่งกายให้ถูกต้องในสถาบันการศึกษา “หน่วยงานนี้ไม่สามารถแก้ได้” แล้วเรื่องอื่นๆที่ใหญ่กว่าท่านสามารถแก้ได้หรือ ?”
องค์กรเอกชนมุสลิมในประเทศไทยกำลังทำหน้าที่เพื่อตนเองมากกว่าเพื่อสังคมที่กำลังเรียกร้องใช้สิทธิ์ ไม่เคลื่อนไหวใดๆเลยที่มีผลหรือมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ยังกล้าๆกลัวๆ ยังไม่มีพลังพอหรือหมดพลังไปแล้ว หรือเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่หน่วยงานของท่านไม่ขอมีส่วนร่วม องค์กรของท่านยังไม่พร้อมที่จะปรากฏตัวอย่างภาคภูมิ บางองค์กรอ้างว่าเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดิน เคลื่อนไหวอยู่ห่างๆ เคลื่อนไหวในมิติที่ไม่มีใครรู้..แต่ก็ยังไม่ปรากฏว่าประสบผลความสำเร็จ ไม่มีพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงสภาพการแก้ปัญหาในเรื่องนี้เลย
นักวิชาการมุสลิมยังไม่ได้ทำหน้าที่เชิงรุก ท่านมีความรู้ความเข้าใจศาสนาสูงมากจนไม่สามารถมีปากเสียงกับเรื่องนี้ได้ ท่านสามารถติดต่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ แต่ท่านไม่อยากเปลืองตัวเอง พวกเขายังคงมีขัดแย้งในบางประเด็นจนไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย ไม่มีงานเขียน ไม่มีบทความ ไม่ถูกเอ่ยในคุฏบะฮฺ ไม่นำพูดคุยบรรยายบนเวทีการกุศล ไม่สะกิดสังคมเมื่อมีโอกาส
นักสื่อสารมวลชนมุสลิมมองข้ามปัญหานี้ ไม่สื่อสารให้สังคมเข้าใจเราในการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีคลื่นวิทยุภาคมุสลิมหลายสถานีทั้งประเทศ แต่พวกเขากลัวการนำเสนอเรื่องนี้ พวกเขากลัวภัยความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะเรื่องการใช้สิทธิ์แต่งกายแบบฮิญาบที่สามารถอ้างถึงกฎหมายไทยได้
นักการเมืองมุสลิมบางท่านมัวแต่ชิงดีชิงเด่นในสภาจนลืมว่ามุสลิมมีประเด็นเร่งด่วนที่เดือดร้อน พวกเขาไม่ทำให้ปัญหานี้เป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ ทั้งๆที่เป็นเรื่องของเขาที่เคยสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง บางท่านไม่ชนะการเลือกตั้งเพราะเขาเป็นตัวปัญหาในการแก้ไขปัญหาฮิญาบในพื้นที่ มุสลิมที่สังกัดสีเหลืองสีแดงไม่ยอมเข้ามาแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งๆที่รู้ว่าสีของตนเป็นตัวปัญหาที่ขัดขวางฮิญาบหนองจอกทุกวันนี้
..หมดหวังกับภาคส่วนต่างๆในสังคม ความเป็นผู้นำของเขา ความเป็นนักวิชาการของเขา ความเป็นนักเคลื่อนไหวของเขา "เกิดความล้มเหลวที่เห็นเด่นชัด" ..บางท่านพูดว่า "ไม่อยากเปลืองตัว" บางท่านอ้างว่า "มีองค์กรและบุคคลเคลื่อนไหวเรื่องนี้อยู่แล้ว" ..ถามว่า เราล่ะ ทำอะไรได้บ้างนอกเหนือไปจากการขอดุอาอให้ เราไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญได้เลยหรือ ..พี่น้องครับ ทบทวนตนเองเถิดครับ ปัญหานี้เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน !! เราไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ปรากฏอีกต่อไปในประเทศไทย และหนองจอกคือโมเดลการต่อสู้ที่ใหญ่ยิ่ง ..ตื่นเถิดครับมุสลิมไทย !! ..ตื่นเถิดครับผู้ศรัทธาทุกท่าน !! ..ท่านคือคนสำคัญในการแก้ปัญหาครั้งนี้
