Skip to main content

 บุหงาราตรี

 

“โครม...!” เสียงถีบประตูบ้านด้วยฝ่าเท้าเต็มแรง ทำให้ประตูเปิดออกทันที(เพราะกลัวโดนถีบอีก)  ทันทีที่ประตูเปิดออก ชายร่างใหญ่ในชุดลูกสมุนสี่คน และชุดเจ้าพ่อหนึ่งคน (ชุดเป็นยังไงโปรดจินตนาการเอาเอง) รีบเข้าไปในบ้านทันที

ภายในบ้านตกแต่งเรียบง่ายตามแบบฉบับมุสลิม  ลูกสมุนสุดหล่อมือขวาเจ้าพ่อ ไม่รอช้าเดินไปหา “บุหงา” ซึ่งกำลังละหมาดอยู่อย่างสงบ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่ขวางคอเจ้าพ่ออยู่ด้วยการพยายามถ่วงเวลาไม่ให้สร้างบ่อกุ้งในป่าชายเลน ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนได้

 

“เฮ้ย ....! กูมาฆ่ามึงว่ะ” ลูกสมุนสุดหล่อทำหน้าโหดแหกปากตะคอกใส่หน้าบุหงา  แต่เธอไม่แสดงอาการกลัวแต่อย่างใด และยังคงละหมาดต่อไปอย่างสงบ  ลูกสมุนสุดหล่อโกรธจัด 

ทำท่าจะตบเธอให้คว่ำ

“เดี๋ยวอย่าเพิ่งทำอะไรเธอ” เจ้าพ่อสั่ง

ลูกสมุนทั้งสี่หันไปทางเจ้าพ่อและทำหน้างงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห้าม  เจ้าพ่อเองก็ทำหน้างง  ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

“ขอบคุณค่ะ ที่รอฉันละหมาดจนเสร็จ” บุหงาทำหน้าเรียบหันไปขอบคุณเจ้าพ่อ

“ผมไม่อยากฆ่าคนใจถึงอย่างคุณเลย  แต่ผมต้องทำ คุณคงเข้าใจ” เจ้าพ่อทำหน้าเศร้าพูดกับบุหงา

“ไม่ต้องพูดมาก อยากจะทำอะไรก็เชิญ “เธอยังคงทำหน้าเรียบ แต่ลูกสมุนสุดหล่อทำหน้าย่นหมั่นไส้สาวหน้าเรียบ รีบอาสาจัดการลากหญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำทันที

“ปัง..ปัง.ปัง !” สิ้นเสียงปืนสามนัดเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของลูกสมุนสุดหล่อ(*หมายเหตุ งานนี้ลูกสมุนอีก 3 คน เป็นแค่ตัวประกอบ จึงไม่มีบทบาทอะไร...ผู้แต่ง)

เจ้าพ่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาดูศพบุหงานอนจมกองเลือดด้วยความสะท้อนใจ  เขาทำท่าจะก้มไปดูใกล้ๆ

“ไปกันเถอะนาย ศพอีนังนี้เดี๋ยวผมจัดการลากไปทิ้งเอง”

ณ บ้านเจ้าพ่อ

เวลา 02.05 น. เจ้าพ่อกระวนกระวาย นอนไม่หลับ เขายังสงสัยไม่หายว่าทำไมบุหงาไม่กลัวตาย

“หรือว่า....จะเป็นเพราะเธอละหมาด” เจ้าพ่อคิด

รุ่งขึ้นเจ้าพ่อสั่งให้ลูกสมุนสุดหล่อไปอุ้มคนที่มีความรู้เรื่องละหมาดมา ลูกสมุนสุดหล่อไปหาแถวสามจังหวัด เพราะแถวนั้นคนรู้เรื่องละหมาดมีเยอะ (อ๋อ...ที่อุซตาสโดนอุ้มไป เพราะยังงี้นี่เอง)

ถึงแม้ว่าเจ้าพ่อแค่อยากรู้เรื่องละหมาด แต่การละหมาดมันเชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆในอิสลาม  เจ้าพ่อเริ่มสนใจอิสลามและศึกษาอย่างจริงจังจนมีความรู้เรื่องอิสลามครอบคลุมทุกเรื่อง เมื่อรู้ว่าอิสลามดีอย่างไรแล้ว เจ้าพ่อจึงรับอิสลาม (ตามระเบียบเรื่องสั้นมุสลิม)

การรับอิสลามของเจ้าพ่อเป็นข่าวใหญ่ ช๊อกวงการเจ้าพ่อ ร้อนไปถึงสภาเจ้าพ่อโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่เซี้ยงไฮ้ ประเทศจีน

ประธานสภาเจ้าพ่อโลกเรียกคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศต่างๆทั่วโลกประชุมด่วนมาก และที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การที่เจ้าพ่อเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามเป็นความผิดร้ายแรง ขัดกับหลักจรรยาบรรณเจ้าพ่อ เจ้าพ่อขาดคุณสมบัติการเป็นเจ้าพ่อที่ดี จึงมีคำสั่งให้ปลดเจ้าพ่อออกจากตำแหน่งและขับไล่ออกจากวงการทันที และเนื่องจากเจ้าพ่อไม่มีทายาท จึงแต่งตั้งให้ลูกสมุนสุดหล่อให้เป็นเจ้าพ่อสุดหล่ออย่างเป็นทางการแทนและมีสิทธิถือครองผลประโยชน์ในกิจการทุกอย่างของเจ้าพ่อ ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เจ้าพ่อสุดหล่อกลัวคนอ่านสับสน นอกจากจะสั่งให้ขับไล่เจ้าพ่อให้ออกจากวงการแล้วยังให้เปลี่ยนชื่อเป็น “อาบูมุสลิม”

อาบูมุสลิมรู้ดีว่าต้องสูญเสียอะไรเพื่อแลกกับการให้ได้มาซึ่งการเป็นมุสลิม เขาได้เตรียมวางแผนไว้แล้วว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร และเขาคงได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่วางไว้แล้วหากไม่ได้รับรายงานบางอย่างจากอดีตลูกน้อง

“ท่านครับ บุหงายังไม่ตาย ....พวกเราสงสัยว่าที่นายรับอิสลามอาจเป็นแผนของเจ้าพ่อสุดหล่อครับท่าน” 

ลูกสมุนของอดีตเจ้าพ่อโทรรายงาน

“อืมม...ตอนนี้บุหงาอยู่ไหน”

“บ้านพักเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มันทำงานอยู่ครับท่าน”

 

 

หน้าบ้านพักของบุหงา

อาบูมุสลิมแปลกใจที่มีลูกสมุนเจ้าพ่อสุดหล่อหลายคนกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ในบริเวณบ้านของบุหงา ใจหนึ่งกลัวว่าบุหงาจะตกอยู่ในอันตราย แต่อีกใจก็ระแวงว่าบางทีบุหงาอาจร่วมมือกับเจ้าพ่อสุดหล่อก็ได้ อาบูมุสลิมอยากรู้ความจริง จึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นลูกสมุนของเจ้าพ่อสุดหล่อเขาไปในบ้านพักของบุหงา

และแล้วอาบูมุสลิมก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อบังเอิญได้ยินเรื่องที่เจ้าพ่อสุดหล่อกับบุหงาคุยกัน

“บุหงาน้องรักของพี่สุดหล่อเนี่ยเก่งมากนะจ้ะ ที่คิดแผนแกล้งตายได้  แล้วก็ทำให้ไอ้หน้าโง่นั่นมันเปลี่ยนศาสนาได้” เจ้าพ่อสุดหล่อทำหน้าหล่อชมน้องสาว

“พี่เองก็เก่งที่รู้ว่าจริงๆแล้วมันสนใจสัจธรรม ฉันก็เห็นแต่อิสลามนี่แหล่ะที่เป็นสัจธรรมจริงๆ ก็เลยปลอมเป็นมุสลิม ให้มันสนใจอิสลาม แล้วก็ได้ผลดีซะด้วย แต่ฉันเสียดายน้ำหวานที่เราทำเป็นเลือดจัง ใช้ตั้งหลายขวด 

กว่าจะได้เลือดเยอะขนาดนั้น” บุหงาทำหน้าเสียดายน้ำหวาน

 

อาบูมุสลิมแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น เลือดนักเลงเก่าพลุ่งพล่าน เขาไม่คิดจะฆ่าใครอีกแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามเลี่ยงที่จะฆ่าใครก็ตาม แต่ชีวิตการเป็นเจ้าพ่อไม่อาจเลี่ยงได้ ถึงเขาจะพยายามเลี่ยง แต่เขาก็เคยฆ่าคนตายมาแล้วนับไม่ถ้วน เขาตั้งใจไว้แล้วว่านับจากเขาเปลี่ยนศาสนา จะไม่มีใครตายด้วยน้ำมือเขาอีก แต่แล้ว...เขาก็จำเป็นต้องยกปืนเล่งไปที่คนทั้งสองและลั่นไกปืน....

“ปัง ...ปัง ..!” เสียงปืนดังลั่นบ้าน ตามด้วยเสียงร้องโอดโอยของคนทั้งสอง  อาบูมุสลิมรีบออกจากบ้านพักของบุหงาเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตนเป็นคนยิง

อาบูมุสลิมเดินไปยิ้มไป  มีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ นั่นคือการให้อภัย เขาให้อภัยบุหงากับเจ้าพ่อสุดหล่อ  ก็เพราะท่านนบีสอนเขาแบบนั้น อย่างน้อยก็คิดซะว่าการที่เขาช่วยยิงขู่มือปืนสองคนที่แอบจะยิงบุหงากับเจ้าพ่อสุดหล่อ

ก็ถือเป็นการตอบแทนที่ทั้งสองคนได้ทำให้เขาเป็นมุสลิม

“ก็โออ่ะนะ” อาบูมุสลิมรำพึงเบาๆ

 

หมายเหตุ : เคยตีพิมพ์ในวารสารโรตีมะตะบะ (ฉบับที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว)