เรื่องเล่าจากเบลเยียม 02 :
สนามเด็กเล่นไม่หายไป
ที่เมือง antwerp ซึ่งเหมือนกับทุกเมืองในยุโรป สนามเด็กเล่นเป็นสีสันที่สำคัญของเมือง เป็นพื้นที่สาธารณะของเด็กและครอบครัว เป็นสิทธิของเด็กที่ต้องการพื้นที่ของเขาในฐานะพลเมืองเช่นกัน เทศบาลเป็นเจ้าของ สร้างขึ้นและดูแลรักษา ดูแลทั้งด้านความสะอาดและความปลอดภัย สนามเด็กเล่นแห่งนี้มีพื้นที่กว้างหลายไร่ วิ่งเล่นได้เป็นชั่วโมง โครงสร้างของเล่นใหญ่โตชวนให้เล่น ชวนให้เพิ่มการออกกำลังและแก้ปัญหาเด็กอ้วนได้ด้วย อยากจะเล่นของเล่นก็ไม่ต้องไปเข้าในศูนย์การค้าเหมือนบ้านเรา ในเมืองที่มีประชากร 4 แสนคนแห่งนี้ มีสนามเด็กเล่นที่มีพื้นที่หลายไร่นี้ ไม่น้อยกว่า 4 แห่ง หันกลับมามองบ้านเรา เทศบาลต่างๆในประเทศไทย ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เอาเสียเลย สนามเด็กเล่นเป็นตัวชี้วัดเรื่องสิทธิเด็กและเรื่องคุณภาพชีวิตที่สำคัญของความเป็นเมืองครับ
เรื่องเล่าจากเบลเยียม 03 :
ต่อเรื่องสนามเด็กเล่นอีกนิดครับ สนามเด็กเล่นที่นี่ ไม่ได้มีแต่ที่มีขนาดใหญ่โต ในชุมชนที่มีที่ดินว่างสักสามห้องห้าห้อง และเป็นที่สาธารณะ ทางเทศบาลก็มาจัดสร้างเป็นสนามเด็กเล่นและสวนหย่อม ดูแลให้สะอาด มีเครื่องเล่นง่ายๆเช่นม้าโยกอย่างในรูป แล้วก็กระดานลื่นและชิงช้า มีเก้าอี้ให้ผู้คนมาพบปะพูดคุยกัน คนเมืองที่นี่ยิ่งกว่าบ้านเราคือทำงานหนัก กลับบ้านเย็น หากไม่มีพื้นที่กลางในชุมชน ทุกคนก็อยู่แต่ในบ้าน ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มาคุยกัน เด็กก็ไม่ได้มาเล่นกัน การมีพื้นที่สาธารณะในชุมชนแม้จะเล็กๆ แต่มีความสำคัญมากมายในการสร้างความเป็นชุมชน สร้างความเป็นประชาสังคม และเพิ่มพื้นที่ในการเติบโตของเด็กด้วย
พื้นที่สาธารณะในบ้านเราก็มีไม่น้อย อย่างน้อยก็ในโรงเรียน วัด ยังมีสวนหย่อมริมถนน หรืออาจมีพื้นที่ราชพัสดุหรือของส่วนราชการอีกไม่น้อย หากเทศบาลในฐานะผู้อาสาพัฒนาคุณภาพคนเมือง เห็นความสำคัญในการสร้างพื้นที่สาธารณะ ที่มีทั้งสีเขียวและสนามเด็กเล่นแล้ว ไม่ต้องใหญ่โตเสมอไป แต่ขอให้มีกระจายจุดให้มากที่สุด แล้วเมืองจะน่าอยู่ขึ้นอีกมาก ส่วนเด็กหน้าตาเอเชียในรูปก็ใช่ใครอื่นไกล ลูกสาวผมเอง มาเที่ยวตอนปิดเทอมเดือนตุลาที่ผ่านมาครับ